ผุดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ คนทำหนังชี้เกณฑ์คัดเลือกไม่เป็นธรรม เอื้อค่ายใหญ่

แบนสุพรรณหงส์
แบนสุพรรณหงส์

ผุดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ คนทำหนังชี้เกณฑ์คัดเลือกไม่เป็นธรรม เอื้อค่ายใหญ่

กำลังเป็นประเด็นกรุ่นในโลกของคนทำหนัง เกี่ยวกับเกณฑ์คัดเลือกผลงานเข้าชิง “รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์” หรือ “รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลในวงการผลิตภาพยนตร์ไทย โดยสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งมีมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี

หลังจาก ศราวุธ แก้วน้ำเย็น อาร์ต ไดเรคเตอร์ หรือ ผู้กำกับศิลป์ ภาพยนตร์เรื่อง “เวลา” (Anatomy of Time) ซึ่งกำกับโดย เก่ง-จักรวาล นิลธำรงค์ ที่ได้เข้าฉายในรอบ World Premiere งาน Venice International Film Festival เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี และได้รับรางวัล Bisato Award for Best Screenplay กระทั่งได้รับเสียงชื่นชมในกลุ่มนักวิจารณ์

ทว่า อาร์ต ไดเรคเตอร์ มือรางวัล กลับต้องฝันร้ายกับเกณฑ์คัดเลือกหนังเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติของไทย หลังหนังเรื่องเวลา ถูกตัดสิทธิเข้าชิง เหตุไม่ผ่านเกณฑ์จากกฎในปีนี้ที่ว่า “ต้องฉายในโรงภาพยนตร์ครบทั้ง 5 ภูมิภาคในไทย”

Advertisement

โดยเผยว่า “จากใจคนทำหนังไทย เมื่อคืนเป็นอีกหนึ่งคืนที่มีความสุข ในขณะที่เราตั้งตารอว่า ภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่เราทำจะได้รางวัลในประเทศไทยบ้างไหม สรุปเกินคาด เมื่อ ภาพยนตร์เรื่อง “เวลา” (Anatomy of Time) ได้คว้ารางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” คมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่19 และ ผู้กำกับ พี่เก่ง จักรวาล ของเรา ได้คว้ารางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม แห่งปี ก็ดีใจและภูมิใจมาก

หลังจากได้รางวัลจากหลายประเทศทั่วโลก อีกใจก็คิดว่าในที่สุด ประเทศเราก็เห็นค่างานศิลปะงานภาพยนตร์นอกกระแส ภาพยนตร์ที่ทำอย่างตั้งใจอีกเรื่องหนึ่งในชีวิต ด้วยทุนที่ต่ำกว่ามาตราฐานมากๆ โดยเฉพาะงานด้านโปรดักชั่นดีไซน์ที่ตัวผมเองนั้นไม่มีแม้แต่ค่าจ้างด้วยซ้ำ เพราะคิดว่านี้เป็นอีกเวที ที่เราจะได้ทำงานศิลปะโดยไม่มีข้อแม้ของสตูดิโอมาปิดกั้นจินตนาการ

แต่ๆๆๆๆๆ เมื่อฝันหวานไปได้หนึ่งคืนก็ฝันร้ายไปอีกวัน เมื่อ ภาพยนตร์ เวลา (Anatomy of time) ที่เพิ่งได้รางวัลอันทรงเกียรติ กลับต้องถูกตัดสิทธิเอาชื่อออก ไม่ผ่านเกณฑ์การเข้าชิงรางวัล ของกองประกวดกองหนึ่ง กองที่ใหญ่ที่สุด และยืนระยะในการมอบรางวัล (และยังเรียกว่าการประกวดแห่งชาติ) เพราะเพียงว่า ” ………..หงส์มีหลักเกณฑ์ ใหม่ที่เพิ่งตั้งในปีนี้ว่า

Advertisement

ภาพยนตร์ที่จะเข้าคัดเลือกต้องมีการเข้าฉายในโรงภาพยตร์ให้ครบ 5 ภูมิภาคของประเทศไทย แต่ภาพยนตร์เรื่อง Anatomyoftime ไม่ได้ไปฉายให้ครบทุกภาคของประเทศก็เลยไม่ผ่านเกณฑ์การตัดสิน

นี่หรอครับ เพียงแค่เราทำหนังโดยทุนต่ำ และไม่มีปัญญาหาเงินหรือไปขอโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ เข้าฉายให้ครบทุกภาคในประเทศบ้านเกิด แต่เราเข้าฉายไปทั่วโลกและคนในประเทสที่ไม่ใช่บ้านเราก็ให้รางวัลมาหลายที่? ผิดด้วยหรอที่เราฉายไม่ครบทุกภาค? แต่เราก็ฉายในสตีมมิ่งอันดับต้นของโลกครับ? ผิดด้วยหรอที่เราถูกโรงหนังขนาดใหญ่ของประเทศตัดรอบฉาย?

แต่ท้ายที่สุดรางวัลหรือยอดขายมันอาจมีไว้ตีค่าทางสังคมได้ดีที่สุด แต่มันไม่สามารถเลยครับที่จะหยุดจินตนาการ มันไม่สามารถเลยครับที่จะหยุดค่าของภาพยนตร์ ( ผมอาจไม่ใช้นักกีฬา จึงไม่สามารถ เรียกตัวเองว่านักกีฬาทีมชาติ แต่ผมตั้งใจและทำหนังไทยแบบต่อเนื่องในทุกค่ายทุกรูปแบบทั้งในกระแส หรือ นอกกระแส ผมมั่นใจและกล้าที่จะบอกกับคนทั้งโลก ว่า ผมคือทีมชาติหนังไทยอีกคน อดก็ทำมีก็ลุย)

ปล. ขอบคุณคมชัดลึกที่ให้ค่าพวกเรา
ปล. ไม่ได้ออกมาเรียกร้องอยากได้รางวัล เคยได้แล้ว แค่ไม่อยากให้เรากระทืบกันจนไม่มีที่ยืน
ปล.ขอบคุณวันนี้อย่างน้อยก็ได้ทำหนัง ไทยยอดเยี่ยมแห่งปีในสนามคมชัดลึก

สุดท้ายความสิ้นหวังก็ต้องยืดอกยอมรับการตัดสิน เเละภาพยนตร์อีก 11 เรื่องก็คงตกอยู่ในความรู้สึกเดียวกัน วันนี้คุณอาจตัดสินเพียงเรา แต่เชื่อสิว่ามันคือการตัดสินวงการทั้งวงการหนังนอกระแสไปแล้ว ขอบคุณทุกการตัดสินครับ

เราไม่เคยบอกว่าหนังเราดีที่สุด บทดีเรื่องดี แต่เราแค่ขอพื้นที่นำเสนอภาพยนตร์อีกรูปหนึ่ง แบบที่คนในชาติไม่สามารถหาดูทั่วไป เพื่อเราจะได้ไม่ต้องถูกยัดถูกบังคับให้เลือกให้ดูให้กินไปจนตาย แก่พันธุ์ทาง”

 

ขณะเดียวกัน หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม ผู้กำกับภาพยนตร์ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ได้ถามไปทางสุพรรณหงส์เกี่ยวกับเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งได้รับคำตอบว่า “ไม่สามารถปรับเปลี่ยนกติกาได้แล้วเพราะเวลาไม่ทัน และจะพิจารณาใหม่ในปีหน้า” ตนจึงขอไม่ร่วมงานสุพรรณหงส์ในปีนี้ และอนาคตอาจจะงดส่งหนังเข้าชิงรางวัลในประเทศอีกแล้ว

โดยระบุว่า “ปีนี้ถามทางสมาคมสมาพันธ์ไปแล้ว เค้าบอกว่า “ไม่สามารถปรับเปลี่ยนกติกาได้แล้วเพราะเวลาไม่ทัน และจะพิจารณาใหม่ในปีหน้า”

ปีนี้ขอไม่ไปสุพรรณหงส์นะครับ ปกติมีอะไรเราก็ช่วยกับสมาคมสมาพันะ์มาตลอด ที่บ้านผมก็ช่วยกับสมาคมสมาพันธ์มาตลอด แต่ตอนนี้ทางบ้านผมก็ขออนุญาติงดเว้นการทำงานหรือช่วยเหลือใดๆกับทางสมาคมสมาพันธ์ไปก่อนจนกว่าจะหาวิธีที่จะทำให้มิติของการสร้างอุตสาหกรรมหนังไทยสร้างสรรค์มากกว่านี้

ก่อนหน้านี้ก็ลาออกจากสมาคมผู้กำกับเพราะวิธีการทางความคิดคัดแย้งกันกับท่านอดีตนายกธนิตย์ ตอนนี้ก็คงลากับสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์เช่นกันครับ

ส่วนตัวก็กำลังคิดๆอยู่ว่าในอนาคตอาจจะไม่ขอส่งหนังใดๆเข้าชิงรางวัลใดๆในประเทศอีก …….เป็นเรื่องที่คิดมานานครับ แต่ปัจจุบันยังทำไม่ได้ เพราะเราอยากให้น้องๆเพื่อนๆพี่น้องทีมงานนักแสดงมีขวัญและกำลังใจในการอยู่ในวงการอยู่ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ได้สนใจที่จะให้คุณค่าพวกเราคนในวงการจริงๆจังๆ และรางวัลมันเป็นแค่เครื่องมือการตลาดให้กับคนบางคนโดยการตัดสินว่างานของใครดีกว่างานของใครอื่นครับ

หาก Treatment แบบนี้ยังมีในวงการ การมีเทศกาลหนังหรืองานประกวดหนังก็ไม่ได้มีคุณค่าอะไรเป็นพิเศษสำหรับผมเพราะมันไม่ได้ช่วยให้โลกภาพยนตร์มันดูมีคุณค่ามากไปกว่านิตยสารซุบซิบดาราน่ะครับ

ดังนั้นเรื่องน่าเศร้าก็ยังมีอยู่มากมายที่จะต้องสู้กันต่อไป ….แต่ไม่รู้ทำไมสู้แล้วมันก็ถอยหลังไปเรื่อยๆก็ไม่รู้สิครับ ฮาๆๆๆๆๆๆ”

เช่นเดียวกับ โจ-หรินทร์ แพทรงไทย นักตัดต่อที่ฝากผลงานไว้ในเรื่อง Where We Belong ที่ประสบความสำเร็จจนได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม ที่ได้ออกมาติดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ เนื่องจากเกณฑ์การคัดเลือกหนังที่เข้ารอบไม่เป็นธรรม

โดยระบุว่า “ผมจึงขอเรียกร้องให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทีมงานภาพยนตร์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง งดการมีส่วนร่วมกับงานสุพรรณหงส์ที่จัดโดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เพื่อเป็นการแสดงออกว่าพวกเราไม่ยอมรับเกณฑ์การคัดเลือกหนังที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับหนังค่ายใหญ่

สมาพันธ์ควรมีหน้าที่ส่งเสริมและยกระดับหนังไทยให้มีพื้นที่ฉายอย่างทั่วถึง ไม่ใช่การเอาเกณฑ์การฉายมาตัดสิทธิ์หนังในการคัดเลือกรางวัลจนเหมือนเป็นการฆ่าอุตสาหกรรมหนังไทยด้วยกันเอง

ปีที่แล้วเรียกร้องให้ทีมงานได้พูดตอนรับรางวัล นอกจากจะไม่ได้แล้วปีนี้ตัดสิทธิ์หนังที่ฉายไม่ครบทุกภาคเฉยเลย

#ไม่ให้ค่างานที่ไม่เห็นคุณค่าคนทำงาน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image