แม่ลี ตอบปมดราม่า บอกมีปริญญา 4 ใบและไม่พูดโกหก เมินกระแสตีกลับ
จากกรณีที่ แม่ลี ศริญญา แม่ของ แก้มบุ๋ม ปรียาดา ได้ออกมาพูดถึงเรื่องที่ถูกนักแสดงสั่งให้เปลี่ยนตัว จนลูกสาวไม่ได้เล่นละคร และ ทำให้ต้องเข้าพบจิตแพทย์ไปนั้น แต่ก็เจอกระแสดราม่าตีกลับ ล่าสุดได้เจอแม่ลี ก็ได้สอบถามถึงประเด็นดราม่าดังกล่าว แม่ลีก็ได้ตอบว่า
กระแสดราม่าที่เกิดขึ้นหลังจากที่แม่ให้สัมภาษณ์ไป?
“ก็ (ยิ้ม และไอ) เสียงไม่ค่อยมี เพราะต้องเอาไว้รับจ้างไลฟ์สด ตอนนี้ไลฟ์สดจากแสนสอง เหลือแสนนึง ก็ต้องเก็บเสียงไว้ เพราะว่าอาชีพที่ทำก็คือ พูดอะไรก็ได้ ที่ออกมาจากสมองเราและเป็นความจริง อย่างเช่น มนุษย์ก็เหมือนต้นไม้ไม่ใส่ปุ๋ย พรวนดิน จะเจริญเติบโตได้อย่างไร มันสมกับการที่เราเรียนจบมา ปริญญา 4 ใบนะคะ แล้วพูดในสิ่งที่ดีและเป็นความจริง ความจริงเท่านั้นที่จะอยู่และครองในโลกใบนี้นะคะ นี่สำหรับแม่ลีก็คือ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่เรามีชีวิตที่จะเดินทาง อายุ 58 ปี เราจะไม่พูดโกหกค่ะ“
พอเป็นกระแสดราม่าที่ผ่านมา และก็ตีกลับไปหาน้อง เป็นห่วงน้อง หรือได้คุยกับน้องบ้างมั้ย?
“เราทำงานค่ะ เราเอาเวลาที่มีทั้งหมดในชีวิตเราทำงาน เพราะว่าการทำงานเรานอนแล้วก็เสียเงิน เราจะต้องหาเงินเปิดแอร์ ตื่นมากลางดึกเข้าห้องน้ำ เอาเวลามาทำมาหากิน เอาเวลามาทำสวย อันไหนหย่อนยานก็ดึงขึ้นนะ ผมอันไหนหงอกก็ย้อม มือไม่สวยก็ฉีด ก็แค่นั้นเอง นี่คือจบแล้วค่ะ“
แม่ลีมั่นใจว่าแก้มบุ๋มเอาอยู่กับสถานการณ์นี้?
“สอนลูกมาให้เป็นต้นพะยูงนะคะ ไม่ได้สอนลูกให้เป็นมะยมแล้วล้มหักเองนะคะ ต้นพะยูงยิ่งแก่ยิ่งขลัง ส่วนแม่ลีอายุขนาดนี้แล้ว เราเป็นผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย แต่อาศัยว่าร่างกายไม่ได้ไปตามอายุ ก็เลยยังครองสภาพได้ แม่ลีถ้าคนรู้จักจริง 1 ไม่โกงใคร 2 ถ้าไปกินข้าวจะคนรวยกว่าเราหรืออะไรก็แล้วแต่ ควักตังค์เลี้ยงก่อน แฮปปี้ไม่เคยโกงใคร ไม่เคยทำอะไรใคร ขอความช่วยเหลือจากใครก็ต้องมีผลตอบแทน โอเค ไม่พูดโกหกเพราะว่าผิดศีล 5 ระยะเวลา 30 กว่าปียังไม่ได้เปลี่ยนสามีเลยนะคะ แฮปปี้“
ยืนยันว่าทุกอย่างที่เราพูดคือความจริง?
“ไม่รู้ว่ายืนยันอะไร แต่เราพูดทุกอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะการทำงาน ไม่ว่าจะการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะความลำบาก ทุกอย่างคือความจริง เราไม่กล่าวถึงใคร เพราะว่าจริงๆ แล้วเราเอาตัวเองให้มีความสุข เอาหน้าตานะคะ ดูผิวพรรณ ดูรอยยิ้ม ทุกอย่างเอามาเก็บรายละเอียด เขียนคิ้วให้ตรงกันมีความสุขกว่าค่ะ“
หลังจากนี้จะไม่มีการกล่าวถึงใคร ปล่อยให้มันผ่านไปมั้ย?
“จริงๆ แล้ว มาโฟกัสที่การทำงาน มาโฟกัสที่ชีวิตใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น มีแค่ 2 วัน เมื่อวานกับวันนี้ วันพรุ่งนี้ไม่รู้เรามีชีวิตรึเปล่า ณ วันนี้เอาความสุขมา ดูหน้าตาไม่ต้องเสแสร้ง ปริญญาจบตั้งนานแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ใช้นะคะ แต่เอาความรู้ที่อยู่ในสมองออกมา ออกมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยการเอาสมองมาพูดในเรื่องของการไลฟ์ แต่ถ้าเอาสมองในการเรียนมาใช้ในชีวิตประจำวัน ก็กินเงินเดือน ไม่มีแม่ลีค่ะ“
