มดดำ ถึงกับของขึ้น ไขปม ‘แน็ก-กามิน’ พูดหมดเรื่องไหนจริง ไม่จริง!
ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก จากกรณีที่แน็ก ชาลี ได้มีการออกมาไลฟ์สดมาราธอนตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเช้า โดยได้มีการออกมาพูดถึงอดีตแฟนสาว จี กามิน ติ๊กต็อกเกอร์ชาวเกาหลีใต้ ที่ทั้งคู่ได้แยกทางกันตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งแน็กได้มีการออกมาชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ที่ถูกกล่าวหา และปฏิเสธเรื่องที่ดูแลกามินไม่ดี
โดยล่าสุดรายการแฉได้มีการนำเสนอข่าวถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งมีมดดำ คชา เอมี่ มรกต และน็อต วรฤทธิ์ ร่วมอ่านข่าวด้วยกัน ซึ่งระหว่างที่จัดรายการอยู่นั้น ในช่วงนึงน็อตอ่านข่าวกามิน ที่ออกมาไลฟ์สดชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ และบอกว่ามาทำงานที่ไทยไม่ใช่เพราะเงิน แต่เป็นความรักที่มีต่อแน็ก ขณะนั้นมดดำก็ได้พูดขึ้นมาว่า “จริงเหรอ ฉันไม่เชื่อ”
ต่อมามดดำก็ได้อ่านข่าวที่แน็กออกมาไลฟ์สด ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ามีการกักขังกามิน และให้อยู่แต่ในบ้านของตัวเอง ซึ่งมดดำก็ได้เผยว่า “อันนี้ ฉันก็รู้มาตลอด เขามีโรงแรมให้อยู่ เขามีคนขับรถให้ ซึ่งรถตู้คันนั้นเป็นของผู้จัดการ ที่เป็นคนรับ-ส่ง ไม่เคยกักขังและห้ามออกไปเที่ยวเลย”
ส่วนเรื่องค่าปรับเพราะผิดสัญญานั้น มดดำก็เผยว่า “อย่าลืมนะ ตอนนี้เป็นข่าวดังแค่ไหนกรมสรรพากรก็ตามนะ อย่าลืมเขานับไลฟ์ของเขาได้นะเธอ และใครจ่าย กูถามหน่อย ใครจะต้องเป็นคนจ่าย แน็กก็ต้องจ่าย มันถึงได้บอกว่าหมดเนื้อหมดตัว”
จากนั้นมดดำถามทราย มาดามฟิน ว่าจ้างกามินกับแน็กมาไลฟ์เท่าไหร่ ด้านทรายตอบว่า ล้านหนึ่ง โดยจ้าง 2-3 ครั้ง
ก่อนที่มดดำจะอ่านข่าวแน็กต่อไป พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่าลืมว่าแน็กมีคนรับงานให้ มีคนดูแลเรื่องภาษีให้ ก็คือบริษัทหักค่าจ้าง 25% ก็คือค่าอาหาร ค่าล่าม ค่าแต่งหน้า เดี๋ยวนี้ปกติหัก 30-40% แล้ว ซึ่งแน็กก็หักในจำนวนที่น้อยมาก ก็คือ 25%”
นอกจากนี้ยังได้มีการอ่านข่าวที่กามินออกมาไลฟ์สดร้องไห้ และได้มีการลบรูปภาพคู่แน็กในไอจีออกจนหมด ซึ่งงานนี้ก็ทำเอามดดำถึงกับของขึ้น จนเอมี่ถึงกับแซวว่า “พูดนะฮะ คือโกรธแล้วนะ” ซึ่งมดดำก็ตอบไปว่า “เออ”
ก่อนที่จะอ่านข่าวต่อไปถึงจุดที่แน็กบอกว่า กามินสงสัยว่าทำงานที่ไทยทำไมถึงเสียภาษี ซึ่งก็ทำเอามดดำเดือดหนัก พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำงานที่ประเทศไหนก็เสียภาษี แล้วทีนี้กลับไปแล้วใครจ่ายล่ะ ภาษีตามที่เรารู้กันยิ่งรายได้สูง ก็จะยิ่งมีฐานภาษีสูง ปกติของคนทั่วไปถ้ารายได้ไม่ถึง 150,000 บาทก็จะไม่ต้องจ่ายภาษีถูกต้องไหม
แต่ถ้าเกิน 150,000 ก็จะเจอ 5% แล้วก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ พอรายได้สูงมาก เกินกว่า 5 ล้าน ก็จะเจอ 35% ซึ่งรายได้ของแน็กกับกามินจากการออกอีเวนต์รวมกันเกิน 5 ล้านอยู่แล้ว ดังนั้นก็จะต้องเสียภาษีสูง”
มดดำกล่าวต่อว่า คำถามคือเกาหลีเสียภาษีแบบไหน ก็ต้องบอกเลยว่าเกาหลีเขาใช้อัตราภาษีแบบก้าวหน้าเช่นเดียวกับของไทยและที่สำคัญสูงกว่าไทยด้วยซ้ำไป ถ้าคนเกาหลีไปหากินที่ต่างประเทศ นอกจากเสียภาษีที่ต่างประเทศแล้วจะต้องกลับไปเสียภาษีที่ประเทศเกาหลีอีกไหม ต้องดูว่าไปทำมาหากินที่ประเทศไหนซึ่งถ้าเกิดมีข้อตกลงระหว่างประเทศในการเก็บภาษีซ้อนหรือไม่
จากการตรวจสอบไทยกับเกาหลี กามินเขาต้องเอาส่วนของรายได้ที่ได้จากไทยทั้งหมดไปรวมเป็นเงินและไปยื่นภาษีที่เกาหลีด้วย แต่สามารถเอาส่วนที่ชำระในไทยไปหักยอดตอนยื่นภาษีที่เกาหลีได้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าตอนที่กามินอยู่ที่เกาหลีใต้ เวลาไลฟ์คนดูไม่เยอะ ภาษีจึงไม่เยอะ ซึ่งพอมาอยู่ที่ไทยเจอรายได้หลาย 10 ล้าน/คน เลยเจอภาษีที่ค่อนข้างสูงก็เลยตกใจ
“แล้วตอนนี้กลับไปแล้วใครจ่าย แน็กมันถึงพูดว่าหมดตัวๆ ตอนจ่ายก็จ่ายชื่อบริษัทมันไง แล้วหลังจากเอาเงินไปแล้วใครจะจ่ายล่ะเธอ” มดดำกล่าว