‘ต้นหอม’ ยืนยันถึงเลือกข้าง ‘โยเกิร์ต’ แต่รักและปรารถนาดีกับ ‘พีเค’ หวังมีคนช่วยดึงกลับมา
ก่อนหน้านี้ ต้นหอม ศกุนตลา ได้ประกาศชัดเจนว่าเลือกยืนข้างความถูกต้อง ข้างน้องสาว โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ ที่ได้รู้จักและรักกันจากการแนะนำของ พีเค ปิยะวัฒน์ ล่าสุด ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Co-CEO ผลิตภัณฑ์ BENUTRA ที่ Siam square One ต้นหอมก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้ง หลังมาให้กำลังใจโยเกิร์ตและมีโมเมนต์กอดให้กำลังใจกันว่า
วันนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจโยเกิร์ตโดยเฉพาะเลย?
“จริง ๆ น้องก็ชวนไว้นานแล้วว่าถ้าเกิดมีงานเปิดตัวสินค้าอย่าลืมมานะ เราก็บอกได้เลย”
เรียกว่าเลือกฝ่ายชัดเจน?
“เอาจริงๆ พี่พีเคคือพี่ชายที่รักมาก เราเองก็ยังเป็นน้องสาวอยู่เสมอ ส่วนโยก็เป็นน้องที่เราเอ็นดู แต่พอวันที่เขาเลิกกันแล้วไม่ได้เลิกกันด้วยเรื่องเงิน ซึ่งเราก็รู้ตามข่าวว่าเลิกด้วยเรื่องอะไร หอมก็เลือกให้กำลังใจคนที่ถูกกระทำ ณ ตอนนั้น ซึ่งโยถือว่าเป็นคนที่ลำบากที่สุด ต้องถอยกลับมาเริ่มต้นที่ศูนย์ คราวนี้พอสองฝ่ายตีกันรุนแรงมากมันก็ต้องเลือกอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จะมาแบบสู้ๆ ทั้งสองฝ่าย เอ้า! สู้กันก็คืออิ๊บอ๋ายทั้งคู่เหรอ เราก็จะดูเหมือนนกสองหัว เมื่อเราเลือกให้กำลังใจฝั่งนี้แล้ว มันก็ไม่มีหน้าที่จะไปถามพี่พีเคว่าสบายดีมั้ย แล้วฝั่งโยเองก็ต้องกังวลถ้าวันนึงเราไปเจอพี่พีเคจะเล่าเรื่องราวที่เราเคยคุยกันมั้ย แบบนั้นมันก็จะรู้สึกอึดอัดใจ สมมติถ้าหอมไปเจอพี่พีเคเขาก็ต้องคุยเรื่องโยเกิร์ตถูกมั้ย ซึ่งเราไม่อยากคุยอะไรเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าพี่พีเคบอกว่าวันนี้เหงาอยากกินข้าวด้วย แล้วไม่คุยเรื่องโยเกิร์ตเลย หอมสามารถไปหาเขาได้เลย”
กลัวพีเคจะโกรธไหม?
“เราก็ยังบอกว่าเป็นน้องสาวของเขาเสมอนะ ยังรักและปรารถนาดี สิ่งที่ห่วงและกังวลที่สุดคืออยากให้พี่พีเคกลับมาอยู่ในวงการ เรื่องคดีความหรือเรื่องอะไรต้องแยกกัน อันนี้หอมไม่เกี่ยวอยู่แล้ว แต่ทำยังไงมันมีโอกาสมั้ยพี่พีเคจะได้รับโอกาสในการกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง ทำยังไงให้ภาพลักษณ์ของพี่เขากลับมาอีกครั้ง เพราะหอมรู้สึกว่าพี่พีเคเป็นคนชอบทำงาน ทุกคนต้องมีงานมันถึงจะกลับมามีเงิน ยิ่งเราเข้าใจสถานการณ์การเงินเขาก็ยิ่งน่าห่วง”
เท่าที่รู้ตอนนี้พีเคถึงขั้นไม่มีเงินจริงไหม?
“หอมไม่คิดว่าเขาโกหก คนเราไม่ทำงานก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว มันก็เป็นเวย์ที่ถูกต้อง พี่พีเคอาจจะมีสินทรัพย์ แต่เงินสดที่มันออกทุกวันๆ แล้วคนวางแผนอย่างเขาก็ต้องรู้สึกกังวลแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าในวงการบันเทิงเราหาคนที่มีคุณภาพอย่างพี่พีเคยากมากนะ ถามว่าตอนนี้ใครคือตัวตายตัวแทนพี่พีเค วันนี้นั่งนับไม่ถึง 5 คน ฉะนั้นหอมรู้สึกว่านี่คือบุคลากรในวงการบันเทิงในการทำงานพี่พีเคเก่งมาก แล้วมันก็น่าเสียดายถ้าเกิดว่าคนนี้จะไม่มีโอกาสในการทำงาน”
คิดว่าพีเคจะกลับมาได้ไหม?
“อยู่ที่ตัวเขาค่ะ พี่พีเคต้องบิดอะไรบางอย่าง หอมไม่รู้ว่าพี่พีเคนับถือใครเป็นไอดอลในวงการบันเทิง แต่ต้องมีคนนั้นเข้าไปคุยกับพี่พีเค แล้วบอกแนวทางว่าต้องทำยังไง สำหรับหอมแล้วคุยไม่ได้เพราะเราอยู่ในฐานะน้อง แล้วเราก็ไม่ใช่คนที่พูดแล้วพี่พีเคจะฟัง แต่ถ้าวันหนึ่งเขาเปิดใจฟัง หอมก็ยินดีนะ”
คิดว่ามีคนที่เขาจะฟังไหม?
“ต้องให้เขานึกว่าใครในวงการบันเทิง ใจหอมอ่ะคิดถึงน้าเน็ก แต่หอมไม่รู้ความสัมพันธ์ของเขาว่าเขามีพลังพอที่พี่พีเคจะฟังมั้ย อีกอย่างคือน้าเน็กอยากจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้มั้ย(หัวเราะ) คือเราก็ถือวิสาสะในการที่จะพูดชื่อน้าเน็กออกไป”
เชื่อว่าพีเคยังมีโอกาสอยู่ไหม?
“คนที่ฆ่าคนตายยังได้รับโอกาสในการกลับมาเลย พี่พีเคก็ทำผิดแหละ ขอแค่สำนึกผิดอย่างจริงใจ จริงใจในการออกมาขอโทษ อันนี้เป็นแค่หอมแนะนำนะ แต่หอมไม่รู้ว่าเขามีมุมมองในเรื่องนี้ยังไง (แสดงว่าตอนนี้เรายังไม่เห็นความจริงใจนั้นเหรอ?) หอมไม่ได้เข้าไปสื่อสารกับเขาค่ะ อันนี้ก็เลยตอบไม่ได้”
การที่เราเลือกฝั่งชัดเจนอย่างนี้ กลัวจะมีคนเข้ามาดราม่าไหม?
“คนด่าเหรอ…ด่ากูเรื่องอะไร(หัวเราะ) หอมเป็นคนตรงๆ อ่ะ ถามมาเราก็ตอบตรงๆ วันนั้นนักข่าวถามว่าหอมได้มาเป็นกาวใจมั้ย เราไม่ได้เป็นกาวใจแล้วเทกเครดิตเครดิตทำไมอ่ะ หอมคุยอยู่แค่ฝั่งเดียวก็สื่อสารไปเลย นักข่าวจะได้ไม่ต้องมาถามอีกว่าได้คุยกับพี่พีเคอยู่มั้ย ไม่ได้คุยค่ะ”
โยเกิร์ตเองก็ขอบคุณที่ต้นหอมเชื่อใจในตัวเขา?
“ที่เขาจะฟ้องกันเรื่องเงินอ่ะนะ มันไม่เกี่ยวกับหอมอยู่แล้ว เขาเปิดบริษัทกันสองคน ความจริงรู้กันอยู่สองคน แล้วไม่ว่าผลจะออกมายังไงไม่เกี่ยวกับหอมเลย เราเป็นคนนอกด้วยซ้ำ หอมมีหน้าที่ให้กำลังใจ ถามว่าทำไมถึงเชื่อใจโย ที่ผ่านมาโยก็เคยพูดความรู้สึกบางเรื่องที่บอกว่าอันนี้หนูไม่เคยบอกใครเลยนะพี่สาว ในเมื่อเขาให้ใจเรามาก่อน ฉะนั้นเราก็จะไม่ทรยศความไว้ใจที่คนมอบให้จริง ๆ “
ในอนาคตก็สามารถเจอหน้าและคุยกับพีเคได้เหมือนเดิม?
“ได้แค่อย่าพูดเรื่องโยเกิร์ตค่ะ ถามว่าได้เจอพี่พีเคครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ทำอีเวนต์ด้วยกันก็น่าจะเมื่อปีที่แล้ว รายการก็ไม่ได้จัดด้วยกันอยู่แล้ว แล้วหอมก็ไม่รู้สังคมและการดำเนินชีวิตของเขา ณ ตอนนี้ว่าเป็นยังไง ส่วนใหญ่เราจะเจอกันเรื่องงานอยู่แล้ว แต่ว่าเรารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว ความรักความปรารถนาดีของพี่น้องชาวเอไทม์ก็ค่อนข้างแข็งแรงและยังเป็นครอบครัวที่หวังดีเสมอ แค่ไม่มีโอกาสได้พูดกันเท่านั้นเอง”