เปิดคลังพิพิธภัณฑ์ รอดูซีรีส์ ดอยบอย เป็นแขกของ เบน ชลาทิศ ได้ในคอนเสิร์ต ALL FOR LOVE

 

เปิดคลังพิพิธภัณฑ์ รอดูซีรีส์ ดอยบอย เป็นแขกของ เบน ชลาทิศ ได้ในคอนเสิร์ต ALL FOR LOVE

*เปิดคลังพิพิธภัณฑ์

กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร จัดนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย ประจำปี 2566 เรื่อง Unseen เปิดคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร นำโบราณวัตถุในห้องคลังที่ยังไม่เคยจัดแสดง มาให้ประชาชนได้ชมเป็นครั้งแรก อาทิ ลูกปัดและเครื่องประดับ (ลูกปัดรูปหงส์ ลูกปัดรูปแพะภูเขา ลูกปัดแก้วอำพันทอง) จากแหล่งโบราณคดีเขาเสก อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร, กลองมโหระทึก จากแหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ภาชนะดินเผาสามขา จากแหล่งโบราณคดีเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร นิทรรศการจะมีถึงวันที่ 30 ธันวาคม ณ ห้องจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ ชั้น 2 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร โดยเปิดให้ชมทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

Advertisement

*ดอยบอย (DOI BOY)

ความฝันเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็มี แต่ทำไมบางคนกลับ ‘ไม่มี’ และ ‘ไม่กล้า’ แม้แต่จะฝัน นี่คือ ‘ดอยบอย’ (DOI BOY) ผลงานภาพยนตร์ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Netflix และ เนรมิตรหนังฟิล์ม ที่กำกับและเขียนบทโดย นนทวัฒน์ นำเบญจพล ผู้กำกับที่เคยโชว์ฝีมือในภาพยนตร์สารคดีอย่าง ‘ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง’ (Boundary), ‘สายน้ำติดเชื้อ’ (By the River) และ ‘ดินไร้แดน’ (Soil Without Land) เรื่องของชีวิตที่ถูกบังคับให้เลือกอย่างไม่มีทางเลือก ของ “ศร” (รับบทโดย อัด-อวัช รัตนปิณฑะ) เด็กหนุ่มวัย 21 ปีที่ลี้ภัยอย่างผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทย เขาทำงานค้าประเวณีในบาร์เกย์ ก่อนจะตกกระไดพลอยโจนไปอยู่ระหว่างปัญหาทางการเมืองไทย

Advertisement

นนทวัฒน์เล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ตอนทำงานในโปรเจกต์ที่เจาะลึกถึงชีวิตของทหารชาวไทใหญ่ อย่าง ‘ดินไร้แดน’ เราพบว่าคนไทใหญ่หลายคนไม่มีความฝัน และไม่รู้ว่าคนเราสามารถวาดฝันได้ด้วย สิ่งหนึ่งที่พวกเขาพอจะฝันได้คือการย้ายมาอยู่เชียงใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเป็นความฝันเดียวที่พอเป็นไปได้ แต่ก็มีอุปสรรคใหญ่คือการไม่มีเอกสารรับรอง ทำให้หลายๆ คนจบความฝันของตัวเองด้วยการทำงานในบาร์เกย์ เพื่อรับค่าจ้างที่สมน้ำสมเนื้อ”

นอกจากนี้เขายังเปรียบเทียบวิธีการทำงานระหว่างภาพยนตร์สารคดีกับภาพยนตร์ขนาดยาวให้ฟังว่า “เวลากำกับภาพยนตร์สารคดี ผมจะใช้วิธีกำหนดประเด็นและให้เจ้าของเรื่องเป็นผู้นำในการเล่า ยังไม่เคยมีประสบการณ์กำกับนักแสดงมาก่อน ผมจึงลองให้นักแสดงพัฒนาบทเองโดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ ของเรื่อง ซึ่งพวกเขาก็ทำให้ตัวละครมีมิติเพิ่มขึ้นมากครับ”

การรับบทเป็นผู้ลี้ภัยชาวไทใหญ่ที่ใช้ชีวิตอย่างไร้ตัวตนในสังคม ทำให้ อัด-อวัช รัตนปิณฑะ ที่เกือบจะละทิ้งการเป็นนักแสดง ค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ จนทุ่มเทศึกษาชีวิตของชาวไทใหญ่และธุรกิจการค้าประเวณี เขาได้พูดคุยกับผู้ที่ทำงานในบาร์เกย์ตัวจริง รวมถึงได้ฝึกพูดภาษาไทใหญ่ให้คล่อง เพื่อพาชีวิตในมุมมืดของศรออกมาให้ผู้ชมเห็นชัดมากที่สุด โดยอัดบอกว่า “ศรสามารถพูดได้ทั้งภาษาไทใหญ่และภาษาไทย เพราะอยู่เชียงใหม่มานาน แต่เวลาที่พูดไทยจะยังติดสำเนียงไทใหญ่อยู่ ผมฝึกพูดภาษาไทใหญ่โดยใช้วิธีอัดเสียงที่คุณครูสอนพูดไดอะล็อกต่างๆ แล้วพยายามจำแต่ละคำและดูวิธีการออกเสียง สำหรับการพูดภาษาไทยสำเนียงไทใหญ่ ผมจะฝึกผ่านการดูวิดีโอของยูทูปเบอร์ชาวไทใหญ่ที่มาอยู่ประเทศไทย แล้วเลียนแบบท่าทางและวิธีการพูด ผมฝึกด้วยตัวเองวันละหลายชั่วโมง ตื่นเช้ามาผมก็จะฝึกพูด จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ทำให้หลังถ่ายทำจบ ผมต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน กว่าจะกลับมาพูดภาษาไทยได้ชัดเจนเหมือนเดิม ทั้งหมดเป็นเพราะผมอยากเป็นตัวแทนของเหล่าผู้ลี้ภัยและทำให้คนได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขา”
เตรียมชมได้ตั้งแต่ 24 พฤศจิกายนนี้ ที่ Netflix

*แขกของเบน ชลาทิศ

The Concert Application presents Ben Chalatit ALL FOR LOVE Immersive Concert ของ เบน ชลาทิศ จะมีในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้แล้ว ที่ Lido Hall 2คราวนี้นอกจากแฟนๆจะได้ฟังเพลงใหม่ทั้ง 12 เพลงจากอัลบั้ม All For Love รวมถึงเพลงฮิตที่หลายคนคิดถึงแล้ว เบนยังจัดเต็มชวนแขกพิเศษมาร่วมสร้างสีสันความสนุกด้วยกันบนเวที ไม่ว่าจะเป็นแร็ปเปอร์หนุ่มมาดกวน GUYGEEGEE, TSUNARI ที่บินตรงจาก London มาดวลแดนซ์ & แร็ปกันให้สนั่นฮอลล์ และยังมี มาเรียม & เค้ก B5 ที่ Lido Hall 2 ไปจองบัตรกันด่วน ๆ ที่ https://www.theconcert.com/concerts/ben-allforlove

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image