เขามากับนํ้าท่วม สรยุทธ’คืนจอ’ยอดวิวทะลัก

ถ้าเอ่ยถึงเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 นอกจากภาพความเดือดร้อนของผู้คนมากมาย เชื่อว่าหลายคนคงอดไม่ได้ที่จะนึกถึง สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าว “เรื่องเล่าเช้านี้” และ “เจาะข่าวเด่น” ทางช่อง 3 เพราะไม่เพียงแค่ยอมลุยน้ำรายงานข่าวในพื้นที่ต่างๆ แต่เขายังมีบทบาทในการขอรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาเมื่อเกิดน้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดภาคใต้ เสียงเรียกร้องให้ “สรยุทธคืนจอ” จึงดังขึ้นเรื่อยๆ

“พอไม่มีสรยุทธก็เหมือนไม่มีน้ำท่วม” ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งระบุ

ส่วนอีกคนว่า “ถ้าสรยุทธยังทำข่าวอยู่ ป่านนี้แกคงอยู่แถวนครแล้ว #น้ำท่วมภาคใต้”

ฝั่งสรยุทธเอง หลังประกาศยุติบทบาทพิธีกรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง 3 และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จากกรณีถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดีที่ บริษัทไร่ส้ม ของเขาถูกกล่าวหายักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กว่า 138 ล้านบาท ตั้งแต่นั้นเจ้าพ่อไร่ส้มก็หายไปจากหน้าจอช่อง 3 จะมีที่เห็นผ่านๆ ก็คือ ในเว็บไซต์เรื่องเล่าเช้านี้ที่เขาจัดรายการพิเศษ “ยุทธ-หนุ่ย คุยยูโร” วิเคราะห์เกมคู่เปิดสนาม “ยูโร 2016” เป็นเวลาสั้นๆ 5 นาที ร่วมกับ เอกราช เก่งทุกทาง ผู้ประกาศข่าวกีฬาคู่บุญ

Advertisement

นอกนั้นถ้าใครคิดถึงก็ต้องไปติดตามในอินสตาแกรม “sorrayuth9111” ที่เขามักอัพเดตเรื่องราวส่วนตัวให้ได้ชมกันอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม หลังอยู่เงียบๆ หลังจอมากว่า 9 เดือน เมื่อวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา พิธีกรเล่าข่าวคนดังได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการเปิดแฟนเพจเฟซบุ๊ก “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” ที่แค่ชื่อก็ประกาศชัดถึงเจตนารมณ์ว่ายังคงจะทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนักในฐานะ “กรรมกรข่าว” เช่นเดิม

แรกๆ ผู้คนยังลังเลว่านี่คือตัวจริง หรือแค่ของเลียนแบบ ยอดกดไลค์เพจจึงมีอยู่ไม่เท่าไหร่ กระทั่งเขาได้โปรโมตเพจผ่านอินสตาแกรมยอดจึงกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่หลักหมื่น พอดีกับสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคใต้กำลังทวีความรุนแรงจึงมีเสียงเรียกร้องให้จัดรายการผ่านการถ่ายทอดสดในเฟซบุ๊ก หรือเรียกสั้นๆ ว่า “เฟซบุ๊กไลฟ์” ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งจะด้วยทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว หรือตั้งใจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่แล้วก็แล้วแต่ สุดท้ายสรยุทธก็มุ่งหน้าลงใต้ไปทำหน้าที่

Advertisement

โดยถ้าไม่นับการรีวิวความอร่อยของ “ผัดไทยท่ายาง” และ “ขนมหวานเมืองเพชร” ซึ่งเป็นความถนัดหนึ่งของเจ้าพ่อเล่าข่าวที่ผู้ติดตามในไอจีทราบดี ตลอดเส้นทางที่ลงใต้ สรยุทธได้รายงานสถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วมให้ทราบเป็นระยะ แม้บางวิดีโอจะสั้นไม่กี่วินาที มีเพียงบรรยายใต้คลิปโดยไร้เสียงพูด แต่ยังมีผู้ชมมากถึง 150,000 วิว

ขณะที่วิดีโอ “Live สดจากปากพนัง” ซึ่งสรยุทธได้พาชมสถานการณ์น้ำที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับสัมภาษณ์ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยการเข้าถึงผู้คนในพื้นที่ พูดคุยอย่างเป็นกันเองประหนึ่งเป็นคนในครอบครัว เปิดโอกาสให้คนถ่ายรูปได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะบังกล้องเหมือนตอนรายงานข่าวผ่านทีวีทำให้มีผู้ชมมากกว่า 1 ล้านวิวภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง

และนอกจากการรายงานข่าวตามหน้าที่ แฟนเพจนี้ยังเป็นเหมือนสื่อกลางของการให้ความช่วยเหลือ โดยผู้เดือดร้อนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือเข้าไปได้ ขณะเดียวกันหากใครหรือองค์กรใดอยากให้ความช่วยเหลือก็สามารถมอบผ่านทางนี้ได้เช่นกัน

แต่จุดน่าสนใจอีกอย่าง คือ ช่วง “เจาะข่าวเด่น” ที่สรยุทธเป็นพิธีกร และได้หายไปจากรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” พร้อมๆ กับการยุติหน้าจอของเขา ก็มาปรากฏให้เห็นอีกครั้งในแฟนเพจกับชื่อ “เจาะข่าวเด่นออนไลน์” ลีลาการสัมภาษณ์ จัดรายการยังเข้มข้นถึงใจเช่นเดิม

และไม่เพียงแค่ผู้คนบนโลกออนไลน์ที่ตื่นเต้นกับการกลับมาของสรยุทธจนทำให้ยอดกดไลค์พุ่งสูงถึง 300,000 ในเวลาไม่กี่วัน ผู้คนในพื้นที่ประสบภัยก็ฮือฮาไม่แพ้กัน

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้คนในพื้นที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ที่พิธีกรดังได้เดินทางมาเยือนและแพร่ภาพสดเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีหลายฝ่ายต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเดินทางมาในครั้งนี้ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถึงอย่างนั้นผู้คนส่วนใหญ่เห็นว่าการกลับมาในพื้นที่อีกครั้ง หลังสรยุทธเคยมาครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 ถือเป็นความต้องการของชาวบ้าน เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร หรือมีเบื้องหลังอย่างไร แต่การช่วยแพร่ภาพความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ที่ไร้การเหลียวแลจากภาครัฐก็ถือเป็นน้ำใจที่หยิบยื่นให้ และช่วยลบล้างความเจ็บปวดที่ได้เจอในช่วงเวลาเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี

แถมมีรายงานด้วยว่า ชาวบ้าน อ.ปากพนัง และ อ.นบพิตำ ไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากภาพน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ถูกเผยแพร่กระจายออกไป พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ เพียงแต่อยากให้ผู้คนทั่วประเทศได้รับรู้สถานการณ์ตามความเป็นจริง

แหล่งข่าวรายหนึ่งยังระบุด้วยว่า การเดินทางมาของสรยุทธ มาในเวลาไล่เลี่ยกันกับผู้บริหารช่อง 3 ที่เดินทางมาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากมีเงินจากกองทุนช่วยเหลืออยู่กว่า 40 ล้านบาทที่จะนำออกมาอีกครั้งเพื่อบรรเทาสถานการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งจะจริงเท็จแค่ไหนคงต้องรอดูกันต่อไป

ทว่า หากพูดเฉพาะประเด็นการกลับมาของสรยุทธในครั้งนี้ โดยวัดจากตัวเลขยอดไลค์ ยอดวิว รวมไปถึงความช่วยเหลือที่หลั่งไหลผ่านแฟนเพจคงต้องยอมรับว่าเป็น “การคืนจอ” ของเจ้าพ่อเล่าข่าวที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image