‘เคลลี่’ เตรียมเข้าวิวาห์ เผย ‘พลอยไพลิน’ คือคนที่ใช่ตั้งแต่เดือนแรกที่คบ โต้ข่าวท้องก่อนแต่ง

 

‘เคลลี่’ เตรียมเข้าวิวาห์ เผย ‘พลอยไพลิน’ คือคนที่ใช่ตั้งแต่เดือนแรกที่คบ โต้ข่าวท้องก่อนแต่ง

หลังจากมีข่าวแว่วมาว่า เคลลี่ ธนะพัฒน์ เตรียมเข้าวิวาห์กับ พลอยไพลิน แฟนสาวที่คบหาดูใจกันมา 2 ปี โดยล่าสุดฝ่ายชายก็ได้ออกมเปิดใจกับสื่อหลังถ่ายรายการ ทัวร์มาลง ว่า จะมีข่าวดีในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ ตอนนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นเพราะใกล้จะถึงวันงานแล้ว เคลลี่บอกว่าเป็นงานเล็กๆ ที่จะมีครอบครัวทางพลอยและเพื่อนๆ ที่สนิทของทั้งคู่เพียงเท่านั้น

“ก็ฉุกละหุกนิดนึง จริงๆ แพลนไว้ว่าจะแต่งงานต้นปี แต่กลายเป็นว่าพอไปดูฤกษ์แล้วได้มาตอนแรกเขาบอกว่าควรจะแต่งก่อนที่จะถึงวันเกิดผม เพราะผมเกิด 8 พ.ย. แล้วได้วันที่ที่ดีที่สุดคือวันที่ 2 ต.ค. ก็เลยกลายเป็นวันนั้น แต่จริงๆ ใจผมอยากจะแต่งประมาณเดือน 2-3 ปีหน้า ยังมีเวลาวางแพลนเตรียมงาน”

Advertisement

เคลลี่เผยว่า รู้สึกตั้งแต่เดือนแรกที่คบกับแฟนสาวแล้วว่า คนนี้แหละคือคนที่จะแต่งด้วย เขาบอกอีกว่าด้วยอายุ ความพร้อม ก็รู้สึกว่าพร้อมแล้ว

“ผมก็บอกเขาไปนะว่าผมจะแต่งงานกับคุณ นี่เป็นความรู้สึกข้างในจริงๆ แต่พอคบกันมาตอนนี้เข้าปีที่2 แล้ว ก็ได้คุยกันว่ามันก็ถึงเวลาแล้ว เพราะเราคบกันมาจะ 2 ปีแล้ว”

Advertisement

เมื่อถามว่าทำไมถึงคิดว่าคนนี้แหละคือคู่ชีวิต เคลลี่บอกตอบยาก แต่ถ้าจะบอกว่าเขาน่ารัก เขาดี เขาดูแลเรา อันนี้ก็ใช่อยู่แล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ข้างในมันมีเยอะมาก

“อธิบายไม่ได้หมดว่าทำไมถึงเป็นคนนี้ แต่เวลาผมอยู่กับเขา ผมรักและขาดเขาไม่ได้ เขาทำให้ผมมีความสุข และแฮปปี้ ทำให้ผมอยากอยู่ด้วย รวมถึงครอบครัวของทางพลอยด้วยนะครับ คุณพ่อคุณแม่เขาให้ผม เหมือนผมเป็นลูกชายคนนึง ให้ผมรู้สึกเขาให้ความอบอุ่น ผมอบอุ่นมากก็รู้สึกว่าโชคดีครับ”

กับโมเมนต์ตอนขอแต่งงาน เขาบอกว่ายังไม่ได้มีการคุกเข่าเซอร์ไพรส์ แต่ก็น่าจะมี ซึ่งก็เล่าวันที่ขอแต่งงานต่อว่า

“คุยกันตรงๆ ว่าคงถึงเวลาแล้ว เพราะผมบอกเขาตั้งแต่เดือนแรกแล้วว่าคุณคือคนที่ใช่แน่ เมื่อเรารู้สึกว่าเราทั้งคู่พร้อมแล้ว เราก็ได้คุยกันว่าน่าจะเป็นต้นปีหน้า ก็มาดูฤกษ์กัน แต่พอได้วันที่ไวก็มีหลายๆ อย่างที่ผมยังไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมอยากทำ แต่ยังไงเดี๋ยวก็ต้องมีครับ”

เคลลี่เล่าว่ากับพลอยเป็นคนดูรายละเอียดเรื่องงานแต่ง ส่วนเขามีหน้าที่ตามใจ แต่ก็ไม่ได้จัดงานเลี้ยงใหญ่ เป็นงานเล็ก มีแต่ครอบครัว ไม่มีธีม เป็นสไตล์ฝรั่งมากกว่า

“แต่เรามีพิธีสงฆ์ตอนเช้า มีสวมแหวน รดน้ำสังข์ ตามประเพณีไทย มีทานข้าวกลางวัน งานค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีแห่ขันหมาก ไม่ได้มีโชว์สินสอด แล้วก็จะมีการจดทะเบียนในวันนั้นเลยครับ จัดงานที่ปาร์คนายเลิศ”

ภาพครอบครัว เคลลี่บอกว่ายังไม่แน่ใจว่าจะมีลูกเลยไหม ยังไม่ได้ตัดสินใจกันว่าควรจะมีหรือไม่มี แต่ถ้าถามว่าจะเป็นคุณพ่อแบบไหน สามีแบบไหน ก็หวังว่าจะเป็นสามีที่ดี

“จะพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขามีความสุข สิ่งที่เราทำได้คือให้เขารู้สึกถึงความรักที่เรามีต่อเขาทุกวัน ให้เขารู้สึกว่าเรารักเขาทุกวัน ให้เกียรติเขา พลอยเขาน่ารัก เขาเตือนสติผมในหลายๆ เรื่อง เราไม่ใช่อายุน้อยๆ ก็ต้องคิดถึงเรื่องอนาคตของเรา หรือในหลายๆ เรื่อง เราเป็นผู้ชาย เราอยู่ในวงการนี้ บางทีเราก็ไม่ได้วางแผน ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดเหมือนเขา ที่เขาทำงานบริษัท ทำงานองค์กรมา เขาก็ช่วยเราได้เยอะครับ”

กับที่ข่าวออกหลายคนก็สงสัยว่าแต่งอีกแล้ว เคลลี่บอกว่า ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ขณะที่บางคนก็คิดว่าแต่งเพราะมีน้องหรือเปล่า เขาบอกว่า

“อันนี้ผมรู้อยู่แล้วว่าคนต้องคิด เป็นผมก็คิด เพราะมันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมันปุ๊บปั๊บจริงๆ แต่ไม่ได้ท้องก่อนแต่งครับ อย่างที่บอกว่า ไปดูฤกษ์แล้วได้ฤกษ์มา เราแพลนที่จะแต่งอยู่แล้ว แต่เป็นต้นปี อาจจะเลื่อนวันที่มาเร็วขึ้น ถ้าจัดทุกอย่างได้ทัน อันนี้เป็นสิ่งเดียวที่ผมกังวลว่าจะทันไหมครับ ห้ามเขาไม่ได้หรอกครับ สมัยนี้คนเขาวิจารณ์สนุกสนาน ถ้าเราไม่ไปเครียดกับคำวิจารณ์ซึ่งมันไม่ได้เป็นจริง เราก็ไม่ต้องไปเครียด เขาอยากจะพูดเราห้ามเขาไม่ได้ คนมีสิทธิ์ที่จะคิด และเป็นผมเองก็คิด ท้องก่อนแต่ง ทำไมอยู่ดีๆ ถึงแต่ง ที่ไม่ได้แจ้งด้วยคือตัวผมไม่ได้เป็นคนที่ป่าวประกาศ และเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัว อีกอย่างเราวุ่นจนการจัดงาน การ์ดก็เพิ่งจะทำเสร็จเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทุกอย่างมันค่อนข้างจะไวครับ ก็เลยยังไม่ได้แจ้งสื่อ”

เมื่อให้ฝากถึงว่าที่เจ้าสาว เจ้าตัวบอกว่า

“รักนะครับ รักมากขึ้นทุกวัน คุณพลอยเป็นคนที่ดี เป็นแฟนที่ดีมาก อย่างที่บอกผมนึกไม่ได้เลยว่าถ้าชีวิตนี้ไม่มีเขาจะเป็นอย่างไร เรารู้สึกว่าเราขาดเขาไม่ได้ อาจจะดูเลี่ยนไปหน่อยแต่ก็เป็นเรื่องจริงนะครับ เรารัก”

พร้อมทิ้งไว้ด้วยว่า “บางคนเจอกันปุ๊บปั๊บอาทิตย์เดียวก็แต่งอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต บางคนรู้จักกันมาเป็น 10 ปีแต่งก็เลิก ผมว่าไม่เกี่ยวกับเวลา มันเกี่ยวกับการคบกัน การปรับตัวเข้าหากัน เคยมีคนบอกผมว่าความรักอย่างเดียวมันไม่พอ ผมก็ไม่เข้าใจตรงนี้ ทำไมละคนรักกันทำไมมันถึงอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วมันมีหลายปัจจัยนะ การที่คนเราจะอยู่ด้วยกันได้ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ระหว่าง 2 คน คนรอบข้าง ครอบครัว มันมีหลายปัจจัย อันนี้เราไม่อาจบอกได้หรอกว่าเพราะอะไร คือผมคิดว่าไม่มีใครอยากคบ อยากแต่งแล้วเลิก แต่ถ้าเขาแต่งแล้วเลิกก็อย่าไปว่าเขา ซ้ำเติมเขา เพราะเขาก็เสียใจพอแล้ว การที่เราไปซ้ำเติม ไปสมน้ำหน้าหรือต่อว่าเขา อย่าไปซ้ำเติมกันให้เป็นบาปเลย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าที่เขาจะต้องแยกทางกันเหตุผลคืออะไร ปมเชื่อว่าทุกคนที่เขาต้องแยกทางกันเขาก็รักกัน แต่มันมีเหตุผลที่เขาไม่ได้แจ้งเราว่าเพราะอะไร”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image