นับเป็นดาราที่น้ำใจงามคนหนึ่งของวงการเลยทีเดียว สำหรับ แตงโม – นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่ล่าสุดได้ควงคุณพ่อลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ที่จ. สงขลา โดยเธอว่าที่ตัดสินใจลงไปเอง เพราะไม่รู้ว่าหากบริจาคเงินไปจะไปถึงมือผู้เดือดร้อนมากน้อยเพียงใด ดังนั้นจึงอยากนำความช่วยเหลือไปให้ด้วยมือตัวเอง และจะได้ให้กำลังใจด้วย
“สารภาพว่าๆ จริงๆ แล้วโมเองก็ไม่อยากให้คนคิดแบบนี้นะ แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วโมคิดว่าเงินมันเป็นจำนวนเยอะมากๆ ที่แค่ละหน่วยงานรับบริจาค เป็นเงินจำนวนหลาย 100 ล้านมากๆ แต่เราไม่รู้ว่ามันถึงจริงหรือเปล่า ถึงมากหรือว่าถึงน้อย เราไม่สบายใจเลยค่ะว่าถ้าเกิดเราบริจาคแต่จำนวนเงินไป แล้วชาวบ้านจะได้ไหม คือทราบแหละค่ะว่าได้ แต่ว่าเราไม่รู้หรอกว่าได้มากหรือได้น้อย ได้อย่างที่เราอยากจะให้หรือเปล่า เพราะฉะนั้นก็ตัดสินใจว่าเราลงไปเองดีกว่า เพราะว่าเราก็อยากจะให้เขาไม่ใช่แค่สิ่งของหรือเงินทอง เราอยากจะให้รอยยิ้มเขา อยากให้กำลังใจเขาด้วยปากของเราเอง ด้วยความเป็นเราเอง ที่เขาเห็นแล้วเขาอาจจะชื่นใจหรือว่ามีกำลังใจ เพราะว่าถ้าเราโอนเงิน เขาไม่มีทางได้เจอตัวเราและรู้สึกว่าชีวิตมันมีความสุขขึ้นมาสักนิดหนึ่ง ไม่มีการพูดคุย ตรงนี้มันเป็นสิ่งที่โอนกันไม่ได้” เธอบอก
พร้อมกับว่า หลังจากลงไปเห็นเหตุการณ์เองไม่ได้รู้สึกหดหู่ แม้จะสะเทือนใจก็ตาม เพราะตั้งใจว่าอยากไปแล้วมีความสุขเพื่อชาวบ้านจะได้มีกำลังใจที่ดี โดยแต่ละคนที่ได้รับของแจกก็น่ารัก ให้กำลังใจกลับมา อวยพรและขอบคุณที่เห็นความสำคัญของพวกเขา ส่วนจะลงไปช่วยอีกไหมคงต้องดูคุณพ่อก่อนว่าไหวหรือไม่ ถ้าไหวแล้วสถานการณ์น้ำยังไม่ดีขึ้นก็ลงไปแน่นอน แต่อาจหาที่ใหม่ที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง
สำหรับเรื่องที่แบ็ค – อาทิตย์ ดาวสว่าง นักฟุตบอลทีมบีอีซี เทโร แท็กรูปในอินสตาแกรมมาหาบ่อยจนทำให้ไม่พอใจนั้น แตงโมกล่าวว่า ไม่เชิงไม่พอใจ ไม่ได้โกรธหรืออะไร แต่แปลกใจว่าแท็กมาทำไม โดยรูปที่ถ่ายคู่กันนั่นคือ บังเอิญไปเจอกันที่เชียงใหม่ แล้วฝ่ายชายมาขอถ่ายรูปด้วย แต่ถามว่าสนิทส่วนตัวไหม คือไม่สนิทเลย และไม่รู้จักกันมาก่อนหน้านี้
“หลังจากที่เขาแท็กรูปมาหาก็ถามเขาว่าแท็กมาทำไมเพราะบางรูปไม่มีโม โอเคถ้ารูปที่มีโมอยู่อันนั้นก็พอเข้าใจได้ เขาก็บอกว่าไม่รู้เพราะเขาไม่ได้เป็นคนแท็ก ไม่รู้ว่ามันเด้งขึ้นมาได้ยังไง” แตงโมกล่าว
และว่า ตอนแรกไม่รู้เกี่ยวกับข่าวของอีกฝ่าย กระทั่งเพื่อนมาบอก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตนอยู่ดี ส่วนปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่คิดว่าจัดการได้ ส่วนอีกฝ่ายนั้นจีบหรือไม่ เชื่อว่าเป็นการหยอดมากกว่า เพราะตนบอกเสมอว่าตอนนี้ไม่พร้อมมีใคร ขณะที่เรื่องอีกฝ่ายสร้างกระแสนั้นคงต้องแล้วแต่วิจารณญาณ
“อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณเพราะตัวโมไม่มีทางรู้ความจริงเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ อย่างที่บอกว่าก็ถามเขาไปว่าแท็กทำไม เขาก็บอกว่าไม่ได้แท็ก แล้วก็เอาแท็กออกให้แล้ว คือไม่ได้แท็กนะคะแต่เอาแท็กออกให้ด้วย (ยิ้ม) ทีนี้โมก็ไม่สามารถรู้เลยว่าความจริงที่เขาคิดอยู่คืออะไร” แตงโมกล่าว
ต่อข้อซักถามที่ว่าได้บล็อกอีกฝ่ายหรือไม่นั้น เธอบอก “ไม่ได้บล็อกค่ะ บอกแล้วว่าโมไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดเขา ถือว่าได้รู้จักคนเพิ่มคนหนึ่งเพียงแต่ว่าตัวเราก็ไม่ได้มีช่องทางที่จะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้แท็กมาแล้วค่ะ เขาไม่ได้แท็กมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วไง เขาบอกอยู่ (หัวเราะ) สงสัยแมวแท็กมั้งคะ รวมถึงคอมเม้นต์ก็ไม่ได้เข้ามาคอมเม้นต์อะไรค่ะ อาจจะมีแค่ส่งไดอเร็กแมสเสจมาถามว่าทำอะไรอยู่ ถามว่าได้ตอบกลับไปไหม ถ้าสะดวกก็ตอบแต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ได้ตอบค่ะ”
