‘โยโกะ’ ปัดตกอับซุกลูก เผยเป็นหมอดูแต่อยากกลับเข้าวงการ รับเซ็กซี่ได้ถ้ายังมีคนดู

หายหน้าจากวงการไปพักใหญ่ สำหรับอดีตเซ็กซี่สตาร์ตัวแม่  โยโกะ ทาคาโน่ ที่ล่าสุดมีข่าวลือว่าป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมและซุกลูกไว้ ซึ่งวันนี้ (16 ธันวาคม) เธอก็ได้มาเปิดใจในรายการ ‘ปากโป้ง’ ทางช่อง 8 เริ่มจากเรื่องอาการป่วยด้วยโรคสมองอักเสบที่ทำให้ความจำบางส่วนเลือนหายไปนั้นก็ยังต้องรับประทานยากันชักอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกายผิดปกติ ส่วนโรคอื่นๆ ที่เป็นก่อนหน้านี้อาการดีขึ้นหมดแล้วจนเกือบปกติ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้สมองเสื่อม ยังจำเรื่องหลักๆ ในชีวิตได้

“หมอก็ไม่ได้บอกว่าจะหายขาดมั้ย ก็ไปเรื่อยๆ แบบนี้ เอาตอนนี้ดีกว่า ตอนนี้ดีก็ขอให้ดีไปตลอด ไม่ได้แย่ลง ดีขึ้นเยอะมากเหมือนปกติ โดยเป็นมาที่เห็นชัดคือ 2 ปีที่ผ่านมา เครียดไหม มันครียดไม่ได้ ถ้าเครียดก็ยิ่งหนัก ยิ้มสู้ค่ะ” โยโกะว่า

ก่อนจะยืนยัน “ขอพูดตรงนี้นะคะ ว่าเป็นสมองอักเสบ สมองอักเสบกับสมองเสื่อมไม่เหมือนกัน เนื้อเยื่อสมองอาจจะมีการติดเชื้อจากอะไรบางอย่าง โรคอัลไซเมอร์จะทำให้เราลืมว่ากินข้าวรึยัง แต่เรายังไม่ได้เป็นขั้นนั้น ยังปกติเหมือนคนปกติทั่วไป”

“ตอนแรกก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นโรคอะไร คิดว่าเป็นโรคที่เราเคยรักษาอยู่ก่อน เลยไปหาคุณหมอ มีอาการปวดตัว เหมือนชักแล้วคุณแม่เลยพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน นั่นคือจุดเริ่มต้นเลย คิดว่าเป็นโรคเดิมหรือเปล่า ก็เจาะไขสันหลังดูที่โรงพยาบาลนั้นไม่พบ รักษาผิดวิธีไปหน่อย ให้ยาเกินขนาด เลยไตวายเฉียบพลัน แม่พาออกจากโรงพยาบาลนั้นทันเลยรอดตาย ไปรักษาอีกโรงพยาบาลนึง เคยผ่านนาทีเฉียดตายมาแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนั้นอีก ทุกวันนี้เราอยู่กับความไม่แน่นอน เหมือนจะดีทุกอย่าง แต่กลายเป็นว่าวินาทีนึงเราอาจจะโดนรถชนก็ได้ เพราะฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด”

Advertisement

อย่างไรก็ตาม โยโกะบอกด้วยว่า ตอนนี้ยึดอาชีพหมอดูไพ่ออราเคิลเป็นหลักมาร่วม 2 ปีแล้ว เพราะคนที่เคยมาดูก็กลับมาดูอีก ตนจึงอาจจะไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูหมอ และทำอาชีพเสริมอย่างอื่น แม้หมอดูจะไม่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเท่างานในวงการ แต่ก็เป็นอาชีพสุจริต หากถามว่ารายได้เพียงพอไหม ต้องแล้วแต่คนมองว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ สำหรับตนมีที่ซุกหัวนอน มีรถให้ขับ เลยไม่ได้คิดว่าชีวิตตกอับ

“ไม่เท่ากับในวงการหรอกค่ะ การเป็นนักแสดงถ่ายละครย่อมได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่หมอดูก็เป็นอาชีพที่สุจริต ทุกคนต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ต เราไม่เป็นต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ เรายังจ่ายค่าเน็ตได้อยู่ แสดงว่าเราไม่ได้ตกอับ” เธอบอก

DSC_0287

Advertisement

และเล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาชีพให้ฟังว่า “ตอนที่ออกมาใหม่ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้จริงๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไงไปทางไหน นึกอะไรไม่ค่อยออก มีแต่คนทักให้ไปดูหมอสิ พอลองไปดูหมอ เขาก็บอกว่าเป็นหมอดูได้นี่ มาเรียนไหม ประจวบเหมาะกับคุณแม่และพระหลายรูปทักมาแบบนี้ อายุ 40 จะต้องเป็นหมอดู แต่เราเคยเถียงพระว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็มีเหตุการณ์ทำให้เราต้องมาทางนี้ ก็เหมือนกับไปโรงพยาบาลล้างไต ความจำมีบ้างไม่มีบ้าง ลบเรื่องที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตไปเริ่มต้นใหม่ เหมือนอย่างนั้นเลย ทุกวันนี้เลิกบุหรี่เลิกเหล้าทุกอย่าง”

ขณะเดียวกัน “ก็รักษาความสวยความงามให้คงที่ เช้าตื่นขึ้นมา อันดับแรกที่จะต้องเห็นคนไม่มีคู่ก็คือตัวเองในกระจก เพราะฉะนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการดูแลตัวเองและสู้ เราเห็นตัวเองโอเคสู้ ไม่ใช่เห็นตัวเองป่วยแล้วต้องป่วยตาม เห็นตัวเองดูดีแล้วสู้ต่อ ต้องให้กำลังใจตัวเอง อาจจะไปขอจากเพื่อนๆ และอาจารย์บ้าง”

นอกจากนี้ โยโกะยอมรับว่ายังอยากกลับเข้ามาในวงการบันเทิง แต่ยังไม่มีทางไหนติดต่อมา ซึ่งตนก็คิดว่าพร้อมจะกลับมามากกว่าทุกคน หากใครมีบทที่คิดว่าจะเล่นได้ก็จะเล่น ไม่เกี่ยงงาน เรื่องเซ็กซี่ก็ไม่มีคนติดต่อมา ส่วนใหญ่จะเป็นการมาดูหมอดูมากกว่า แต่ถ้ามีคนติดต่อมาและมีคนดูอยู่ก็พร้อมจะรับ

สำหรับเรื่องที่ว่าซุกลูก โยโกะเล่าว่าจริงๆ แล้วเป็นยาย แต่เด็กเรียกว่า ‘ม่ามี้’ มาตั้งแต่เล็ก คนจึงอาจเข้าใจผิด  ซึ่งจริงๆ อยู่กับปู่ย่าที่อายุมากแล้วลำบากมาก พ่อแม่เด็กหายไป ตนเลยต้องเอามาดูแลเอง เพราะน่าจะดูแลให้การศึกษาได้ดีกว่า โดยหลานคนโตเป็นผู้หญิงอายุ 9 ขวบ ส่วนคนเล็กเป็นผู้ชาย 6 ขวบ

“คงจะไม่ได้เรียนหรูหราขนาดนั้น โรงเรียนธรรมดา อาจเป็นโรงเรียนวัดไปเลยก็ได้ ตอนนี้ต้องรักษาสภาพจิตใจของน้องก่อน เด็กโดนย้ายไปนู่นนี่บ่อย สภาพจิตใจคงบอบช้ำอยู่ ให้ปรับตัวอ่านหนังสืออะไรได้ ยืนยันว่าไม่ใช่ลูกเรา ยังโสดค่ะ ตอนนี้ยังโสด หนุ่มๆ ไม่เห็นมีจีบเลย หรือจีบแล้วเราไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครจีบค่ะ หรือใครอาสาดูแลก็ยินดีค่ะ ตอนนี้ 40 กว่าแล้วค่ะ” โยโกะกล่าว

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “การที่มีบ้าน มีรถขับโดยไม่ต้องผ่อน คำว่าตกอับเขามองจากสมัยก่อนหรือเปล่า ที่อยู่ในวงการเล่นละคร มีนู่นนี่นั่นอยู่ในสมัยนั้น คนเราเปลี่ยนแปลงทุกวันอยู่แล้ว เราต้องไปลองทำหลายสิ่งหลายอย่าง อาชีพอื่นบ้าง พอยิ่งป่วยมา เคยผ่านความเป็นความตายมา เราต้องหาว่าอะไรเหมาะกับเราที่สุด เราจะพลาดอีกไม่ได้ เราใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทแล้ว ไม่คิดว่านี่เป็นการตกอับ ไม่ได้มีหนี้สินจะให้บอกว่าตกอับก็ไม่ใช่ ขณะนี้เรายังเดินออกไปข้างนอกได้ เปิดไพ่ช่วยเหลือคนได้อยู่ ไม่ได้ตกอับค่ะ แต่ของานมั้ย ขอค่ะ ทุกคนต้องมีเงิน ต้องกิน ต้องจ่ายค่าเน็ตเพื่อดูทางเฟซไทม์ ฝากเลยค่ะ โยคิดว่าโยพร้อมแล้วค่ะ”

DSC_0293

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image