‘โชค รถแห่’ ควงภรรยา ‘นัส’ เคลียร์ นอกใจจริง หรือแค่คอนเทนท์โปรโมตเพลง?

นักร้องขวัญใจสายแว๊น โชค รถแห่ ที่วันนี้ควง นัส จุฑารัตน์ มาเปิดใจที่แรก หลังภรรยาโพสต์เดือดจับได้สามีนอกใจไม่รู้จักพอ พร้อมเคลียร์ข่าวลือที่นัสยอมจ่าย 2 แสนบาท เพื่อให้ผู้หญิงเลิกยุ่งกับสามี ในรายการ คุยแซ่บshow

นัส : เพราะจับได้ว่าเขากลับไปหาผู้หญิงคนนึง เราเลยรู้สึกว่าไม่โอเคแล้วก็โกรธ

นัส : รู้จักค่ะ แต่ไม่เจอบ่อย เคยเจอครั้งนึง

โชค : มีปัญหากันหลายๆ เรื่อง ความคิดหลายๆ อย่างเราอาจจะไม่ตรงกัน อย่างเช่น ผมชอบทำรถ อยู่กับโทรศัพท์ ติดเกม ติดโซเชียลเยอะไปหน่อย แล้วเขาเครียดกับการทำงานของเขาด้วย ทำให้เราจูนกันไม่ค่อยติด มันคาราคาซังกันนานพอสมควร แล้วมันมีเรื่องเฟซบุ๊ก ไลน์ เข้ามาเติมเต็ม เขารู้สึกว่าเหนื่อย เขาเลยไปสระแก้ว

นัส : ตอนแรกนัสงอน นัสโมโห แล้วนัสขับรถไปสระแก้ว แต่สระแก้วคือจังหวัดที่เขาต้องห้าม แต่สระแก้ว คือบ้านเกิดนัสเอง

นัส : ไปได้ แต่ต้องไปด้วยกัน เพราะเขาไม่ไว้ใจ เราเคยมีแฟนเก่าอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่เพื่อนเราอยู่ที่นั่นเหมือนกัน

นัส : หนูด่าเขาเสร็จหนูก็ขับรถไปเลย

โชค : ตอนนั้นผมไปเวียนเทียนอยู่ที่วัด มาดูโทรศัพท์อีกทีคือเขาไปแล้ว ทิ้งข้อความไว้ในแชทเต็มไปหมดเลย บ่นนู้น บ่นนี่ หลายๆ อย่าง ผมอ่าน เรามาทำบุญ เราไม่อยากเถียง เราก็โอเคอย่างเดียว เขาก็ไป แต่พอผมเสร็จจากการทำบุญ กำลังขับรถกลับบ้าน ผมไลน์และโทรไปง้อ ตอนนั้นเขาแข็งอย่างเดียวเลย ยังไงก็ไม่ดีด้วย เขายืนยันว่าจะกลับไปหาเพื่อนที่สระแก้ว

นัส : เพื่อนที่นัสคุยแล้วสบายใจที่สุด คืออยู่ที่สระแก้วหมดเลย นัสไม่ได้มีเพื่อนที่กรุงเทพ เลยรู้สึกว่าแค่อยากกลับไปหาเพื่อน กลับไปคุย ไปปรึกษาแค่นั้นเอง ตอนนั้นรู้สึกโกรธเขามาก แล้วเจ็บปวดกับสิ่งที่เขาทำ

นัส : คิดค่ะ

โชค : ตอนแรกเคยทะเลาะกันแบบนี้แหละ เขาเคยไปสระแก้วแล้วครั้งนึง ครั้งแรกที่เขาไปผมขับรถไปง้อเขาที่สระแก้วจริงๆ แล้วบอกว่าต่อไปนี้ถ้าจะมาต้องมาด้วยกัน ถ้ามาคนเดียวแบบนี้เรารู้สึกไม่ดีเลย เขาก็สัญญาว่าจะไม่ทำแล้ว แล้วมีครั้งนี้ที่เขาไป ผมไม่ได้ไป

โชค : ไม่ใช่ครับ จริงๆ งอนกันเพราะสาเหตุเรื่องส่วนตัวมากกว่า ไม่เข้าใจกันในเรื่องส่วนตัวมากกว่า

โชค : เพราะเราเคยบอกเขาแล้วว่าถ้าจะไปสระแก้วให้เราไปด้วย

โชค : ก็ใช่

นัส : ไม่นานค่ะ ประมาณ 6-7 ชม.

โชค : มันเป็นเวลาที่งอนเมีย ส่วนเขาก็น้อยใจผม ก็ง้อ แต่เขาอยากไปหาเพื่อน เราไม่ต้องคุยกันหรอก มันไม่มีที่ไหนที่สบายใจ ผมก็เลยหยิบโทรศัพท์ แอดเฟซไปหาแฟนเก่าที่เคยคุยกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไประบายให้เขาฟัง ใช่เขาอาจจะซัพพอร์ตเรา ณ ตอนนั้น แต่ความเป็นจริงมันไม่ถูกหรอก ผมรู้สึกไม่น่าเลย

โชค : คุยบ้าง ไม่คุยบ้าง มาๆ หายๆ เราก็เล่าให้เขาฟังกับปัญหาส่วนของเราว่ามันเกิดอะไรบ้าง

โชค : ทั้งหมด แต่ไปหาจริงๆ ประมาณ 15 นาที ตรงนี้ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง แต่ผมปรึกษาทั้งพี่ เพื่อนทุกคนแล้ว เรารู้สึกไม่มีใครเข้าใจเราจริงๆ ว่าเราชอบแบบนี้ อาจจะมีบางคนที่เขาเห็นใจเราก็ได้ ตอนนั้นไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ ก็เลยอาจจะมีบางคนที่เขาเห็นในเราก็ได้ ไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ แต่มันไม่ดีเลย

โชค : ประมาณเกือบ 2 ปี

นัส : ผู้หญิงโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา เราอ่านแล้วยังไงมันก็คือเรื่องราวของเรา

นัส : ไม่ได้จะตาม แต่มันมีช่วงที่เขาหายไป มีช่วงที่ติดต่อเขาได้และไม่ได้ มีช่วงที่โทรวีดีโอคอลแล้วไม่รับ มีช่วงที่ตัดสาย นัสรู้สึกว่ามันมีอะไรที่ไม่ปกติ ต้องมีอะไรสักอย่าง เพราะนัสรู้เรื่องผู้หญิงคนนี้ เพราะเขาโพสต์ตลอด ผู้หญิงไม่เคยอยู่เป็นเลย เพราะเขาจะโพสต์ตลอด ไม่ว่าจะเกิดดราม่าอะไรกับเรา เขาจะโพสต์เหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งตลอด แล้วพอนัสไปเห็นว่ามันเป็นเรื่องราวของเรา เราก็ขึ้นไปหาเขาเลย

นัส : ประมาณว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจครั้งนึงที่เขามีแฟน เขาไม่เคยทำกับแฟนแบบนี้เลย คือเขาตำหนิหนู  เยาะเย้ยหนู

นัส : โกรธมากค่ะ คือไปเจอกันอะไร หนูไม่เจ็บเท่าเอาเรื่องของหนูไปเล่าให้เขาฟัง หนูรู้สึกว่าอันนี้ไม่ให้เกียรติหนูเลย อันนี้หนูรับไม่ได้

นัส : ต้องบอกว่าตอนที่ตีรถกลับมายังไม่รู้เรื่องนี้ เรื่องนี้รู้วันที่โพสต์เลย เรื่องนี้รู้ทีหลัง กลับมาอยู่ด้วยกันประมาณ 2 วัน

นัส : ขึ้นมาหาเขาเลย ตอนนั้นหนูอยู่ข้างล่าง เขาไหว้พระอยู่ข้างบน ก็ถามว่าพ่อไปเจอคนนี้มาใช่ไหม เขาก็บอกรู้ได้ยังไง พูดมาอย่าให้รู้จากปากคนอื่น แล้วเขาก็ยอมรับ

โชค : ก็บอกว่าเดี๋ยวไหว้พระก่อน คือมันอยู่หน้าพระเราไม่อยากโกหก ถ้าโกหกมันก็ไม่จบ ก็พูดตรงเลย ครับ ใช่ รับหมด

โชค : รู้ว่าเขาไม่โอเคมากกับเรื่องนี้ ตอนนั้นเราทำใจ เพราะทำอะไรไม่ถูก เขาเคยบอกว่าถ้ามีเรื่องนี้พอเลยนะ จบเลย

นัส : เรื่องนี้คือเดตไลน์ เพราะไม่ใช่ครั้งแรก

โชค : ผมไม่รู้ว่าทำไมเซ้นส์ผู้หญิงถึงแรงขนาดนี้

นัส : เซ้นส์กูแรงกว่ารถมึงอีก

โชค : วันนั้นเราคุยอย่างเดียวครับ ความรู้สึกในใจมันอึดอัดไปหมด คิดว่าไม่มีใครเข้าใจเท่าคนนี้แล้วเลยเลือกที่จะคุยกับเขา เราก็เล่าให้เขาฟัง เขาก็เล่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เราเลิกกันไป เขาก็เล่าในส่วนของเขาให้เราฟังว่าเขาไปเจออะไรมาบ้าง ปรับทุกข์แค่นั้น พอจบจากตรงนั้นก็แยกย้ายกลับบ้าน

โชค : ยืนยันครับ ผมบอกเขาตั้งแต่วันนั้นว่าคุยอย่างเดียว แต่เขาบอกผมตลอดว่าไม่เชื่อว่าคุยอย่างเดียว คือเราพูดไปเขาก็ไม่เชื่อ เพราะมันเคยมีแผลมาก่อน เพราะเกมครั้งแรกก็เพราะคนนี้ แล้วผ่านไปอีก 2 ปีก็คนนี้อีกครั้งนึง ก่อนที่จะเลิกคุยเราก็บล็อกทุกอย่างว่าจะไม่ทักไปแล้ว คิดว่าจะจบแค่วันนั้น แต่หลังจากที่เราบล็อกไปวันนึง หรือสองวัน คนนี้เขากลับโพสต์เรื่องราวที่เราเล่าให้เขาฟัง แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้เมียเราเข้าไปส่อง แล้วเขาก็มาถามเรา แล้วเราก็บังเอิญไหว้พระอยู่เลยตอบว่าครับ

นัส : หนูทำใจเชื่อยากมาก เพราะหนูไม่รู้ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วมันไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งอันนี้ถ้าครั้งใหญ่ๆ ครั้งที่2 เคยกลับไปมีอะไรกันตอนคบกับหนูได้ 3 เดือน ตอนนั้นตลกมาก วีดิโอคอลว่าอยู่ไหน บอกว่ารถเสียเทอร์โบหลุดอยู่แถวปากช่อง แล้วบอกว่าต้องพักโรงแรม หนูก็บอกว่าให้ไปหาไหม เป็นห่วง เขาบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องไป งั้นแพนกล้องให้หน่อย นัสเห็นรองเท้าผู้หญิงสีดำ เขาบอกว่ารองเท้าใส่ในห้อง เราบอกไม่มันไม่มีส้นสูงแบบนั้น แพนใหม่ แล้วเห็นเขาก็รีบเขี่ยออกไป เราก็บอกแพนไปที่เตียงสิ เขาก็ทำแบบขรุๆ ขระๆ ตอนนั้นคือชัดเลย อันนั้นคือครั้งแรก

นัส : จบที่ไม่เอาเหมือนกัน แต่เขาก็ไปนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ไปบวช ไปดลจิต ดลใจให้เรากลับมา เอาชื่อเราไปสวด ไปขอ

โชค : ตอนนั้นห่มขาว 3 วัน

นัส : เป็นเดือนค่ะ

โชค : ที่ทำตรงนั้น เข้าศีลไม่ถึงกับปลงหรอก หมายถึงอะไรที่ไม่ดีก็อยากจะละแล้ว

โชค : ทราบครับ เพราะตอนจบกันเคลียร์กันหมด เรื่อง 2 แสนนี่แหละ

2 แสนมันคืออะไร?

โชค : ตอนที่ผมคบกับเขาอยู่ ทางผู้ใหญ่เขาให้หมั้นกันไว้ ตอนนั้นผมเป็นนักร้องอยู่ แล้วพอวันนึงมันไปกันไม่ได้ เราเลยแยกจากกัน ของหมั้นและเงินเราก็ยกให้ฝ่ายหญิงทั้งหมดเลย แล้วเขาเหมือนจะบอกว่า ฝ่ายหญิงเหมือนมีตำหนิไปแล้ว เขาเลยบอกให้เราชดใช้ค่าเสียหายได้ไหม ผมเลยบอกว่าได้ เพื่อไม่ให้มันมีปัญหาบานปลาย ผมเอาเงินจ่ายเขาไปก่อน 50,000 แล้วมันติดอยู่อีก 150,000 แล้วมีรถมอเตอร์ไซค์ที่ติดไฟแนนซ์แต่ว่าเป็นชื่อแม่เขา ก็รวมทั้งหมดที่ค้างเขาอยู่ประมาณ 220,000-230,000 พอตรงนั้นจบแล้ว แต่มันยังคาราคาซังเรื่องนี้ ต่างคนก็มีคนใหม่ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้หมดแล้วว่าเราเหลือแค่ปัญหาเรื่องเงินที่ติดค้างกันอยู่ แล้วผมมาคบกับนัสได้สักระยะนึง แล้วเขาถามว่าปัญหากับผู้หญิงคนนั้นยังไง ผมก็เล่าให้ฟัง เขาเลยบอกว่าฉันมีเงินอยู่ เดี๋ยวฉันเคลียร์ตรงนี้ให้เธอแล้วกัน เขาเลยทำสัญญาขึ้นมาเป็น 2 ฉบับ

นัส : บันทึกข้อตกลงให้จบ

โชค : ของผมที่ค้างเขา 150,000 แล้วค่ารถอีก 80,000 วันนั้นเขามากับแม่เขา ผมก็ไปกับนัส ต่างคนต่างเซ็น ไม่ได้ว่าจ้างเลิกหรืออะไรนะครับ เพราะมันคาราคาซังมาก่อนที่จะคบกับนัสอีก

นัส : ครั้งนี้หนูถึงโกรธมากไง เพราะมันมีปัญหาเรื้อรังมากกับผู้หญิงคนนี้ หนูรู้สึกว่าทำไมต้องไปยุ่ง เป็นคนอื่นให้มันจบ ทำไมต้องเป็นคนนี้ด้วย

นัส : ใช่ เขาโทรมาขอให้ลบข่าว หนูไม่ได้เป็นคนทำให้เป็นข่าว หนูอาจจะโพสต์ด่าในส่วนของสามีหนู แต่เรื่องที่ขุดคือชาวเน็ตขุดกันเอง ไม่เกี่ยวกับหนู ซึ่งคุณแม่บอกว่าเขาไม่ได้ไปเจอกัน แต่ทางนี้สารภาพกับหนูหมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นพูดกับคุณแม่ยังไง แต่คุณแม่มาพูดกับหนูว่าเขาไม่เจอกัน เขาไม่ยุ่งวุ่นวายกันแล้ว

โชค : ครั้งนี้หนักเลย หนักที่สุดในชีวิตเลย คิดในใจอยู่แล้วว่าเขาไม่ให้โอกาสเราหรอก การง้อครั้งนี้เขาก็พูดว่ามีแค่ทางเดียว ให้เซ็นทุกอย่างให้เป็นของลูก

โชค : ใช่ที่สร้างด้วยกัน เพราะตอนนี้ทั้งบ้าน ทั้งโฉนดก็เป็นชื่อร่วมกันอยู่ เขาบอกว่าเพื่ออนาคตเธอจะได้ไม่มาทำร้ายฉันอีก ถ้าวันนึงเธอไปมีคนอื่น

นัส : มันคือสิ่งที่สร้างมาด้วยกัน ถ้าวันนึงเขาคิดจะทรยศหักหลังก็ควรไปแต่ตัว เพราะมันคือสิ่งที่ช่วยกันทำมา

โชค : ตอนนั้นคือคุยเรื่องที่จะโอนให้เขาเสร็จแล้ว แต่เขาเหมือนยังไม่หาย ยังมีอะไรติดค้างเขา เป็นผู้หญิงหายงอนยากมาก

นัส : มันเป็นความรู้สึก

โชค : ผมก็เลยอุ้มลูกให้พี่ถ่ายวีดิโอให้ขอร้องเพลงง้อเมียสักเพลง เผื่อเขาจะรู้สึกดีขึ้น

นัส : สงสารลูก ถ้าสมมติเราเลิกกันไป คงไม่มีใครที่จะรักลูกเราเท่าพ่อของเขาอยู่แล้ว ก็อยากให้โอกาสแล้วลองประคับประคองไปอีกสักครั้ง

โชค : เซ็น ทำสัญญาขึ้นมาใหม่

โชค : จริงๆ เราง้อกันก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เขาไม่ได้หายงอน เลยอยากทำคลิปเพื่อง้อเขาอีกครั้ง ให้มันคลีนใจทั้งหมดว่าฉันจะทำเพื่อเธอ เพื่อลูกจริงๆ นะ ฉันสำนึกผิดจริงๆ แล้ว

นัส : หนูยังรักเขาด้วยแหละ ส่วนนึงก็คิดว่ามันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่ถ้าโตกว่านี้แล้วทำอีกอันนั้นคงไม่น่าให้อภัย แต่นี่ด้วยอายุ ด้วยอะไร พยายามตรองหลายๆ อย่าง ก็คิดว่าถ้ามีอีกคงไม่เอาแล้ว