รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 นัดสนทนากับ ดีเจแมน พัฒนพล และ ใบเตย สุธีวัน ไปเมื่อวันก่อน โดยทั้งคู่ได้เปิดใจให้ตอบทุกคำถามกับพิธีกร ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์
*ต่อให้พูดว่าไม่เกี่ยวข้อง มีหลักฐาน แต่ทำไมยังโดนหมายเรียกอีก?
ดีเจแมน : “เรายังสู้ หรือว่าทำตามสิ่งที่เขากล่าวหามา เรามีหน้าที่ชี้แจง แต่ต้องบอกก่อนเลยว่ามันดูรุนแรงนะ สำหรับผลกระทบของเราในวงการบันเทิง ตั้งแต่วันแรกที่เขาออกสื่อว่าเราถูกออกหมายเรียกเป็นผู้ต้องสงสัย”
ใบเตย : “คือวันนั้นมันมีความพีคตรงที่ล็อต 19 คน โดนขังเข้าคุกทั้งหมด พอวันต่อมาเรา 2 คนโดนแจ้งข้อกล่าวหาทันที และสื่อทั้งหมดก็เขียนว่าเราโดนรวบ มีหลากหลายที่มันบิดเบือนไปมาก แต่ในความเป็นจริงในทางกฎหมาย คือทาง DSI แจ้งข้อกล่าวหา และเรามีหน้าที่นำพยานหลักฐานไปชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมดในทางกฎหมาย”
*เรื่องเงิน 13 ล้าน เขาเอาเงินมาให้เหรอ?
ดีเจแมน : “อยากอธิบาย มีเงินเข้ามาจริงๆ ครับ ขอย้อนกลับไปในวันแรกที่รู้จัก มาให้พระผม ผมชอบสะสมพระเครื่อง ผมมีมากมาย อภิรักษ์มาเช่าพระผม มีขุนแผนพรายกุมาร คือบอกไว้อยู่แล้วในสำนวน สมเด็จวัดระฆังของคุณตาผม ก็เลยมีเงินเข้ามา เราชี้แจงได้ เรามีรูปถ่าย เราชี้แจงได้ทั้งหมดนะครับ ตั้งแต่วันแรกๆ เลยนะครับ”
*ของใบเตยล่ะคะ?
ใบเตย : “ของใบเตย ณ วันนั้นเรามีความสัมพันธ์ในความเป็นเพื่อนแฟน จากรูปที่เห็นในสื่อทั้งหมด เรามีการไปกิน ไปเที่ยว ทานข้าว ไปต่างประเทศ เงินของใบเตยมีแค่ 9 แสน 9 จากทางเขา ในวันนั้นทั้งใบเตยและพี่แมนเราขอสเตตเมนต์จากธนาคารย้อนหลังไป 8 ปี นับตั้งแต่ก่อนรู้จักเขาจนถึงปัจจุบันเลย เส้นทางการเงินของหนูที่มาจากซีอีโอโดยตรงคือเรื่องของการซื้อขาย ฝากกระเป๋าแบรนด์เนม เรามีอาชีพ ณ วันนั้นตรงนี้เขาได้ฝากซื้อกระเป๋า โดยโอนเงินมาให้เรา และซื้อกระเป๋าไปให้ภรรยาเขา แค่นั้นเลยค่ะ”
* มีคนบอกว่าที่พวกเธอออกมาพูดเพื่อที่จะทิ้งทวนเอาตัวเองรอด?
ดีเจแมน : “ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยครับ ผมแค่อยากจะออกมาสู้เพื่อครอบครัวของผม ภรรยาของผม และความถูกต้องที่ผมอยากได้ ผมรู้สึกว่าวันนี้เราชี้แจงไปหลายอย่างมาก แต่ผมเข้าใจว่ากระแสสังคมมันรุนแรงมากๆ ในการที่มองเรา อาจารย์พูดถูก ถ้าเลือกได้ผมอยากออกมาพูดตั้งแต่วันแรกเลย แต่ตอนนั้นมันล่อแหลมครับ”
ใบเตย : “มันล่อแหลม เพราะมันเป็นเรื่องของสำนวน ของทางกฎหมายหลายอย่าง ที่เราเสนอข้อเท็จจริงไม่ได้ทั้งหมดเพื่อรอพยานหลักฐานที่มันครบทั้งหมด”
*ที่เธอโพสต์ตัดพ้อเรื่องราวที่ผ่านมามันทำให้เธอท้อเหรอแมน?
ดีเจแมน : “ผมจะบอกอย่างนี้นะครับ ตั้งแต่ผมเกิดมาจนอายุ 40 ปี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดในชีวิตผม ตั้งแต่วันประกาศว่าครอบครัวผม สิ่งที่ผมทำทั้งหมดมันคือร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กับหลักฐานที่ผมมีทั้งหมด ชีวิตผมพังหมดเลยครับ รายการลูกผม แม่ผมน้ำหนักลด พ่อผมเพิ่งผ่าตัด เมียผมร้องไห้ทุกคืน คือชีวิตของผมมันตำบอนมากครับ”
*ถ้าทั้ง 2 คนถูกศาลพิพากษาว่าผิดจริง แมนจะยอมรับความผิดนี้ไว้ไหมคะ?
ดีเจแมน : “ยอมครับ แต่ผมเชื่อในหลักฐานของผม และเชื่อว่ากระบวนการความยุติธรรม จะให้ความยุติธรรมกับเรา”
ใบเตย : “เช่นกันค่ะ ถ้า ณ วันนี้สิ่งที่อยากบอก ก็อยากจะขอความยุติธรรม อยากขอความเป็นธรรม ถ้า ณ วันนี้หลักฐาน พยาน และสิ่งที่เราส่งสำนวนไปทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ทางกฎหมายต้องการ หรือทางกฎหมายยังมองว่านี่คือสิ่งที่ผิดทั้งหมด ใบเตยก็ยอม”
*ครอบครัวเป็นอย่างไรบ้างแมน?
ดีเจแมน : “แย่มากเลย ตั้งแต่วันแรกที่โดนแจ้งข้อกล่าวหาทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องความสุขของคนในบ้าน มันหายไปหมดเลยครับ 9 เดือน”
*สุขภาพจิตคุณพ่อคุณแม่?
ดีเจแมน : “แย่เลยครับ คุณพ่อเพิ่งเข้าผ่าตัดเบ้าสะโพก น้ำหนักลด และตอนนี้เครียดมากๆ ครับ คุณแม่น้ำหนักลดไป 6 กก. ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแม่ครับ คุณแม่เป็นห่วงหลาน เป็นห่วงใบเตย เป็นห่วงผม เครียดจนแย่ ป่วยไปหมด”
*ใบเตยล่ะ สภาพจิตจริงๆ เป็นอย่างไร?
ใบเตย : “แย่มากค่ะ คือถ้าให้พูดถึงเรื่องนี้ (ร้องไห้) ต้องบอกเลยว่านับตั้งแต่รอบ 19 คนที่เข้าเรือนจำ ณ วันนั้นชีวิตหนูไม่เคยมีข่าวดีในชีวิตอีกเลย วันที่ชี้แจงข้อกล่าวหาเรามา ณ วันนั้น เราโดนสังคมพิพากษา ตกเป็นจำเลย งานทุกอย่างของหนู ถูกยกเลิกหมด อนาคตในวงการ หนูกำลังจะมีละคร ซึ่งตอนนี้เขาก็หยุดออนไป เพราะเราเป็นนางเอก แล้วนางเอกมามีคดีตรงนี้ งานทุกอย่าง สิ่งที่ฝันทุกอย่างในปีที่แล้ว สิ่งที่เราจะได้ทำ จะมีรายได้ มันจบหมด แล้วมีแต่ข่าวร้ายๆ ในชีวิต ทั้งเรื่องคนรอบตัว ทุกๆ อย่าง หนูอดทนมาก ที่ไม่เคยได้พูดเลยจนถึงวันนี้ เราอดทนเพื่อรักษาในสำนวนทุกๆ อย่างที่เราสู้ เพื่อตัวเองมาตลอด ส่งหลักฐานข้อเท็จจริงต่างๆ ทุกวันตั้งแต่ 7 เดือนที่ผ่านมา หนูทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเราบริสุทธิ์ นอนก่ายหน้าผากทุกคืนเลยว่า ณ วันนี้เราคือคนนึงเลยที่ทำงานและได้รายได้สุจริตมาโดยตลอดทั้งชีวิต อาจารย์รู้ไหม วันที่ชี้แจงข้อกล่าวหาเป็นวันที่เพิ่งหมดสัญญากับทางอาร์สยาม แล้วยังมีงานกับทางค่ายอีก 2 งาน 17 ปี รายได้ของหนูอยู่กับที่นี่ทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกอย่างมาจาก Forex-3D ทุกอย่างอาชีพของหนูมันคือความสุจริตทั้งหมด”
*ทั้ง 2 คนเป็นที่รักของเพื่อนฝูง พอมีเรื่องนี้ เพื่อนเหลือไหม?
ดีเจแมน : “มันเป็นบทเรียนในชีวิตนะครับ วันนี้เราได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ต้องบอกว่าในวันที่เราโชคร้ายที่สุด เราเห็นเพื่อนแท้ ในวันที่เราดีเราเห็นเยอะอยู่แล้ว ผมร้องไห้กับใครไม่ได้ เพราะผมคือหัวหน้าครอบครัว ผมเห็นแฟนผมร้องไห้ แม่ผมร้องไห้ น้องแฟนผมร้องไห้ ผมต้องผ่านมันไปให้ได้กับเรื่องเครียดๆ ทะเลาะกันทุกวันครับ โทษกัน ผมยอมหมด ผมสงสารลูกกับภรรยามาก ผมยอมรับเลยนะว่าผมมีส่วน”
ใบเตย : “ของใบเตยต้องบอกก่อนว่า ขอบคุณทุกคนมาก ของใบเตย ไม่มีใครหายไปไหนเลยจากชีวิต ทุกคนอยู่ข้างๆ และเป็นกำลังใจ เพราะถ้าเป็นคนใกล้ชิด เป็นเพื่อนเรา คนในวงการทุกคนจะรู้ว่าเราไม่มีอะไรแบบนี้เลย ตั้งแต่เข้าวงการมา ขอบคุณทุกคนมาก”
*ถ้าต้องติดคุก ครอบครัวจะอยู่กันอย่างไร เตรียมตัวแล้วหรือยัง?
ใบเตย : “ก็มีการเตรียมบ้างค่ะ หนูก็ต้องฝากฝังคุณแม่หนูให้ช่วยดูแล และน้องชายให้ช่วยดูด้วย ซึ่งทุกคนก็รับปากว่าจะช่วยดูแลให้ดีที่สุดค่ะ”
ดีเจแมน : “ผมเนี่ย ถ้าวันนี้ตัวคนเดียว รูปแบบชีวิตมันจะอีกแบบนึง คือ ผมเก็บอะไรไว้เยอะมากกับเรื่องที่ผมเจอมา 9 เดือน (ร้องไห้) มันเลวร้ายมาก ผมไม่เคยคิดจะคดโกงใครเลย ตั้งแต่เด็กจนโต ทุกคนจะรู้จักหมด แต่วันนี้ผมบอกเลยไม่รู้เหมือนกัน อธิบายไม่ถูก แต่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ถ้ามันเป็นแบบนั้น ขอให้เป็นผมคนเดียว ถ้าโชคชะตามันจะเลวร้ายแบบนั้น ผมขออย่าแตะต้องภรรยาและลูกผม ผมขอแค่ความยุติธรรมให้ผมกับภรรยา โดยที่ดูจากหลักฐานความจริงมากกว่ากระแสสังคม”
*อยากให้แมนระบายความอัดอั้นตันใจตลอดระยะเวลาที่เกิดเรื่องขึ้น มีอะไรบ้างที่อยากพูด?
ดีเจแมน : “ก่อนอื่นผมต้องขอโทษภรรยาที่ดึงเขามาในเรื่องที่เขาไม่ควรจะได้รับสิ่งนี้เลย ความจริงเขาเป็นคนที่เข้มแข็งมากนะ แต่ช่วงเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา ผมเห็นความอ่อนแอของภรรยาผมเยอะมาก เช่น แอบไปร้องไห้หลังบ้าน พูดกับผมว่าเลี้ยงลูกคนเดียวได้ไหมอย่างนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าเขาคงแย่จริงๆ ที่เจอเรื่องแบบนี้ ผมก็อยากขอโทษเขาที่ดึงเข้ามาเจอเรื่องแย่ๆ กับคนที่เราไม่รู้ว่าจะเป็นคนแบบนี้ เราทำเขาเสียหายมาก เขารักในการร้องเพลง เขารักแฟนคลับเขา ผมรักเขามา 10 กว่าปี รู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีจิตใจอย่างไร เขาโดนทำลายทั้งหมด และผมอยากจะพูดกับผู้เสียหาย ผมเข้าใจว่าการที่มองเราตั้งแต่แรก ที่เราไม่ได้ออกมาพูด ก่อนอื่นเลย เราไม่เคยคิดไม่ดีกับใคร โกงใคร และเราไม่เคยอยากทำร้ายใคร แต่ผมอยากบอกว่า ผมก็เสียใจกับเขานะ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนคนนึงมาถ่ายรูป มาเป็นเพื่อน มาซื้อของเราเนี่ย วันนึงเขาจะเป็นคนแบบนี้ อันนี้ผมจะจำไปจนวันตายว่าการรู้จักใครสักคนเราต้องรู้จักพิจารณา เพราะว่าผมดึงครอบครัวมาระเนระนาดหมดเลย ในความรู้สึกของผม และผมก็ไม่ค่อยกล้าพูดกับเขาเท่าไร เพราะผมอยากจะพูดแต่เรื่องดีๆ กับภรรยา ในวันที่เขาเจอแต่เรื่องร้ายๆ ต้องบอกก่อนว่า 9 เดือนที่ผ่านมาผมไม่เคยรับโทรศัพท์ข่าวดีเลย มีแต่เรื่องในการสู้ เจอคนแปลกๆ เจอมิจฉาชีพ เจอในแต่ละวัน เราต้องใช้สมอง สติเยอะมาก กับรายได้ที่ไม่มีเลย ผมกลัวว่าลูกผมจะไม่มีที่เรียน เพราะวันนี้มานั่งคุย มันแย่มากแล้ว ไม่ได้พูดให้ใครสงสาร ผมเชื่อว่า ทุกคนก็ลำบากเหมือนกัน แต่วันนี้มันแย่ถึงขั้นเราไม่รู้เลยว่าเราจะก้าวต่อไปอย่างไร ใครจะมาช่วยเราต่อ เขาจะจริงใจกับเราไหม รู้สึกเราไว้ใจใครไม่ได้ มันโหดร้ายทุกสเต็ป ต้องเป็นแมน เป็นพ่อที่เข้มแข็งให้ลูก และภรรยาผม จนกว่าผมจะตาย”
*ใบเตยล่ะ จะโทษเขาไหมที่ชักศึกเข้าบ้าน?
ใบเตย : “ในวันที่เกิดเรื่องแรกๆ ไม่เถียงเลยว่าเรามีความคิดบ้างอยู่แล้วว่าเป็นความผิดของเขา อะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายมันก็ตกผลึกว่า ในวันที่สุข มันก็สุขด้วยกัน ในวันที่ทุกข์ ก็ต้องทุกข์ด้วยกัน มันไม่มีอะไรจะรู้ล่วงหน้าว่าวันนี้จะเกิดขึ้น ไม่มีใครตั้งใจให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น กับทุกๆ คนที่เข้ามารู้จัก กับตรงนี้ ชีวิตหนูเคว้งมาก เรางงไปหมดเลยว่า เราต้องทำอย่างไร หนูเปล่าเปลี่ยวมาก แต่ก็ต้องบอกตัวเองว่าเราต้องสู้ด้วยตัวเอง ได้ลองสู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง (ร้องไห้) เอาจริงๆ วันนี้ต้องขอบคุณเพื่อนๆ คนรอบข้างทุกคน วันนี้ดีใจมากที่คนรอบข้างส่วนใหญ่ ทุกคนมีความเชื่อมั่นในตัวหนูมาก อยากขอโอกาสจากสังคมในการกลับมาทำงาน กลับมาใช้ชีวิต ขอความเป็นธรรม ความยุติธรรม ขอให้ระบบความยุติธรรมได้รับข้อเท็จจริงจากทางฝั่งเรา และพิจารณาทุกๆ อย่าง จะผิดจะถูกในอนาคตอย่างไรก็ตามใบเตยรับได้ทุกอย่าง แต่ ณ วันนี้ขอแค่ให้เขาได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่เรามีให้ค่ะ”