ยอมถอดเสื้อผ้าโชว์ซิกซ์แพคแน่นๆ แถมยังชวนเพื่อนร่วมวง ‘Tono & The Dust’ มาร่วมถ่ายแบบให้นิตยสาร ‘SENSE Magazine’ ฉบับ Special TONO & THE DUST โดยค่าตัวที่ได้จะมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ทั้งหมด เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ได้เจอ โตโน่ – ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ มาร่วมงาน ‘คนหล่อพอเพียง สุดสัปดาห์คนหล่อขอทำดีปี 10’ เลยต้องถามถึงฟีดแบ็กที่ได้รับ
โดยโตโน่ว่า ฟีดแบ็กดีมาก แฟนๆ เข้าไปดาวน์โหลดจนเว็บไซค์ล่มทีมงานจึงต้องทำเป็นหนังสือออกมาแต่อาจจะจำนวนไม่เยอะ ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจ ปลื้มใจมาก เพราะที่ใจอ่อนยอมถ่ายก็เพราะเงินทั้งหมดเอาไปช่วยชาวใต้จึงคิดว่าคุ้มค่าที่จะทำ โดยที่ผ่านมาเต็มที่ตนจะถอดแค่เสื้อ ไม่ค่อยใส่กางเกงขาสั้นมาก ทว่าครั้งนี้กางเกงที่ใส่ก็ดึงต่ำลงอีกจึงต้องฟิตหุ่นมากพอสมควร
“เขินครับ อึดอัดเราก็ไม่เคยมาทำแบบนี้มาก่อน ต้องมานอนตรงห่วงยางแล้วก็โพสท่าถ่ายแบบใส่กางเกงสั้น ซึ่งท่าโพสเราก็ทำตามที่พี่ๆทีมงานเขาบรีฟมาครับ ตอนแรกเขาติดต่อมาว่าอยากให้เราประเดิมปก จะเป็นแนวเซ็กซี่สปอตอะไรอย่างนี้ ซึ่งผมไม่เคยรับเลยนะ ผมก็เลยบอกเขาไปว่า จะให้ผมทำเนี่ย เงินค่าตัวผมรวมถึงเปอร์เซ็นต์ค่าโหลดที่ผมจะได้รับ ขอให้ช่วยพี่น้องชาวใต้หมดเลย โอเคไหม เขาโอเค” โตโน่เล่าพลางเขิน
และว่าสำหรับเงินที่จะนำไปช่วยชาวใต้ต้องรอรวมยอดดาวน์โหลดและยอดหนังสือ แต่ตอนนี้ทราบว่าได้เยอะพอสมควร โดยนอกจากเงินก็เตรียมจะซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ชาวบ้านขาดแคลนไปให้ด้วย เช่นรองเท้า ที่ผ่านมาตนไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ภาคใต้บ่อย ทุกครั้งแฟนๆ ให้การตอบรับดี เมื่อทุกคนในวงทราบโปรเจ็กต์นี้จึงพร้อมทำแม้จะขัดเขินไปบ้างเพราะไม่ใช่นายแบบมืออาชีพ
“เห็นกระแสตอบรับก็ดีใจครับแต่มันก็เหนื่อยนะครับกว่าจะให้มันดีออกมาได้ เพราะว่าตอนนั้นเราถ่ายละครด้วย ต้องทัวร์คอนเสิร์ตด้วย ก็ค่อนข้าง จะยากในเรื่องของการแบ่งเวลาแต่ว่าพอละครปิด มันจะมีช่วงเวลาประมาณสองอาทิตย์ ที่จะต้องวิ่งทุกวัน วันละเกือบสิบกิโล ต้องเล่นเวทด้วย กินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อที่จะให้มันออกมาดีที่สุด” โตโน่บอก
ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า คงจะไม่ติดใจการถ่ายแบบเซ็กซี่ และเจ้าอื่นๆ คงจะเข้าใจว่าทำไมถึงถ่าย เพราะที่ผ่านมาเวลาปฏิเสธก็ด้วยถนัดร้องเพลงมากกว่า การถอดเสื้อบนเวทีกับถอดเสื้อถ่ายแบบความรู้สึกค่อนข้างต่างกัน ดังนั้นจึงเอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสดีก็ยินดีที่จะถ่าย โดยหลังเล่มนี้ก็มีติดต่อมา แต่ทางเอ็กซ์แซ็กท์ต้นสังกัดได้ปฏิเสธให้ เพราะไม่อยากให้ถอดพร่ำเพื่อ ด้วยในความเห็นตนคิดว่าแต่ละเล่มควรจะได้พัฒนาร่างกายในแต่ละส่วนให้กล้ามเนื้อชัดขึ้น การถ่ายควรจะต้องมีคุณภาพ และการถ่ายแบบครั้งนี้น่าจะโป๊สุดแล้ว
“(กลายเป็นหนุ่มเซ็กซี่ของวงการแล้ว) ผมว่าอย่า และคงไม่ใช่หรอกครับผม ในเรื่องของการถ่ายแบบมันก็คงจะเป็นนายแบบมืออาชีพ ของเราเราเป็นนักร้อง แต่ถ้าเกิดว่าเรื่องของสุขภาพผมใส่ใจจริงๆ เพราะการเล่นคอนเสิร์ตแต่ละครั้งใช้แรงเยอะ กล้ามเนื้อที่เราอยากได้มันคือกล้ามเนื้อของนักกีฬาจริงๆ ดังนั้นเราก็ต้องออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ ที่ไม่ต้องพึ่งยา ดีใจที่หลายคนมองเห็นเราเป็นแบบอย่างที่ดีในการที่จะอ่อเราเวลาน้อยงานหนัก แต่ยังฟิตอยู่สามารถดูแลสุขภาพ ดังนั้นมันหมายถึงความรับผิดชอบ ครับ เราต้องใส่ใจ” โตโน่กล่าว
ส่วนเรื่องทรงผมที่ไปเปลี่ยนสีมาใหม่นั้น โตโน่ว่า เมื่อละครปิดกล้องและเบื่อกับทรงเดิมๆ ที่ไว้มาเกือบ 2 ปีจึงตัดสั้นแล้วทำสี ซึ่งก็เป็นสีที่เลือกเอง เพราะอ่านการ์ตูนแล้วชอบ โดยเป็นเรื่อง ‘ข้าชื่อคิวพี’ ที่ต่อยตีกันแล้วพระเอกหัวขาว รวมถึงชอบ ‘ดราก้อนบอลแซด’ ด้วย โดยที่หลายคนแซวว่าเป็นโอปป้าก็แปลกใหม่ดี ทำให้แฟนๆ รู้สึกเหนือความคาดหมาย แต่ก็อดรู้สึกเขินไม่ได้
“เขินนะ มันยังไม่ค่อยชินเท่าไร ส่วนใหญ่เราจะออกกุ๊ยๆเนอะ ไม่ค่อยจะเหมาะกับเกาหลีแบบสำอางๆ เท่าไร ก็มีคนมาแซวเยอะนะครับ แซวเยอะบางทีก็เขินนะ แต่คิดว่าเราก็เหมือนโอปป้าบางมุม บางมุมก็ไม่เหมือน บางมุมเหมือยผมตอนแก่ คิดว่าถ้าเราหัวหงอกก็เป็นแบบนี้ (หรือจะเปลี่ยนลุคเป็นร็อคเกาหลี?) (หัวเราะ) อย่าเลยครับผม เป็นเรานี่แหละครับ เป็นผมนี่แหละก็เราดูว่าอันนี้อยากไปเราก็ทำถ้าแล้วมันไม่เข้าท่าเราก็เปลี่ยน ครับ ส่วนเรื่องของความสามารถเราก็พัฒนามันต่อไป” โตโน่บอก
พร้อมทั้งยอมรับว่ามีแฟนคลับบางคนไม่ชอบ เพราะชอบผมสีดำที่ดูดุดันกว่า ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นธรรมดาที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ว่าสิ่งที่ทำไปมันก็เบื่อ เมื่อเบื่อก็ทำ เมื่อเบื่ออีกก็เปลี่ยน เล็งไว้ว่าจะทำทรงนี้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ แล้วจะตัดสกินเฮดหรือทำสีอื่น
