โลกนี้คือละคร 100 ปี วสันต์ สุนทรปักษิน

ยากอยู่สักหน่อยที่คนรุ่นปัจจุบันจะรู้จักชื่อ วสันต์ สุนทรปักษิน เพราะแม้คนอายุผ่านครึ่งศตวรรษไปสักพักก็ยังอาจจะลืมเลือน แต่ชื่อนี้ไม่สมควรปล่อยผ่านไปง่ายๆ กับกาลเวลา โดยเฉพาะบนเส้นทางระหกระเหินของคนทำหนังไทย

ดังนั้น เสาร์ที่ 17 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่ 14.00 น. เป็นต้นไป ที่โรงหนังศรีศาลายา หอภาพยนตร์ องค์การมหาชน จะมีรายการพิเศษเชิญชวนให้เข้าร่วมและชมภาพยนตร์ไทยฟรีเรื่อง ‘สมิงป่าสัก’ และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับนามนี้ ที่เป็นผู้กำกับหนังไทยรายแรกซึ่งได้รับรางวัลกำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์

ทั้งยังได้พบและสนทนากับ จิตรกร สุนทรปักษิน นักแสดงวัยรุ่นหนุ่มน้อยอันโด่งดังขณะนั้น ที่ได้รับรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมจาก ‘เด็กเสเพล’ บทประพันธ์กินใจของ พนมเทียน เมื่อปี 2503

ทั้งนี้ ในกิจกรรมภาพยนตร์สนทนา 100 ปี วสันต์ สุนทรปักษิน-โลกนี้คือละคร รายการซึ่งไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะคนรักหนัง

Advertisement

วสันต์ ซึ่งนอกจากกำกับหนังแล้ว ยังเคยเล่นเป็นพระเอก และผ่านละครเวทีมา เป็นผู้ใดมาจากไหน พุทธพงษ์ เจียมรัตตัญญู ค้นคว้าเขียนประวัติไว้กระจ่างกับสาธารณะดังต่อไปนี้

สมัยที่ผู้คนแวดล้อมด้วยตัวเลขดิจิทัลในชีวิตประจำวันนี้ นักดูหนังคงนึกไม่ออกว่า ค่อนศตวรรษที่แล้วโรงหนังเป็นอย่างไร กระบวนการเสพความบันเทิงรูปนี้เกิดขึ้นลักษณะไหน

โรงหนังส่วนใหญ่ทั้งในกรุงและโดยเฉพาะต่างจังหวัด มักฉายหนังรอบทุ่มหรือสองทุ่ม โดยก่อนฉายจะเปิดเพลงมาร์ชคล้ายๆ กัน เช่น “เราเชื้อชาติชาญทหารบกไทย เก่งกาจใจฉกรรจ์ รบราฆ่าฟันรุกรันปัจจา หากศัตรูจู่จะยกมา จะอาสาฟันฝ่ารักษาถิ่น…” เป็นทำนองรุกเร้าเชิญชวน กระจายเสียงดังไกลไปเป็นกิโลเมตร เตือนว่าหนังจะฉายแล้วนะ คนก็ต้องเร่งขมีขมันไปให้ทันดูหนังโฆษณาซึ่งเป็นภาพนิ่งบนแผ่นกระจกแก้ว และดูหนังตัวอย่าง

Advertisement

วสันต์ซึ่งเดิมชื่อว่า เกยูร เกิดริมคลองบางซื่อ ปี 2459 อยู่ในยุคไกลไปกว่านั้นอีก สมัยหนังเงียบที่ต้องใช้แตรวงเล่นเรียกแขกหน้าโรง ก่อนจะยกวงเข้าไปบรรเลงต่อในโรงประกอบหนังที่ไม่มีเสียง

เด็กชายเกยูรมักแอบออกจากบ้านไปดูหนังที่โรง ศาลาเฉลิมรัฐ โดยวิธีที่ไม่ต้องเสียสตางค์ คือช่วยนักดนตรีแบกเครื่องเข้าไปในโรงบ้าง หรือช่วยเล่นแตรวงกับเขาบ้าง เพื่อได้ลิ้มรสบันเทิงอันดึงดูดใจในยุคนั้น

ครั้นไปสมัครเป็นทหารเรือหลังจบ ม.6 ก็ได้โอกาสเป็นหนึ่งในคณะทหารเรือไทยที่ไปฝึกเป็นทหารเรือดำน้ำ และเรียนวิชาเครื่องยนต์ดีเซลเรือดำน้ำ ที่ญี่ปุ่น เพื่อจะได้นำเรือดำน้ำซึ่งรัฐบาลไทยสั่งต่อที่ญี่ปุ่น 4 ลำ เมื่อปี 2479 กลับบ้าน และระหว่างการฝึกฝนนั้นเอง เกยูรก็ยังใช้เวลาว่างชมการแสดงบนเวทีของคณะ ฿ทาการาสึกะ฿ อันโด่งดังตั้งแต่ปี 2456 ที่ยังยืนยงมากระทั่งปัจจุบัน เป็นคณะนักแสดงหญิงล้วนที่สวมบททุกเพศทุกวัยในแบบบรอดเวย์ หรือบางคราวยังเฝ้าดูการถ่ายทำภาพยนตร์นอกสถานที่ นอกเหนือการเข้าดูหนังในโรงเป็นประจำตามรสนิยม

และด้วยรสนิยมทางนี้มาแต่เด็กนี่เอง บรรยากาศบันเทิงในญี่ปุ่นคงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เกยูรก้าวเข้ามาในแวดวงมายา

หลังฝึกฝนกันอยู่ในญี่ปุ่นนาน 2 ปี พอ 2481 ก็ได้ฤกษ์ที่คณะทหารเรือดำน้ำไทย นำ มัจฉาณุ กับ วิรุณ และ สินสมุทร กับ พลายชุมพล 4 ลำ ดำข้ามน้ำข้ามทะเลกลับบ้าน

ต่อเมื่อเกิด ยุทธนาวีเกาะช้าง จากกรณีพิพาทไทยกับฝรั่งเศส ปี 2484 ยังไม่ทันที่เรือดำน้ำจะได้ยิงตอร์ปิโด ก็ได้รับเหรียญชัยสมรภูมิเป็นเกียรติยศ แต่ยืนชีวิตนายทหารอยู่ไม่นาน ก็ลาออกมาทำสวน แล้วไปเข้าทำงานแผนกขนส่ง กรมช่างอากาศ ตอนนั้นเกยูรกลายเป็น วสันต์ ไปแล้วตามนโยบายท่านผู้นำ ที่กำหนดให้คนไทยมีชื่อซึ่งสามารถระบุเพศ

เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ท่านผู้นำเข้าร่วมกับญี่ปุ่นสู้ฝ่ายสัมพันธมิตร หนังนอกที่ส่วนมากมาจากโลกตะวันตกก็ขาดหายไป หนังไทยซึ่งกำลังเติบโตก็ล้มฟุบเพราะฟิล์มกลายเป็นของหายาก ละครเวทีจึงเกิดขึ้น

นี่เองเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของวสันต์ เมื่อความฝันลึกๆ แต่วัยเด็กที่อาจซ่อนเร้นอยู่ ขับออกมาให้รู้ตัว จึงตัดสินใจไปสมัครเป็นนักแสดงในคณะละคร ปรีดาลัย ในพระนางเธอลักษมีลาวัณ มเหสีในรัชกาลที่ 6

สมิงป่าสัก

โอกาสนั้นเอง ก็ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในพระเอกละคร ถิ่นไทยงาม ที่ศาลาเฉลิมกรุง ปี 2486 จนชื่อเสียงขจรขจาย ทั้งด้วยพรแสวงที่เสาะชมเรียนรู้แบบอย่างมาตลอดต้นชีวิต และพรสวรรค์ที่เผยออกมา ด้วยความเอาจริงเอาจังในการสวมบทบาท โดยเคร่งครัดจากการฝึกฝน จนเป็นที่ยอมรับไปทั่ววงการไม่ว่าบนเวทีละครน้อยใหญ่แห่งใดในกรุง จะเป็นเจ้าชาย คนร้าย เฒ่าชรา หรือสองบทบาทในเรื่องเดียว บทซึ่งประสบความสำเร็จสร้างชื่อโดดเด่นเป็นที่กล่าวขวัญยุคนั้นคือ แมคเบธ จากเรื่อง ‘แมคเบธผู้ทรยศ’ ซึ่งดัดแปลงจากงานเลื่องโลกของ วิลเลียม เชคสเปียร์

นอกจากนี้ วสันต์ยังได้นำคู่ชีวิต ราตรี ท้วมอุธรรม เข้ามาเป็นนักแสดงละครเช่นเดียวกับตน ก่อนจะถึงเวลาของ จิตรกร บุตรชายในเวลาต่อมา

วสันต์เป็นคนทำงานจริงจังด้วยสายตาแหลมคมปราดเปรียว ไม่ต่างกับตอนรับบทนักแสดง ปี 2499 ที่ได้รับมอบให้กำกับ ‘เศรษฐีอนาถา’ จากงานประพันธ์เกรียวกราวของ สันต์ เทวรักษ์ เรื่องของพนักงานรถไฟชราที่โชคชะตาล้อเล่น เมื่อเศรษฐีหนุ่มให้เงินสิบล้านบาทโดยมีข้อแม้ว่าต้องใช้ให้หมดภายในหนึ่งปี ใครๆ ต่างก็คิดว่าบทนาย จอน บางคอแหลม นี้ อบ บุญติด พระเอกชื่อดังขณะนั้นสมควรกับบทนี้ยิ่ง ต้องได้เล่นแน่ๆ

แต่วสันต์กลับเลือกเอานาย เจิม ปั้นอำไพ ช่างไฟโรงหนังศาลาเฉลิมไทยที่ไม่เคยเล่นหนังมาฝึกอยู่ 3 เดือน ระหว่างที่มีคนฟ้องนายทุนสารพัดว่าเขาทำหนังช้าใช้ฟิล์มเปลือง

ด้วยสายตาแหลมคมที่เห็นบุคลิกเหมาะสมจากคนที่ไม่ประสีประสาการแสดง ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์นี่เอง ‘เศรษฐีอนาถา’ ได้รับรางวัลภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม ในปีแรกของการเริ่มประกวดรางวัลหนังไทย 2500 นาย เจิม ได้รับรางวัลตัวประกอบชายยอดเยี่ยม ส่วนวสันต์เองยังได้รับรางวัลสำเภาทองผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเรื่อง ‘ทางเปลี่ยว’ ที่กำกับเองและเล่นเป็นพระเอกเองอีกด้วย

กลายเป็นดาราซึ่งเปล่งประกายเจิดจ้าของงานประกาศรางวัลครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

เล่าเรื่องพิศดารของวสันต์ช่วงต้นต่อช่วงกลางมาพอสังเขป ทหารเรือดำน้ำที่มาเป็นพระเอกหนังพระเอกละครและผู้กำกับ เพื่อให้เห็นว่า วงการภาพยนตร์ไทยแต่ก่อนนั้นเข้มข้นขนาดไหน ผู้คนทำงานกันแบบมืออาชีพอย่างไร ความจริงจังกับงานศิลปแขนงหนึ่งแม้จะเป็นพาณิชย์ศิลปหรือธุรกิจศิลป มิได้เป็นอุปสรรคกับจินตนาการหรือความฝันที่จะถ่ายทอดงานสู่กันแก่ผู้คน

และเพื่อให้เห็นว่า การมีฝันนั้นงดงามเพียงไร ยิ่งการไล่ตามความฝันไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ยิ่งงดงามเพริศแพร้วเช่นชีวิตของวสันต์ที่เล่าให้ฟังดังย่นย่อมานี้

ชีวิตของวสันต์ในวงการ งานที่ฝากไว้ในโลกภาพยนตร์ไทย ความมุ่งมั่นตั้งใจของคนทำงานผู้หนึ่งซึ่งมิได้ร่ำเรียนโดยตรงมาจากไหน แต่สามารถสร้างบรรทัดฐานหนักแน่นไว้ประจักษ์ ยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่ขอละไว้ให้คนรักหนังชวนกันไปค้นหาในงาน 100 ปีวสันต์ที่ศรีศาลายาด้วยกัน อย่างน้อยๆ การช่วยกันหรือร่วมกันชื่นชมสิ่งที่ผู้มาก่อนได้ทำไว้ดีแล้ว เป็นแรงสนับสนุนสำคัญ ที่จะทำให้งานซึ่งจะสืบสานต่อไปมีน้ำหนักมั่นคง ด้วยน้ำใจของเราด้วยกันเอง

แม้จะมีองค์การมหาชน แต่หากวงการหนังจะฝันถึงความช่วยเหลือจากรัฐเช่นนานาอารยประเทศอื่นนั้น คำตอบอยู่ในสายลมดังกวีนักร้องรางวัลโนเบล บ๊อบ ดิแลน คร่ำครวญหวนไห้ไว้

เสาร์นี้พบกันที่ศรีศาลายา

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image