จันจิ เปิดเหตุร้องไห้กลางไลฟ์ ทั้งรู้สึกผิดและขอบคุณ ยินดีรับผิดชอบผู้ได้รับผลกระทบ
หลังจากที่มีประเด็นดราม่าในคอนเสิร์ตของนักร้องดังระดับโลก บรูโน่ มาร์ส กับปมการเปิดแฟลชเพื่อถ่ายคลิป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี ดาราสาว จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย รวมอยู่ด้วย โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้ทวีตข้อความขอโทษพร้อมรับผิดในเรื่องดังกล่าว รวมถึงได้ไลฟ์ขอโทษทั้งน้ำตามาแล้ว ล่าสุดในงานแถลงข่าว โครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก โดยซอฟเฟล ที่ Patta Cup Cafe เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า
ดราม่าที่เกิดขึ้น?
“ค่อนข้างเป็นอะไรที่จันจิต้องยอมรับว่าการกระทำอันนี้ เรียกว่าอาจจะไม่มีมารยาทในตอนนั้น แต่ว่ามีคนตักเตือน เหตุเกิดจากต้นคลิปที่เขาเหมือนเปิดแฟลชแล้วสะกิด อันนั้นไม่ใช่จันจินะคะ คือ ถ้าสมมุติรอบข้างมีคนมาสะกิดเตือน จันจิคิดว่าจะหยุดทันทีแน่นอน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอนค่ะ แต่การกระทำของจันจิมันก็ไม่ถูกต้องจริงๆ ก็ถือว่าเป็นบทเรียน แล้วก็ให้กับทุกคนที่อาจจะเป็นแบบจันจิ เวลาไปคอนเสิร์ตชอบเปิดแฟลชทำคอนเทนต์ก็ระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ”
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าห้ามเปิดแฟลช?
“จริงๆ การเปิดแฟลชจันจิก็ไปในทุกคอนเสิร์ตก็จะมีการเปิดแฟลช แต่บางทีเราไม่คิดว่าจะไปกวนเขา ด้วยสแตนที่จันจินั่งมันก็เหมือนข้างบนหัวจันจิอยู่ที่หัวเข่าของคนด้านบน เลยคิดว่าไม่โดนหรอกมั้ง ไม่ได้คิดว่ามันจะส่องกระจายไปขนาดนั้น”
บรรยากาศ ณ ตอนนั้น หลังจากที่เราถ่าย คนรอบข้างมีสะกิดเตือนหรือว่าอะไรไหม?
“จริงๆ ไม่มีใครเตือนเลยค่ะ หันไปพี่ๆ ก็ยิ้มแย้มให้จันจิ ก็เลยไม่คิดว่าจะรบกวน แต่ว่ามันรบกวน”
เราเลือกที่จะออกมาพูดก่อน ทั้งที่คลิปที่ดราม่าไม่ใช่เรา?
“จริงๆ ถ้าพูดตรงๆ นะคะ ถ้าไม่มีใครเตือนจันจิก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องขนาดนั้น พอมีคนคอมเมนต์จันจิก็รีบลบเลยว่าติดหน้าคนอื่นด้วยนะ ส่องคนอื่นด้วย มันเรื่องใหญ่มากๆ แล้วมีคนเอาคลิปจันจิไปแชร์ ก็เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ก็เลยออกมาขอโทษทุกคนใน X (ทวิตเตอร์)”
รู้สึกยังไง หลายๆ คอมเมนต์โยงมาที่เรากับคลิปนั้นที่ไม่ใช่เรา?
“จริงๆ ต่อให้ไม่ใช่จันจิ ก็รู้สึกว่าสิ่งที่จันจิทำมันไม่ถูกต้อง ถือว่าไม่เป็นไรค่ะ หมายถึงว่าสุดท้ายแล้วจันจิก็เปิดแฟลชเหมือนเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่เปิดเลย แต่แค่ว่าถ้ามีคนมาเตือนเหมือนคนนั้น จันจิมั่นใจว่าจะปิดแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วจันจิก็รบกวนคนด้านหลังจริงๆ ขอโทษจริงๆ ค่ะ ถ้าใครอยู่ด้านหลังจันจิแล้วถ่ายแฟลชไปรบกวนสามารถทักมาได้สามารถพูดคุยกันได้ จันจิยินดีรับผิดชอบในส่วนของคนที่อยู่ด้านหลังของจันจิ”
หลังจากที่มีดราม่าไปมีคอมเม้นต์อะไรเข้ามาบ้างที่แรงๆ?
“โห..จันจิว่าเขาตักเตือนค่ะ ส่วนใหญ่ตักเตือนแล้วเรามีการขอโทษ แล้วทุกคนเข้าใจ แล้วก็เหมือนจันจิว่าทุกคนให้อภัยจันจิเยอะมาก จันจิต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจที่จันจิต้องพูดว่าไม่ฉลาดแล้วก็ไม่ได้ไตร่ตรองว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ ก็มีคนเข้าใจเยอะมาก ส่วนที่คนไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร มันก็เป็นความคิดส่วนบุคคลก็ให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น จะได้ชูขึ้นว่าเรื่องการเปิดแฟลชในคอนเสิร์ตมันรบกวนคนอื่นเขา“
มีใครเข้ามาด่าแรงๆ ไหม?
“แรงๆ จันจิว่า เอาจริงจันจิไม่ค่อยรู้สึกว่ามันต้องใจเจ็บขนาดนั้นอ่ะ แต่บางคนก็เรียกจันจิว่าอีนั่นอีนี่ จันจิรู้สึกว่ามันเกินเรื่องเหมือนกัน การที่คนมาว่าๆ ไม่มีมารยาทหรืออะไรจันจิก็ยอมรับในส่วนนั้นได้“
แปลว่าเราก็ยอมรับความเห็นเขาที่เข้ามาตักเตือน?
“ใช่ จันจิรู้สึกว่ามีคนตักเตือนแล้วก็มีคนให้กำลังใจในคลิปที่จันจิร้องไห้ จันจิรู้สึกว่า อยู่ดีๆ มีคนให้กำลังใจจิเยอะมากทั้งๆ ที่จันจิทำผิดขนาดนี้ เลยรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆ ว่าทำไมเราต้องได้ร้บโอกาสการให้อภัยเยอะขนาดนี้ ก็ถือว่าขอบคุณทุกคนที่แบบเป็นกำลังใจให้ แล้วก็ขอโทษอีกครั้งนะคะ จันจิก็ถือว่าเป็นบุคคลตัวอย่างเป็นอินฟลูเอนเซอร์คนนึงที่ปฎิบัติตัวไม่ถูกต้องในการไปดูคอนเสิร์ต“
หลังจากนี้ คอนเสิร์ตต่อไป?
“คอนเสิร์ตต่อไปไม่เปิดแล้วค่ะ หน้าม่วงหน้าเขียว ดำๆ ก็จะลงค่ะ จริงๆ มีเยอะเหมือนกันค่ะ“
เมื่อวานที่เราไลฟ์มีน้ำตามาจากไหน เพราะมันกระทบจิตใจเรา?
“จริงๆ ก็อย่างที่บอกว่ามีคนให้กำลังใจเยอะมาก มีคนดูประมาณ 7 พัน แล้วแบบ ไม่เป็นไรๆๆ อย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องไม่เป็นไรสำหรับเรา มันเลยรู้สึกเสียใจยิ่งกว่าเดิมว่ามีคนเข้าใจเรา เราเลยรู้สึกเสียใจว่าบางคนรู้สึกผิดหวังในตัวเราหรือเปล่า เราก็ไม่อยากให้ทุกคนผิดหวังในตัวเรา เพราะเราก็เจออะไรมาเยอะ พอเราทำอะไรผิดเราก็เลยรู้สึก ทั้งรู้สึกผิด ทั้งขอบคุณ รู้สึกเยอะมากตอนนั้นเลยร้องไห้ออกมาค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะบีบน้ำตาเหมือนที่ทุกคนว่านะคะ มันไม่จำเป็นเลย มันน่าเกลียดด้วย“
ดีใจที่คนให้กำลังใจและซัปพอร์ต ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่ผิด?
“จันจิไม่ได้ดีใจ แต่จันจิรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมมากกว่า ยิ่งมีคนให้กำลังใจ จันจิยิ่งรู้สึกว่า…เห้ย เราทำผิด ทำไมถึงได้รับการอภัย ณ ตอนนั้นนะคะ จิเลยรู้สึกว่าเออ เราจะไม่ทำเหตุการณ์แบบนี้อีก จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ”
ที่ตัดสินใจออกมารับผิดชอบตรงนี้ คือเราโอเคยอมรับผิด?
“โอเคค่ะ ยอมรับ แล้วก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้ตัวเองและผู้อื่นด้วย ใครที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ หรือดารา จะได้ป้องกันไว้ก่อน จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะว่าเราก็เป็นบุคคลตัวอย่างให้กับสังคม เอาจันจิเป็นตัวอย่างแล้วกันนะคะส่วนใครที่อยู่ต้นคลิป จันจิช่างเขาเถอะ ไม่เป็นไร ก็น้อมรับไว้ค่ะ”
ต่อไปก็จะเป็นการสร้างบรรทัดฐาน ว่าการดูคอนเสิร์ตควรมีมารยาท?
“ใช่ค่ะ มีมารยาทในเรื่องของการถ่ายคลิป ไม่ใช่ว่าถ่ายคลิปหน้าเราดำ แต่ติดคนอื่นก็ต้องระวังนิดหนึ่ง มีการเบลอให้เขานิดหนึ่งด้วย ก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับสังคม (ยิ้ม)”
ออกมาแล้วสบายใจขึ้นไหม?
“จันจิก็สบายใจค่ะ ที่รีบออกมาแก้ไข บางคนก็บอกว่าถ้าไม่มีใครเตือนจะไม่รู้ตัวหรอก จันจิพูดตรงๆ นะคะ ก็นั่งกับคนข้างๆ ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ ว่ามันจะรบกวนคนขนาดนี้ คือถ้าจันจิรู้ จันจิคงไม่ทำ บางทีเราก็ไม่ได้ฉลาดในทุกเรื่อง เราก็ต้องเรียนรู้กันไปค่ะ ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจค่ะ (ยิ้ม)”