‘อาไท’ สภาพจิตใจดีขึ้น รับแมนๆ ของ ‘น้ำเพชร’ ยังอยู่ที่เดิม เผย ‘นาย ณภัทร’ กุมมือผลัดกันให้กำลังใจ
ยังคงต้องใช้เวลามูฟออนในเรื่องความรักอีกสักพัก สำหรับ อาไท กลมกิ๊ก หรือ อาไท สุภทัต ที่หลักจากเลิกรากับ น้ำเพชร อิสรีย์ ไป อาไทก็หาวิธีเยียวยาจิตใจตัวเอง ไม่ว่าจะทำงาน หรือชวนเพื่อนมาทำกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งพระเอกหนุ่ม นาย ณภัทร ผู้ถือเป็นพี่ชายที่สนิทอีกคน ก็คอยปลอบใจและให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ซึ่งเมื่อถึงคราวที่นายทุกข์ใจเรื่องความรักบ้าง อาไทก็คอยอยู่เคียงข้างหนุ่มนายเช่นเดียวกัน
ล่าสุดอาไทมาร่วมงานแถลงข่าวภาพยนตร์มานะแมน ก็ได้เปิดใจกับเรื่องราวดังกล่าว พร้อมพูดถึงสภาพจิตใจของตัวเองในตอนนี้ว่า
เป็นไงบ้างร่วมงานกับ นาย ณภัทร?
“ดีมากครับ เขาเป็นคนน่ารักสำหรับผมนะ เขาเป็นคนสุภาพแล้วจริงใจ ไม่ว่าเราจะมีเรื่องอะไรเขาจะให้คำแนะนำเราได้ (ให้คำปรึกษาซึ่งกันและกันงี้หรอ?) เรื่องรถ เรื่องบ้าน เราทำบ้านเวลาไล่ๆ กัน แล้วเราชอบรถเหมือนกัน“
เรื่องหัวใจมีการปรับทุกข์กันไหม ?
“ไม่เชิงปรับทุกข์ครับ แต่วันที่เรามีทุกข์ด้วยความที่เขาเป็นพี่ชาย เขาไม่มีทางปล่อยให้น้องทุกข์อยู่แล้ว เขาก็เข้ามาปลอบเรา”
วิธีการปลอบของนาย ณภัทร เป็นยังไงบ้าง?
“เขาก็จะจับมือเรา ด้วยความน่ารักของเขานะ แล้วก็น้องครับสู้ๆ นะ (ร้องไห้ไหม?) ผมไม่ร้องแต่เหมือนพี่นายจะร้อง (ยิ้ม) ไม่ใช่ๆ แต่เขาจับมือผมจริงๆ เขาบอกว่า น้องครับสู้ๆ นะ ยังไงก็ตามเดี๋ยวมันจะผ่านไป มันก็จะดีขึ้นนะครับ เขาน่ารักมาก (แล้วเราปลอบพี่นายยังไง?) เขาเอามือไว้ด้านหลัง ผมจะกุมอยู่แล้ว แต่เขาเอามือหลบ ก็เลยไม่ทัน (ยิ้ม) ไม่ๆ หรอกเราก็ให้กำลังใจในฐานะน้องครับผม”
เหมือนเราเป็นเพื่อนกัน คุยกันทุกเรื่อง คล้ายในเรื่องเลยไหม?
“คล้ายๆ (เหมือนชีวิตจริงช่วงนี้เหมือนกับในหนัง?) ก็ประมาณหนึ่ง ใช้คำว่าในช่วงเขาทุกข์ใจ เราก็ไม่เคยหนีหาย มีอะไรก็โทรมา”
เรามีไลน์ไปให้กำลังใจเขาไหม?
“เราก็บอกคำเดียวว่า สู้ๆ เพราะผมก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่ (ยิ้ม)”
ทำให้เราสนิทกับเขามากขึ้นเลยไหมเหมือนหัวอกเดียวกัน?
“ใช่ครับผม (ยิ้ม) (แล้วเขาว่าไง?) ขอบคุณครับ ”
เหมือนมองตาแล้วรู้ใจไหมช่วงนี้?
”ใช่ๆ ครับ เมื่อกี้ก็ไปนั่งมองตากันอยู่ในห้อง“
ตอนนี้สภาพจิตใจเราเป็นยังไง
“ดีแล้วครับ (แอบร้องไห้อยู่ไหม?) ถ้าแอบพี่ก็ไม่รู้หรอก (ยิ้ม)”
เป็นไงบ้างประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา?
“ดีครับ บางเรื่องอาจจะดูไม่ดี แต่ข้อดีคือเราก็ได้ประสบการณ์ชีวิตในครั้งนี้ (เยียวยาตัวเองยังไง?) สำหรับผม การทำงานการอยู่กับเพื่อน การอยู่กับครอบครัวช่วยได้เยอะ (ยื้อให้เรากลับมา?) ใช่ครับ และพยายามคิดอยู่ตลอดว่าต้องมีความสุขกับตัวเองให้ได้แล้วจริงๆ”
แสดงว่าตอนนี้มูฟออนได้แล้ว?
“ก็ยังไม่สนิทใจ 100% เท่าไหร่ (100% ให้เท่าไหร่?) สัก 80% แล้วกัน 80% คือมูฟออนแล้ว”
ก่อนหน้านี้เราบอกอยู่คนเดียวไม่ได้ ณ วันนี้เราต้องอยู่คนเดียว?
“ถ้าพูดก็เหมือนจะดูเรียกร้องอะไรไหม โอเคผมจะพูดแบบลูกผู้ชายตรงไปตรงมา ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม (สิ่งของของเขา?) ยังอยู่เหมือนเดิม ตัวเขาแค่ไม่อยู่ แต่เขาอยู่ในความทรงจำเรา อยู่ในความคิดถึงของเราตลอด พยายามจะมูฟให้ได้ครับ จริงๆ เราไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องอดีต เพราะเราก็ให้เกียรติเขาด้วยแหละ เราไม่รู้ว่าเขาจะยังไงแล้ว เราไม่รู้ละ เพราะนั่นคือชีวิตของเขาแล้ว”
สภาพจิตใจมันแค่ไหนเพราะต้องอยู่คนเดียวไม่มีเขา แล้วเรายังเก็บทุกอย่างของเขา ทำไมเราถึงเลือกอยู่กับบรรยากาศแบบนี้?
“รักแหละ คำเดียว แต่เรารู้ว่าเรารักเขาแบบไหนแล้วนะ เราก็รักในแบบของคนที่คอยหวังดีกับเขาแล้วกัน (ยังมีคุยกันอยู่ไหม?) ไม่ได้คุยแล้วครับ (ไม่ได้ดูไอจี ไม่ดูอะไรเลย?) ไม่กล้าส่องครับ”
โตขึ้นแค่ไหนจากความรักครั้งนี้?
“ก็โตขึ้นเยอะอยู่ครับ”
เยียวยาตัวเองยังไง?
“ทำงานครับ ทำงานอยู่กับเพื่อนให้ได้นานที่สุดก่อนเข้าบ้าน ผมอยู่แค่กิจกรรมที่ตัวเองทำ แทงสนุ๊กกับตีกอล์ฟ ถ้าสมมุติเลิกงานแล้วผมจะเข้าไปแทงสนุ๊กกับเพื่อน จนง่วงผมถึงกลับบ้าน”
แล้วเข้าบ้านเห็นของเขาวางอยู่?
“ผมว่าหลายคนก็เป็นไม่ใช่แค่ผมหรอกต่อให้ง่วงแค่ไหน กลับไปถ้ามันมีอะไรในหัวก็นอนไม่ค่อยหลับหรอก มันก็จะมีคิดอะไรของมันไปเรื่อย (เรามีนอนที่โต๊ะสนุ๊กปะ?) พยายามแล้วแต่เขาไม่ให้นอน ขอนอนทางใต้ด้วยเขาบอกว่าไม่ได้เหมือนกัน”
ตอนนี้เราสร้างตัวและสร้างความมั่นคงให้ตัวเองยังไง?
“ตอนนี้พยายามสร้างความมั่นคงให้ที่บ้านและสร้างอนาคตให้ตัวเอง (ยังไงบ้าง?) ทำงานเก็บตังค์ให้ได้เยอะที่สุด”
กล้าจีบใครไหมตอนนี้?
“ยังกลัวอยู่ (ต้องเว้นก่อนสักพักหนึ่ง?) ใช่ มันกลายเป็นกลัวจริงๆ นะ ผมไม่รู้ใครเป็นบ้าง พอมันเจ็บ แล้วมันกลัวจริงๆนะ
มีเพื่อนแนะนำไหมว่าต้องคุยกับคนนี้สิ?
ไม่มีครับผมว่า ผมก็ไม่มีเพื่อนด้วย เพื่อนน้อยก็เลยไม่มีใครแนะนำ
เรามีคิดจะต่อยอดยังไงใรการสร้างความมั่นคงให้ครอบครัว?
“ผมอยากทำธุรกิจเร็วๆ นี้ แต่เกี่ยวกับของกินนี่แหละ แต่ยังไม่บอกว่าคืออะไร แต่เร็วๆ นี้แหละเกี่ยวกับของกิน”
เปิดเมื่อไหร่?
”อาจจะแบบสิ้นปี“
เราก็วางแผนเรียบร้อยแล้ว?
”ครับ“