‘ซันนี่’ กับชีวิตที่เหมือนขนนก ซึ่งโชคชะตาจะพาไป
ตามความคิดของ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ นักแสดงนำใน ‘Long Live Love!’ นี่เป็นภาพยนตร์แนวฮามาก มีทั้งความคอมมิดี้ ความดราม่า แถมยังมีแฟนตาซี ที่เขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะเป็น ‘สติ’ ตั้งแต่แรกอ่านบท หลังได้รับการทาบทามจากผู้กำกับ มุก ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ
“อยากทำมาก อยากอยู่ในสิ่งๆนี้มาก” เขาบอกความรู้สึก
“เล่นเป็นคุณพ่อ มีครอบครัว มีลูก แล้วก็มีทั้งช่วงเวลาความสุขของครอบครัว แล้วก็ช่วงเวลาที่แตกสลายของครอบครัว”
เป็นคนที่ “มีช่วงความจำเสื่อม” จากอุบัติเหตุ ระหว่างเตรียมตัวจะเลิกรากับภรรยา ทำให้การหย่าหยุดชะงัก และหลังจากกลายเป็นคนไร้ความทรงจำ เขาก็ดัน ‘ไม่เหมือนเดิม’
“ก็คือมีชีวิตใหม่ ก็จะค่อยๆเรียนรู้ไปกับคนดู สืบว่าจริงๆตัวเราเป็นแบบไหน”
แบบไหนกันที่ทำให้คนเคย ‘รัก’ เปลี่ยนเป็น ‘เกลียด’
ทั้งนี้เมื่อเทียบตัวเองกับ ‘สติ’ ซันนี่บอกว่า “ถ้าเหมือน ก็คงเป็นความเป็นมนุษย์ครับ”
“จริงๆเราก็ไม่รู้หรอก ว่าเราเป็นคนดีหรือไม่ดี ชีวิตมันจะพาเราไปเรื่อยๆ เจออะไรมา ก็ปรับเปลี่ยน”
เหมือน ‘สติ’ ที่พอย้อนความทรงจำเป็นห้วงๆได้ผ่านภาพถ่าย ก็ทำให้ตระหนัก
“ไม่มีใครคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีหรอก แต่คนเรามีความไม่ดีเข้ามาตอนไหนไม่รู้ แล้วเราเปลี่ยนไปตอนไหนไม่รู้จนอันนี้เป็นโอกาสที่สองของชีวิต เราลืมหมดเลย แล้วก็ได้เรียนรู้ตัวเองใหม่ ว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปบ้างในอดีต”
กับ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ภรรยาในเรื่อง ซันนี่บอก “เขาอินกับเรื่องราวมาก สนใจมันมาก จนเรารู้สึกว่า โห…ดีจัง มีทั้งผู้กำกับ ทั้งนักแสดง ที่พร้อมจะไปในทิศทางเดียวกัน ลงเรือลำเดียวกัน แล้วก็สู้ไปด้วยกัน”
“เวลาผมเห็นคนอินบท ผมจะรู้สึกดีมากเลย เพราะว่าสีหน้าเขามันแบบเงินซื้อไม่ได้ มองแล้วรู้สึกว่าได้เห็นแพชชั่นในตัวเขา”
เขายังเล่าด้วยว่า “พี่เก้ง จิระ มะลิกุล (Head Producer ค่าย GDH)เคยบอกผมว่า เวลาดูหนังจะมี 3 สเต็ป มีดูแล้วเข้าใจ ดูแล้วรู้สึกกับมัน กับดูแล้วรู้สึกเป็นสรณะให้ชีวิตเขา เหมือนกับว่าพอเห็นสิ่งๆ นี้ แล้วเรารู้สึกว่ามันดีกับชีวิตเราจริงๆ เราอยากใช้ชีวิตแบบนี้ เพื่อมาเป็นส่วนที่ดีของชีวิตเพิ่มเข้ามา”
“ผมว่าเรื่องนี้มีครบทั้ง 3 อย่าง”
ณ ปัจจุบัน
ด้วยความที่ปีนี้อายุ 42 ซันนี่จึงพูดถึงตัวเองว่า “ไม่หนุ่มแล้วครับ แต่โสดอยู่ 100 %”
เรื่องแต่งงาน มีครอบครัว แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ได้คิด
“ไม่เคยมองอนาคตตั้งแต่เด็กเลย ผมไม่เคยวางแผนอะไรในชีวิต รู้สึกว่าชีวิตเราเหมือนขนนก โชคชะตาจะพาเราไปในทิศทางไหน มันก็มีสิทธิ์ที่เราอยากทำ แล้วก็ที่โชคชะตาจะพาไปไหน ก็คือการผจญภัยครับอยากรู้จริงๆ ว่าจะเป็นยังไงต่อ”
ในส่วนของการแต่งงาน จึงอยู่ในลักษณะ “ถ้าเกิดจะมา ก็มา”
หากก็คาดว่า “คงไม่แล้ว แก่ มีแต่แมวลูกติดอีก 2 ผมหงอกอีก ตอนนี้รู้สึกว่าสายตาเริ่มจะยาวแล้ว อ่านสลากซองแมวใกล้ๆไม่เห็นแล้ว”
ที่ไม่มีใคร ซันนี่บอกว่าเขาเองก็ไม่ทราบเหตุผล
“เราอาจจะไม่ได้โชคดีเจอคนที่ใช้ชีวิตร่วมกันในช่วงเวลานี้มั้ง แค่นั้นเอง”
ชีวิตของเขากับ ‘แมวผู้ชาย 2 คน’ ตามคำเรียกของเขา ซันนี่บอกว่า “ดีมาก ดีแบบสุดๆ มันมาในช่วงถูกเวลา”
“ถ้าเลี้ยงก่อนหน้านี้ก็อาจจะไม่รู้สึกดีขนาดนี้”
“ทุกอย่างมีเวลาและวาระของมัน ก็คงเหมือนแฟนแหละ”
ลำดับความสำคัญ
ซันนี่เล่าว่า ตอนนี้ครอบครัวเขาเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งตามธรรมชาติแล้วจะต้องมีการเรียงลำดับตามความสำคัญซึ่งแน่นอนว่า อันดับ 1 สำคัญที่สุดคือตัวเขา
“พวกนั้นรักผมที่สุด ซบ อยู่กับ แบงค์ ธิติ(มหาโยธารักษ์) ไม่ซบหรอก”
ส่วนที่ 2 สำคัญรองมาคือ แหลมจ๋อยดีแล้ว สุวรรณเมธานนท์ แมวผู้เป็นลูกชายคนโต อันดับ 3 คือ พี่แม็ค คนขับรถของแบงค์ ธิติ เพราะเท่าที่เห็นแมวรักพี่แม็คมากกว่า อันดับ 4 คือ พี่เป็ด ตุ๊กตาเป็ดเพื่อนแหลมจ๋อย จากนั้นอันดับ 5 จึงเป็นแบงค์ อันดับ 6 สตางค์ น้องแบงค์ อันดับ 7 เป็น หลี่มู่ไป๋ สุวรรณเมธานนท์ หรือ อ้วน แมวผู้เป็นลูกชายคนรอง แล้วอันดับ 8 ลำดับสุดท้ายได้แก่ พิมฐา ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล
ด้วยเหตุผลที่ว่า “สู้อ้วนไม่ได้ โดนอ้วนโขกสับอีกทีหนึ่ง พิมฐาเลยฐานันดรต่ำสุด”
คุณว่าการเรียงลำดับ เลือกจากอะไร?
5555