นารา เครปกะเทย เปิดใจ ปกป้องแฟน ยอมติดคุกคนเดียว ขอโทษทุกคน พร้อมเป็นคนใหม่
จากกรณี นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย ถูกสั่งฟ้องคดี ม.112 เป็นคดีที่ 2 พร้อมกับข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 และต่อมานาราถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีส่วนตัวมาตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 แล้วนั้น
จากนั้น นาราถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวก็เดินหน้าทำมาหากิน เพื่อหาเงินคืนเจ้าหนี้ทั้งหมดจากกรณีกล่องสุ่ม มูลค่า 50 ล้านบาท นาราทำตั้งแต่การไลฟ์สดขายของ เป็นแขกรับเชิญออกรายการต่างๆ และล่าสุดก็ได้เปิดใจผ่านช่องยูทูบตัวเอง ในหัวข้อ “ชีวิตที่ผ่านมาของนาราเครปกะเทย”
เรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก
นารากล่าวว่า อยากมีตั้งแต่เด็ก เห็นเพื่อนมีก็อยากจะมี แม่บอกว่าอยากได้อะไร ก็ทำงานหาเอง ก็ทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่ ขายไก่ทอด ขับวินมอเตอร์ไซค์ เพราะต้องการได้เงินไปซื้อของที่อยากได้ พอมาเรียน ปวช. ก็ได้ทำงานมากมาย พอหาเงินเยอะ ความอยากใช้ก็เยอะ เล่นแชร์ เป็นหนี้ทำนม
จุดเริ่มต้นเครปกะเทย
นาราเผยว่า อายุ 18 ปี เปิดร้านเครป เพื่อให้ผู้ชายมาซื้อ เปิด 18.00-04.00 น. เจ๊งแรกของชีวิต ลงทุน 5 หมื่น เช่น วันหนึ่งขายได้ 1,700 บาท แต่ลงทุน 3,000 ต่อมาได้ถ่ายคลิปตลกกับเพื่อนๆ ปรากฏว่า คนแชร์เยอะขึ้นเรื่อยๆ จึงตัดสินใจทำต่อ เพราะอยากดัง งานรีวิวเยอะขึ้น ก็ขี้เกียจขายเครป
งานในวงการ
นาราเผยว่า เริ่มทำคลิปลงช่องทางออนไลน์ โดยมีเรตราคาของตัวเอง งานมากขึ้นจนดร็อปเรียน แต่งานก็เริ่มจางลง มีรีวิวเว็บพนันด้วย ตำรวจมามีหมายจับ และไปขึ้นศาล ยอมรับว่าทำจริง แต่ต้องมีเงินแสนห้ามาประกันตัว สุดท้ายศาลตัดสินรอลงอาญา 2 ปี ห้ามทำผิดอีก
ไม่อยากดับ อยากดังไปเรื่อยๆ
นาราเผยว่า ตัดสินใจทำคลิปแกล้งคน เอามุขไปเล่นกับตำรวจ คนแชร์ 4 หมื่น งานเข้ามาเต็ม มีรถตู้ มีคนขับรถ ช่วงนั้นทำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมด้วย คนอยากเป็นตัวแทนเยอะมาก แต่เปิดบิลที่ 1 ล้านบาท ได้ 10 คน ก็ 10 ล้าน
อาหารเสริมติดตลาด ต่อมาเกิดปัญหาสินค้าไม่ออกตามเป้า ให้ตัวแทนรอ แต่ได้เงินมาแล้ว จึงขอเลื่อนไป 1 เดือน ทุกคนรอได้ กระทั่งของไม่ออก ทุกคนขอเงินคืนประมาณ 10 ล้าน ณ ตอนนั้นถ้าย้อนกลับไป ถ้าจริงจังในเรื่องนี้ ก็คงไม่ติดคุก
พอของมาก็ขายไม่ออก จึงเอาของที่เหลือไปทำกล่องสุ่ม ตอนนั้นเล่นหวยจนไม่มีเงินจ่ายเจ้าหนี้ ต่อมามีคนดิสเครดิตว่าเราไม่ส่งของ และขอเงินกล่องสุ่มคืนทีเดียว แล้วเราตั้งตัวไม่ทัน มันพัง บริหารไม่ได้แล้ว
ชีวิตในเรือนจำ
นาราเผยว่า ทุกครั้งที่แม่มาเยี่ยม จะบอกทุกครั้งว่ามีคนเลี้ยงดี แต่ความจริงเราเลี้ยงตัวเองมาตลอด เลยพูดคำหนึ่งกับแม่ว่า “หนูจะสู้” ขอให้แม่ ตา ยาย และน้องรอ
แฟน
นาราเผยว่า มีแฟนก็เอาเงินไปให้เขาใช้ ได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ เงินเข้ามาแบบใช้ได้สบาย เพราะอาหารเสริมติดตลาด ณ ตอนนั้น ห่วงแฟน รักเขามาก ตำรวจจะจับคู่ ก็บอกว่า พี่เอาหนูไปคนเดียวพอ เขาไม่เกี่ยว เราปกป้องเขา ผ่านไป 2 เดือน เขาเอาของแบรนด์เนมเราไปขายหมด ไม่ว่าจะเป็น ของขวัญ แหวนแต่งงาน ช่อดอกไม้
“วันที่ออกจากคุกหนูมาตัวเปล่า มีเพียงถุงยาสีฟัน แปรงสีฟันที่ซื้อจากเรือนจำ วันที่หนูก้าวเข้ามาบ้านหลังนี้หนูต้องเริ่มใหม่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่คิดตลอดว่า สิ่งนอกกายไม่เหลือ แต่ยังเหลือครอบครัว อาจไม่ได้เที่ยว ไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนมเหมือนเมื่อก่อน ทำให้รู้ว่า ความสุขจริงๆ จะเข้ามา ก็ตอนที่พร้อม” นารากล่าว