‘เจฟ ซาเตอร์’ ไม่กดดันแทน ‘พีพี กฤษฏ์’ ในโปรเจกต์ D ตื่นเต้นได้ร่วมงาน ‘อิงฟ้า’

‘เจฟ ซาเตอร์’ ไม่กดดันแทน ‘พีพี กฤษฏ์’ ในโปรเจกต์ D ตื่นเต้นได้ร่วมงาน ‘อิงฟ้า’

เดินหน้าต่อแล้ว สำหรับ ภาพยนตร์  ‘PROJECT D’ ที่เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศระงับโปรเจ็กต์ดังกล่าวที่มีนักแสดงนำเป็น พีพี กฤษฏ์ และ อิงฟ้า วราหะ ไว้ก่อน โดยล่าสุด จีดีเอช 559 ก็แจ้งเตรียมรันโปรเจกต์ดังกล่าวต่อแล้ว โดยได้ นักร้องดัง เจฟ ซาเตอร์ มาร่วมงานแทน รวมถึง เต้ย พงศกร , เก่ง หฤษฏ์ และ สีดา พัวพิมล เป็นนักแสดงหลักในเรื่อง และเตรียมเริ่มทำการเวิร์กชอป เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้

จีดีเอช ออกประกาศ ระงับ ‘PROJECT D’ หนังของพีพี-อิงฟ้า

ล่าสุด ในงานเปิดตัว ‘New Honda Giorno+’ ที่ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น22 เซ็นทาราแกรนด์ @เซ็นทรัลเวิลด์ เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้เปิดใจถึงการมาร่วมงานดังกล่าวว่า

Advertisement

ถามถึงภาพยนตร์ โปรเจกต์ D?
“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอส(นฤเบศ กูโน-ผู้กำกับการแสดง) ความน่าสนใจของตัวบทคือมีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อยๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้”

ได้มีโอกาสคุยกับผู้ใหญ่ไหมว่าทำไมถึงเลือกเรา?
“คุยนะครับ เพราะตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น”

Advertisement

กดดันไหมเพราะก่อนหน้านี้วางตัวเป็น พีพี กฤษฏ์ เล่น แต่ภายหลังขอถอนตัวไป?
“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริงๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”

แล้วกดดันในเรื่องของคาแร็กเตอร์ไหมเพราะต้องผิวดำและโกนหัว?
“(หัวเราะ)มันไม่เชิงกดดันครับ แต่ผมอยากเห็นตัวเองในแบบนั้น ถ้าจะต้องไปเป็นคนอื่นมันก็ต้องไปเป็นคนอื่นจริงๆ มันต้องทิ้งตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ต แล้วก็เอาตัวเองเข้าไปในบท ผมก็เลยอยากจะทรานส์ฟอร์มไปเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่มีใครเคยเห็น ส่วนว่าจะทรานส์ฟอร์มขนาดไหนต้องรอดูในหนัง แต่ว่าก็ได้มีการคุยกับทีมงานแล้ว อย่างในเรื่องของการโกนหัวก็ต้องรอดูว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน”

ลุคที่ต้องเปลี่ยนไปเราจะต้องเปลี่ยนไปเลย หรือว่าใช้เอฟเฟ็กต์ช่วย?
“ผมว่ามันน่าจะมีหลายแบบ ทั้งที่เปลี่ยนไปเลยด้วยแล้วก็ใช้เอฟเฟ็กต์ช่วยด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้เวิร์กช็อป แต่ผมเห็นบททั้งเรื่องของหนังเรื่องนี้แล้ว บอกเลยว่ามันไปสุดจริงๆ ในเวย์ของมัน”

ไม่ติดกับเรื่องสวนทุเรียนใช่ไหมเพราะในเรื่องจะต้องเกี่ยวข้องด้วย?
“ผมชอบกินทุเรียนมาก ชอบหมอนทองมากเลย ผมก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่อาจจะรู้เรื่องนี้มาเลยเรียกผมมาแคสต์หรือเปล่า ส่วนเรื่องการถ่ายทำน่าจะปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าครับ ถามว่าในช่วงของการถ่ายทำหนังผมจะหายไปจากการเพลงหรือเปล่า บอกเลยว่าไม่ครับ ผมยังทำอยู่ นี่ก็คือสิ่งที่ท้าทายประมาณหนึ่งที่เราจะต้องทำทุกอย่างภายในเวลาเดียวกันด้วย”

การจะได้มาร่วมงานกับ อิงฟ้า วราหะ ล่ะ?
“จริงๆ น่าตื่นเต้นนะครับ ผมว่าการได้ร่วมงานไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามในหนัง ทุกคนเป็นมืออาชีพกันหมด อิงฟ้า พี่เต้ย(พงศกร) และคนอื่นๆ การได้แชร์ประสบการณ์และได้ทำงานด้วยกันน่าจะเจ๋งดี”

ภาพจาก fa_engfa8

พีพี-บอส-อิงฟ้า
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image