‘บอย ถกลเกียรติ’ กับ ‘Water Fall A NEW MUSICAL’ และอนาคตละครไทยในบรอดเวย์

 

‘บอย ถกลเกียรติ’ กับ ‘Water Fall A NEW MUSICAL’ และอนาคตละครไทยในบรอดเวย์

“ต้องเข้าใจว่าการเดินทางแต่ละงาน ของแต่ละโปรเจ็กต์ มันมีทั้งซัคเซสและมีทั้งเฟล แต่มันยังดีกว่านั่งเฉยๆ ผมรู้สึกว่านะ”

Advertisement

เมื่อปี พ.ศ. 2558 ‘WATER FALL THE MUSICAL’ ละครเวทีของไทยเคยไปปรากฎโฉมที่โรงละครในเมืองลอสแองเจลิส และซีแอทเทิล สหรัฐอเมริกา โดยมีบี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว แสดงร่วมกับนักแสดงบรอดเวย์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดย บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ซึ่งเป็นทั้งประธานกรรมการบริษัทซีเนริโอและผู้กำกับการแสดงละครเรื่องดังกล่าว บอกตามตรงว่า ตอนนั้นเขาทั้งท้อ และผิดหวัง จนคิดว่าจะวางมือ ไม่นำละครเรื่องนี้ออกสู่สายตาชาวโลกอีกดีไหม

แต่ ณ วันนี้ ‘WATER FALL A NEW MUSICAL’ ก็เตรียมพร้อมจะอวดโฉมใหม่ให้ได้ดูกันตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนถึง 1 ตุลาคมนี้ ที่เมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์

ที่มาที่ไปของการ ‘สู้ใหม่’ ถกลเกียรติบอกว่า “เราทำมิวสิคัลมาตั้งแต่ ‘วิมานเมือง’ (พ.ศ.2540) ทำมาหลายๆเรื่อง จน ‘ข้างหลังภาพ’ (พ.ศ. 2551) หลังจากนั้นมีโอกาสได้ไปเจอคนที่บรอดเวย์”

Advertisement

“คือเราก็มีความสงสัย เราไม่รู้หรอกว่างานของเราในอินเตอร์เนชั่นแนล สแตนดาร์ด มันเป็นยัง คือในโลคอล เราก็เป็นที่ชื่นชอบของคนดู ก็อยากรู้ว่าในอินเตอร์เนชั่นแนล สแตนดาร์ด มันไปได้ถึงไหน”

แล้วผลจากการไปเจอโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และ ฯลฯ ก็ได้รับคำตอบว่า “งานของยู มันอินเตอร์เนชั่นแนล สแตนดาร์ด เลยนะ”

Richard Maltby.Jr ผู้กำกับที่ได้รางวัลโทนี่ อวอร์ด ซึ่งถกลเกียรติมีความชื่นชมและติดตามผลงานเขามาตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ ก็บอกว่าเรื่องนี้เป็นเลิฟ สตอรี่ ที่มีอินเตอร์เนชั่นแนล คอนเน็คชั่น และในปี 2554 ก็เป็นจุดเริ่มต้นของ ‘WATER FALL THE MUSICAL’ เวอร์ชั่นนั้น

เวอร์ชั่นที่มี ‘ข้างหลังภาพ’ เป็นแรงบันดาลใจ แต่ไม่มี ‘คุณหญิงกีรติ’ ในเรื่อง ด้วยเหตุผลที่ต้องการเปลี่ยนตัวละครสักตัวให้เป็นฝรั่ง “เพื่อให้คนอินเตอร์เนชั่นแนลมองเห็นภาพอะไรมากขึ้น”

‘แคเธอรีน’ หญิงอเมริกัน ผู้เป็นรักต้องห้ามของ ‘นพพร’ จึงเกิดขึ้น มาพร้อมกับ ‘นิว สตอรี่’

“ซึ่งถามว่ามันพอไหม ณ ตอนนั้น มันไม่พอ อาจจะด้วยวิธีพรีเซนต์ของเรา อาจจะดูเทรดดิชั่นนอลไปหน่อย และด้วยบท ตัวละครอาจจะยังไม่เมกเซ้นส์ หรือคนดูอาจจะยังไม่เก็ทว่ามันคืออะไร ซึ่งโอเค เราก็เรียนรู้จากมันเยอะแยะมากมาย”

กับเสียงตอบรับจากคนดู และการวิพากษ์จากนักวิจารณ์ที่ออกมาไม่ดีนัก แน่นอนว่าเขาเองก็รู้สึกดังที่บอกไว้

“แต่ที่บ้านบอก เดี๋ยวก่อนนะ ผิดหวังอะไร มีคนไทยสักกี่คนที่มาถึงตรงนี้ ก็โอเค จบ”

ได้กำลังใจดีอย่างนี้ เขาจึงตัดสินใจไปต่อ หาคนมาช่วยเขียนบทเพิ่ม โดยตั้งใจให้เป็นผู้หญิง เพราะหวังจะได้อีกมุม เพิ่มเติมจากทีมผู้ชายที่มี แล้ว “โอ้โห…เห็นอีกทางนึงเลย”

จนสุดท้ายก็กลายเป็น “เรื่องเด็กไทยคนนึงอายุ 20 ต้นๆในช่วงปี 2475 วันหนึ่งก็ได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์อเมริกาแล้วชื่นชอบมาก บอกทำไมประเทศไทยไม่เป็นแบบนี้”

แล้วเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก็คิดไปว่าชีวิตจะได้เปลี่ยน

ต่อมาเด็กคนนั้นซึ่งก็คือนพพรได้ไปทำงานเป็นผู้ช่วย ‘เจ้าคุณอธิการบดี’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และมีโอกาสได้ใกล้ชิดแคธารีน ว่าที่ภรรยาของเจ้านาย ซึ่งเป็นสาวอเมริกันผู้ชื่นชอบในวัฒนธรรมไทย

แต่เรื่องจะไม่ได้มีแต่แง่มุมของรักต้องห้าม

เพราะในระหว่างทาง เรื่องจะฉายภาพของเด็กไทยผู้ประกาศว่า “ผมทิ้งสยามได้หมดเลยนะ ผมอยากให้เป็นแบบอเมริกัน ชื่นชอบอเมริกัน ขณะที่ผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่งผิดหวังกับประเทศตัวเอง แล้วมาสยาม เพราะว่ามีวัฒนธรรมที่สวยงาม”

ขณะเดียวกันในช่วงที่ท่านเจ้าคุณเดินทางไปร่วมประชุมที่ญี่ปุ่น ก็เป็นช่วงที่ ‘อเมริกัน คัลเจอร์’ เข้าไปที่ญี่ปุ่น โดยมีคนรุ่นใหม่ของที่่นั่นอ้าแขนเปิดรับอย่างมาก ต่างจากคนรุ่นเก่าที่ต่อต้าน

“เพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว ประเด็นของมันคือคุณจะทำยังไง ที่จะสามารถมีวัฒนธรรมของตัวเองได้ในโลกสมัยใหม่ มีเด็กไทยที่พุ่งไปเลยว่า อยากเป็นอย่างนี้ แล้วมีผู้หญิงอเมริกันที่มาจากอีกทาง ว่าเดี๋ยวๆ มันไม่ได้สวยงามขนาดนั้นนะ ยูไม่รู้อะไร ยูแค่อ่าน ไม่เห็นของจริง”

“เพราะฉะนั้นมันจะมีคำคำนึงที่เหมือนเป็นคำตอบ”

ซึ่งพอจะถาม เขาก็หัวเราะ แล้วดักคอล่วงหน้า ว่าอยากให้ไปค้นหาเองจากละคร

ส่วนการที่ละครเวทีหลายๆเรื่องของเขา มักมีเรื่องราวเกี่ยวกับชาติสอดแทรกอยู่ ในฐานะคนทำ เขาอธิบายว่าเป็นเพราะในความคิดของเขา “มิวสิคัลจะใหญ่ได้ มันต้องมีโซไซตี้เป็นแบคกราวน์ด จะเลิฟสตอรี่เบาๆอย่างเดียวไม่ได้”

“แต่ว่าสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับวอเตอร์ ฟอล มันเป็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ สำหรับฝรั่งเองก็เถอะ เพราะทุกวันนี้คนอเมริกันเองก็มีหลายเชื้อชาติ อเมริกันไม่ได้แปลว่าฝรั่งหัวทอง แล้วหลายๆคนก็ซัฟเฟอร์ ว่าทำไมฉันไม่ถูกยอมรับ ยังมีเอเชี่ยน เฮท มีโน่น นี่ แต่อเมริกันเองก็ยังชื่นชมวัฒนธรรมที่หลากหลาย อย่างนี้จะบาลานซ์กันยังไง มันก็เลยเป็นคำถาม ไม่ใช่แค่กับของไทย แต่เป็นคำถามทั่วโลก”

สำหรับนักแสดงที่จะมาร่วมงาน ถกลเกียรติใช้คำ “เก่งๆหมดเลย” มาอธิบาย

“ยังตื่นเต้น แปลกใจอยู่ ว่าเราได้คนขนาดนี้มาได้ยังไง”

ทั้ง Josh Dela Cruz ที่จะมาสวมบท ‘นพพร’ ซึ่งที่ผ่านมาเคยแสดงละครบรอดเวย์มาแล้วหลายเรื่อง ทั้งยังเป็นพิธีกรรายการ ‘Blue’s Clues & You!.’, Danielle Hope ที่เชื่อว่าจะเป็น ‘แคเธอรีน’ ที่มีความสดใหม่ และ Jon Jon Briones ซึ่งตัวเขาเองตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานด้วย เพราะไม่นึกเลยว่าจะตอบรับมาเป็น ‘เจ้าคุณอธิการบดี’

“ผมว่ามันเป็นการลงตัวดี๊ดี”

ที่เลือกเปิดตัว WATER FALL A NEW MUSICAL ในเมืองไทย ไม่ไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาเหมือนครั้งก่อน ถกลเกียรติบอกว่า เป็นเพราะตอนนี้ ‘โลกมันเล็กลง’ เรื่องความสะดวกต่างๆที่นี่ก็มีมากกว่า ขณะในแง่งบประมาณ แน่นอนว่าจะได้งานดี ในราคาที่จ่ายน้อยกว่า

“ถามว่าหลังจากนี้มันจะไปไงต่อ” เขาทวนคำถาม

แล้วบอก “ยังตอบไม่ได้”

“ถามว่าอยากไปต่อไปไหม อยากอยู่แล้ว”

“พูดตรงๆ เมื่อก่อนนี้ ผมจะพูดได้ไม่ค่อยเต็มปาก เพราะว่าไม่อยากพูด เพราะพอพูดว่าเป้าหมายของเราจะบรอดเวย์หรือจะอะไร แล้วพอไม่ได้ปุ๊บ มันจะโดน นี่ไง ฝันเฟื่อง ดีแต่พูด ดีแต่โม้ แต่พ.ศ.นี้ ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะเราต้องเข้าใจว่าการเดินทางแต่ละงาน ของแต่ละโปรเจ็กต์ มันมีทั้งซัคเซสและมีทั้งเฟล แต่มันยังดีกว่านั่งเฉยๆ ผมรู้สึกว่านะ”

“เพราะฉะนั้นปีนี้ผมบอกเลย ถามว่าอยากจะไปต่อไป อยาก แต่จะไปได้ไหม ไม่รู้ ตอบไม่ได้ เราก็ทำของเราให้มันดีที่สุดน่ะ จะเฟล หรือจะซัคเซส ผมว่าเป็นเรื่องของอนาคต”

“แต่ขอให้เราทำให้เต็มที่

เราจะเห็นอะไรใน WATER FALL A NEW MUSICAL

“จะเห็นถึงอีกก้าวหนึ่งของคนไทยที่ทำงานร่วมกับอินเตอร์เนชั่นแนล และพอเป็นอย่างนี้ มันเป็น New flavor จะได้เห็นรสชาติใหม่จากไทยในการผสมผสานของอินเตอร์เนชั่นแนล แล้วในขณะเดียวกันมันมีมุมมองของต่างชาติมองเข้ามาในไทย ไทยมองเข้าไปในต่างชาติ แต่ท้ายที่สุดเลิฟ สตอรี่ ก็ยังมีความฉ่ำของมันอยู่ แล้วตัวละครก็ผูกกันได้ลงตัวมากๆกับทั้งตัวละครเอง และกับประวัติศาสตร์ มันอาจจะแอบหยิบไอ้โน่นนิด ไอ้นี่หน่อยที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ แต่สุดท้ายมันก็เรื่องแต่งละนะ กับอีกอันนึงก็คือโปรดัคชั่นอลังการยิ่งใหญ่ น้ำตกมิตาเกะในตำนานจะกลับมา”

“แล้วผมว่าฝีมือคนไทยที่ร่วมกับต่างชาติ มันจะเกิดอะไรใหม่ๆ”

อ้อ, แล้วก็จะได้เห็น รัดเกล้า อามระดิษ กับ ‘ภูมิ โกลเด้นซอง’หรือภูมิ แก้วฟ้าเจริญ มาเป็นนักแสดงสมทบ

“ผมถามรัดเกล้าอยากเล่นไหม ทำงานกับคนบรอดเวย์ เขาบอกพี่ขา พี่ไม่ต้องถามเลย ผมคิดว่าเขาโหยหาโอกาสที่ไม่เคยทำ และได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ เป็นคนที่อยากจะเรียนรู้ตลอดเวลา”

ขณะที่ภูมิ เขามองเห็นแววจากการทำงานร่วมกันในละครเรื่องใหม่ที่เขากำกับและภูมิเป็นหนึ่งในแสดง

“เขาเต้นเก่งมาก แล้วรำเก่งมาก เห็นเลยว่าคนนี้ไม่ธรรมดา”

“เลยถามเขาว่าออดิชั่นไหม”

แล้วเขาก็มา

และ “ปรากฎว่าดี”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image