เบื้องหลัง ดีลครั้งสำคัญ แกรมมี่-อาร์เอส กว่า 5 ปี แย้มราคาบัตรคอนเสิร์ต

เปิดเบื้องหลัง ดีลครั้งสำคัญ แกรมมี่-อาร์เอส กว่า 5 ปีถึงสำเร็จ แย้มราคาบัตรคอนเสิร์ต

หลังจากแถลงข่าวใหญ่เรื่องการจับมือกันตั้งกิจการร่วมค้า ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE นำนักร้องของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่กับอาร์เอส มาแสดงคอนเสิร์ตร่วมกัน

ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ วิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ก็ร่วมกันให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังการร่วมงานครั้งนี้

Advertisement

โดยเมื่อถามว่า เป็นงานที่เกิดขึ้นได้ เพราะใครจีบใคร?

ซึ่งภาวิตบอก “ทุกคนเตรียมตัวมา จริงๆ ต่างคนต่างเข้าหากัน ในช่วงเวลาต่างกัน แต่ในอดีตอาจจะอยู่ในช่วงเวลาไม่เหมาะสม เลยยังไม่เกิดขึ้น จนถึงเวลาที่ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดหน้าคุยกัน ส่วนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย คุยกันยังไงก็รับรู้ เขาก็ปล่อยให้เราตัดสินใจ จีบกันมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี

ส่วนเหตุผลที่ทำให้คลิกกันได้ ตกลงกันเรียบร้อยในท้ายที่สุด วิทวัสก็ว่า “หนึ่งคือเวลา หลังโควิดจัดกิจกรรมแล้วเรื่องของการพูดคุยก็ค่อนข้างลงตัว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ซัพพอร์ต หลังจากนั้นก็จะเป็นการเจรจาเรื่องความร่วมมือกัน ผมว่าเป็นเรื่องของความลงตัวเหมาะสมด้วย”

Advertisement

ส่วนหลังจาก 3 ปีที่บอกไว้ จะมีแผนทำอะไรต่อหรือไม่ วิทวัสบอกคงต้องคุยกันอีกครั้ง รวมถึงดูผลตอบรับที่จะเกิดขึ้น

ในส่วนของรายได้จากการร่วมมือกันทำงานครั้งนี้ วิทวัสคาดว่ากำไรน่าจะอยู่ที่ 100- 600 ล้านบาท เแต่ก็ต้องดูเรื่องของผลตอบรับอีกที

ขณะที่เรื่องการลงทุน ภาวิตบอกว่า ปกติคอนเสิร์ตจะลงทุนหลัก 100 ล้าน

ครั้นเมื่อถามว่าจากภาพที่เป็นคู่แข่งขันกันมา หลังจากโปรเจ็กต์ก็คงไม่ใช่ เรื่องนี้ภาวิตบอกว่า “จริงๆ การทำธุรกิจต่างคนก็ต่างทำ เป็นเรื่องภายนอกที่มองว่าเราเป็นคู่แข่งกันหรือเปล่า ผมมองว่าในส่วนการทำธุรกิจ ทุกธุรกิจมีการแข่งขันเป็นเรื่องปกติ ใดๆ ที่เราร่วมกันได้ผมว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดี

ถ้าถามเกิน 3 ปีไปแล้ว จะทำอะไรอย่างอื่นหรือเปล่า เราต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นเราต้องโฟกัสทำคอนเสิร์ตร่วมกัน แต่เรามีการประเมินร่วมกันตลอดเวลาว่าในการที่เราเปิด JV (Joint Venture) หรือกิจการร่วมกันในครั้งนี้ มันก็เป็นการร่วมลงทุนกันทั้ง 2 ฝั่ง อะไรที่ทำให้อุตสาหกรรมเติบโตได้มันก็เป็นเหตุผลที่ดีที่เราจะคุยกันได้เรื่อยๆ”

เรื่องการลงทุน วิทวัสบอกว่า แบ่งกันคนละ 50-50 ภาวิตเสริมว่า “เราเองทำงานด้วยความไว้ใจกัน ร่วมลงทุนเท่ากัน แบ่งรายได้กำไรเท่ากัน ต่างคนต่างมีศักยภาพและความเชี่ยวชาญสัมพันธ์กัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ได้ก็แบ่งกันเป็นเรื่องปกติ”

สำหรับการร่วมมือกันครั้งนี้ วิทวัสยังมองด้วยว่าจะส่งผลให้เพลงไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

“อย่างน้อยการที่เรามาจับมือสร้างคอนเสิร์ตที่เป็นปรากฏการณ์ ในส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของการส่งเสริมการสร้างศิลปินในไทย สร้างกระแสสร้างความนิยมให้กับศิลปินไทย ไม่ว่าจะเป็นศิลปินที่รู้จักกันอยู่ แล้วก็เป็นกำลังใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่ ผมว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้ก็เป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราคาดหวังจะต่อยอดให้อุตสาหกรรมเพลงไทย โดยเฉพาะเพลงไทยให้มีความนิยมมากขึ้น ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับคนไทยมากขึ้นเพราะฉะนั้นเราจะพัฒนาและต่อยอดออกไป นอกจากความสนุกแก่แฟนเพลงแล้วยังเป็นเรื่องของการปลุกกระแสให้คนไทยกลับมานิยมเพลงไทยด้วย”

“เรามั่นใจว่าทุกคอนเสิร์ต ใน ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE จะประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ และตั๋วน่าจะ Sold Out อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังจะช่วยสร้างกระแสให้ศิลปินและเพลงของทั้งสองค่ายให้กลับมาไวรัลอีกครั้ง ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ Music Assets ที่เรามี”

ในส่วนราคาบัตร ภาวิตบอกว่า “ตอบโดยมาตรฐาน คอนเสิร์ตเป็นปรากฏการณ์ ราคาก็ต้องปรากฏการณ์ นิดหน่อยๆ 2,000-6,000”

 

 

 

อ่านข่าวน่าสนใจ:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image