‘อเล็กซ์’ เล่าโมเมนต์ขอแฟนสาวแต่งงาน รับเกรงใจ ‘เต้ย’ เป็นข่าวหลังร่วมยินดี
หลังจากที่นักแสดงหนุ่ม อเล็กซ์ เรนเดลล์ ได้เซอร์ไพรส์ขอ เจนนี่ แฟนสาวนอกวงการแต่งงานไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางเพื่อนในวงการและแฟนๆ ที่เข้ามาแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม รวมถึงอดีตแฟนสาว เต้ย จรินทร์พร ด้วย
ล่าสุดหนุ่มอเล็กซ์มาร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Smooth Skin Overnight Booster Mask ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1 ก็ได้ออกมาเล่าถึงโมเมนต์วันขอแต่งงานให้ฟังว่า
เล่าโมเมนต์วันขอแต่งงาน?
“จริงๆ วางแผนไว้นานแล้ว แต่ไม่ได้บอกใคร รู้กันภายในอยากให้เซอร์ไพรส์ ก็ไปต่างประเทศ พี่สาวก็ไปหมั้นที่นั่นด้วย แฟนผมก็ไปด้วยก็เลยวางแผนว่าที่นี่แหละจะเป็นโมเมนต์ที่อะไรหลายอย่างลงตัว ไม่ได้คิดว่าจะทำยังไง แค่คิดในใจว่าทำยังไงก็ได้ให้มีโมเมนต์แค่ 2 คน เพราะว่าผมเคยเห็นคนขอแต่งงานกันแล้วคนร่วมตบมือเต็มไปหมด เป็นอย่างนั้นผมเขิน ผมเอาแหวนใส่กระเป๋าไว้เป็นอาทิตย์เลย ก็ดูว่าตอนไหนจะเป็นจังหวะที่ดี แล้ววันมันก็หมดลงเรื่อยๆ ก็ตรงนี้แหละ ก็ตามรูปเลย”
ตื่นเต้นแค่ไหน?
“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่มีความซึ้งกว่าที่คิดไว้ ตอนแรก ไม่ได้คิดอะไรมาก ได้คุยกับทางบ้านของเขา ของเรา และเห็นรอยยิ้มที่ทุกคนแฮปปี้กับของเรา ก็เริ่มซึ้ง”
โมเมนต์ตอนนั้น?
“จริงๆไม่ได้มีรายละเอียดอะไรที่หวือหวาขนาดนั้น ผมก็อยากให้มันธรรมชาติที่สุด ไม่ได้ตั้งกล้องถ่ายคิดในใจแล้วว่าไม่ได้อยากได้ภาพไม่ได้อยากได้อะไรเลย อยากได้ ความทรงจำแค่คนสองคน โมเมนต์นั้นถ้ารายละเอียดว่าพูดอะไรทำยังไง ผมอาจจะขอเก็บไว้แค่สองคน เล่าให้ฟังแล้วกันว่าอยู่บนเรือ เราพายออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็เอาว่ะตรงนี้แหละ ถ้าจะกลับฝั่งคนก็จะเยอะก็ตรงนี้แหละ ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติเป็นโมเมนต์ที่ดีมากครับ“
รีแอคตอนที่ยกแหวนขึ้นมาเขาเป็นยังไง?
“เขาถามว่าคืออะไรเพราะว่าเราไม่ได้ใส่กล่อง เขารู้ ก็ใส่เหมือนถุงเล็กๆไว้ ก็ค่อยๆ เปิดออกมาเขาก็เซอร์ไพรส์ จริงๆ แล้วคือหลอกเขาว่ามา ให้เขาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นบนทริปนี้”
กังวลไหมว่าเขาจะจับได้กลางทาง?
“เขาจับไม่ได้เพราะเราคอยเช็กอยู่ว่ามีใครแอบบอกอะไรหรือเปล่า หรือเขาจับอะไรเราได้หรือเปล่าก็พยายาม เช็กๆๆ ก็ได้ข้อสรุปว่าเค้าไม่รู้แน่นอน”
มีน้ำตาไหมวันนั้น?
“ก็มีนิดหน่อย ก็ทั้งสองคนแหละ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากพอเรากลับมา ผมบินไปอยู่ภูเก็ตต่อ 5 วัน แล้วก็มางานวันนี้เลยยังไม่มีเวลาให้กับมันมากเท่าไหร่ครับ”
ส่วน แหวนไม่กลัวหายเหรอ?
“เรื่องหายไม่เท่าไหร่ แต่พอขึ้นเครื่องกลัวโดนสแกนมากเลย ก็จะมีความตื่นเต้นตรงนั้น”
คือพกไปทุกที่ๆไป?
“ประมาณนั้นจริงๆไปหลายประเทศ ฝากคุณพ่อคุณแม่ผมเอาไปให้พอไปถึงที่นู่นเราก็ไปกันอีกหลายที่ แต่โมเมนต์ที่อยู่กันสองคนจริงๆมันคือตอนท้ายของทริป”
จุดไหนที่คิดว่าถึงเวลาแล้ว?
“ด้วยหลายๆ อย่างเราคบกันมาหลายปีมากแล้ว ด้วยอายุด้วยงาน การสร้างเนื้อสร้างตัวฉันดูแลครอบครัว เรื่องปัจจัยต่างๆ แล้วก็อยากให้มันมั่นใจว่าเราโอเคแล้ว เสร็จแล้วก็มองไปถึงครอบครัวของเราในอนาคต ครอบครัวพ่อแม่พี่น้องของเราๆ เสร็จไว้หมดแล้วต่อไปก็เป็นเรื่องของอนาคต ใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้นิดนึง”
คุณพ่อคุณแม่เขาได้คุยกันไว้แล้ว?
“คุยไว้แล้วครับเราก็มีการคุยกัน เจนนี่ไม่รู้ และเขาบอกว่าอยากให้เป็นเซอร์ไพรส์ผมก็เลยพยายามเซอร์ไพรส์ก็หาจังหวะเข้าไปคุยกับที่บ้านตอนเขาไปทำงานต่างประเทศ”
คุณพ่อคุณแม่ของเขาไม่หลุด?
“เขาก็ถามว่าเมื่อไหร่ๆ ลูกสาวคนโตของบ้านเขาด้วย ก็ดีใจที่เขาตื่นเต้นไปกับเรา ยินดีกับเรา”
วางแผนจัดงานไว้เมื่อไหร่?
“พี่สาวผมแต่งปลายปีก็คิดไว้ว่าน่าจะหลังจากนั้น เพิ่งกลับมาเลยจริงๆ ก็เริ่มดูรายละเอียดหลายหลายอย่าง ว่าประมาณไหนที่ไหน ยังไงกี่คนก็เริ่มคิดกันแล้วครับ ที่เมืองไทยครับ”
มีเตรียมตัวไหมเข้าคอร์สเจ้าบ่าว?
“มีด้วยหรือครับ (หัวเราะ) คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ด้วยความที่เรารู้จักคนเยอะงานเราก็คงจะคนเยอะ อยากได้งานที่เป็นธรรมชาติเป็นกันเอง ไม่ต้องอะไรมากมายแค่เป็นโมเมนต์ที่เราอยากจะแชร์กับครอบครัว กับเพื่อนที่สนิท หรือที่ดูแลเรามาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว สำหรับผมความรู้สึกสำคัญกว่าว่าจะออกมายังไง ในสายตาของคนอื่นมากกว่าครับ แต่ยังไม่ใช่ในปีนี้แน่นอน ถามว่าปีหน้าไหม ผมก็ไม่อยากทิ้งเวลาเหมือนกันครับ”
เต้ย เข้ามาแสดงความยินดี?
“ก็ยินดี แต่ผมก็แอบเกรงใจเขา และเขาก็เกรงใจผมด้วย ก็มีข่าวที่ออกไป เต้ยเข้ามายินดี แล้วผมก็เข้าใจเขาผมก็บอกไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องของข่าว คือเขากลัวว่า เขามาแสดงความยินดี แล้วคนไปให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากกว่า ซึ่งเราเป็นเพื่อนกัน เราเข้าใจตรงนี้กัน ไม่อยากจะต่อยอดข่าวตรงนี้สักเท่าไหร่ มันควรเป็นโมเมนต์ความรักของคนสองคน ในความรู้สึกผมนะ ไม่อยากดึงอะไรมาเท่าไหร่อ่ะ”
เจนนี่เข้าใจไหม?
“เขาไม่อะไรกับข่าวพวกนี้อยู่แล้วครับ”
