ฟิล์ม ธนภัทร น้ำตาคลอ เสียใจเจอ #แบนแม่หยัว เสียดายความทุ่มเท เข้าใจถ้าผู้ชมไม่ดูอีก

‘ฟิล์ม ธนภัทร’ น้ำตาคลอ เผยความในใจปม #แบนแม่หยัว รับเสียดายความทุ่มเท

กรณีดราม่าร้อนระอุจนเกิด #แบนแม่หยัว ขึ้นบนโลกออนไลน์ จากการนำสัตว์มาเข้าฉากหนึ่งในซีรีส์ โดยใช้กระบวนการวางยาสลบแมว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่าฉากดังกล่าวได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ ไม่เพียงเท่านนั้น เรื่องราวยังลุกลามไปถึงนักแสดงนำในซีรีส์ด้วย อย่างไรก็ตาม หลายคนเกิดความเห็นใจและเข้าใจในมุมของนักแสดงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว

ล่าสุดพระเอกหนุ่ม ฟิล์ม ธนภัทร หนึ่งในนักแสดงนำจากซีรีส์ แม่หยัว มาร่วมงานเฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่ครบรอบ 6 ปี เต็มอิ่มในงาน “The WAGASHI, Japanese Food, Crafts and Ikebana Festival” ก็ได้เปิดใจกับกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น จนแฟนๆ พร้อมใจกันมอบ #เกิดแต่กับฟิล์ม ให้ เพราะไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็มีกระแสการถอดละคร “เกมรักปาฏิหาริย์” เนื่องจากมีนักแสดงนำในเรื่องเป็นผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ก่อนที่ผู้บริหารจะให้สัมภาษณ์ว่าจะดำเนินการฉายละครดังกล่าวต่อจนจบ

ADVERTISMENT

รู้สึกยังไงกับ “เกิดแต่กับฟิล์ม”?
“อย่างแรกก็อยากจะบอกกับทุกๆ คนว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น”

มันกระทบกับตัวเราอย่างไรบ้าง?
“ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นตามแฮชแท็กก็ไม่มากก็น้อยในส่วนของผลงานของเรา ถ้าถามก็เยอะพอสมควร เราก็ได้ตามอ่านและผมรู้สึกว่าก็เข้าใจความรู้สึกของหลายๆ ฝ่ายด้วย”

อย่าง “ใหม่ ดาวิกา” กระทบทางจิตใจเลย?
“ผมว่าอันนั้นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของดาวิกา คิดว่าเขาน่าจะได้รับผลกระทบทางจิตใจค่อนข้างหนักเลยทีเดียว”

ฟิล์มโดนมากน้อยขนาดไหนกับคอมเมนต์ที่เข้ามา เพราะบางทีเราไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ตั้งใจที่จะมาถล่มเราอย่างเดียวเลย?
“อย่างแรกต้องขอขอบคุณจริงๆ ที่เข้าใจผม เพราะทุกอย่างที่เข้ามากับผมก็ไม่ได้หนักหนามาก และหลายๆ คนก็เข้าใจ ก็มีที่เห็นเกิดแต่กับผม ในส่วนของผมก็เป็นนักแสดง เราก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะนักแสดง ถ่ายทอดตัวละครออกมาอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว”

พอเกิดเรื่องฟิล์มได้มีโอกาสคุยกับทีมงานเบื้องหลังไหม?
“ก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยครับ ในส่วนนั้นก็ขอให้เป็นทางผู้ใหญ่และทีมเป็นคนพูดดีกว่า เพราะจริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รู้ดีเทลมากขนาดนั้น”

แต่พี่ป้อน นิพนธ์ ออกมาบอกว่างานช่อง one หลายๆ เรื่องจะไม่ใช้กับสัตว์จริงๆ แล้ว?
“ผมก็รู้สึกดีนะที่จะเป็นแบบนั้น เพราะเราจะได้เลิกเบียดเบียนสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นน้องแมว หรือน้องหมาใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย หรือทางจิตใจ อย่างที่รู้กันว่าถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดภาษาเดียวกับเรา แต่เขาก็มีความรู้สึกที่รับรู้ได้ และมีความเจ็บปวดทรมานไม่ต่างกับเรา ก็รู้สึกดีที่ได้ยินแบบนั้น”

ในทางของฟิล์มคนสงสารเรา มันมาดังในช่วงเวลาไม่กี่เดือน?
“เนี่ย ร้องไห้แล้วนะ (น้ำตาคลอ) มันถือว่าเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้แล้วกัน ตอนนี้ก็ดี เพราะผมว่ามันทำให้ทุกฝ่ายได้รับรู้ในส่วนนี้มากขึ้น”

รู้สึกยังไงที่หลายคนน้อยใจแทนเรา เพราะเรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกับเรา?
“ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงครับ อย่างที่ผมพูดไป ผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ ขอบคุณจริงๆ ที่ทุกคนรักและเห็นความตั้งใจของเราจริงๆ แต่ในส่วนอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ของเรา ก็เดี๋ยวผมไปมู ไปไหว้พระขอพรกับท่าน อาจจะดวงตก มันต้องมีสักเรื่องหรือสักปีแหละที่เป็นของเรา

จริงๆ ต้องบอกว่าทำบุญเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว มีโอกาสก็เข้าวัดเข้าวานะครับเห็นแบบนี้ งานบุญก็ไปนะครับ มีโอกาสก็ไปทำเรื่อยๆ”

คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลกับเรตติ้งละครที่มันเหลือแค่ 4 อีพีไหม?
“มีไม่มากก็น้อย อย่างที่ทุกคนได้ทราบกัน มีหลายๆ คนที่รับไม่ได้ ก็เข้าใจได้ในส่วนนี้ว่าเขารับไม่ได้กับการกระทำ อันนี้ก็คือไม่ติดเลย อย่างที่ผมเคยพูดไปครั้งก่อนหน้านั้นว่าใครที่ไม่สะดวกใจที่จะดู เราก็เข้าใจ ไม่ตำหนิแล้วไม่ต่อว่ากัน ผมเคารพการตัดสินใจของคนดูมาก ถ้ารู้สึกว่าเรตติ้งมันตก แล้วรู้สึกว่ารับไม่ได้จริงๆ มันก็คือจิตใจของเขา”

สิ่งที่เราทำมาเรารู้สึกเสียดายไหมกับสิ่งที่เราทุ่มเทกับเรื่องนี้?
“ถามว่าเสียดายไหม ผมก็พูดตรงๆ ว่าผมก็รู้สึกเสียดาย เพราะรู้สึกว่าตัวเองตั้งใจทำ เรียกว่าก็เต็มที่ที่สุดแล้วตั้งแต่เคยทำงานมา ในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นการแสดงเองก็ตาม ในส่วนของการเปลี่ยนบอดี้ของตัวเองก็ตาม ลดน้ำหนักทุกอย่างก็ทำมาเพื่อในส่วนนี้ อยากให้ทุกคนได้เห็นผลงานดีๆ ออกไป ได้เห็นความตั้งใจของเรา และคิดว่ามันไม่ใช่เราคนเดียวหรอกที่ตั้งใจทำงานนี้”

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ?
“ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณที่เข้าใจในพาร์ตการทำงานของนักแสดงจริงๆ แล้วขอบคุณที่เห็นความตั้งใจของพวกเรา มันไม่ใช่แค่ผมที่ตั้งใจทำงานนี้ เพราะผมได้เห็นนักแสดงคนอื่นๆ ที่เรียกว่าถวายตัวเพื่องานชิ้นนี้ไม่แพ้กัน ไม่ใช่แค่ผม”

ฟิล์มคิดว่าอีก 4 อีพีที่เหลือจะเป็นยังไงบ้าง?
“อย่างที่พูดไปเมื่อสักครู่ว่าใครสบายใจก็ดู ถ้าผมพูดในมุมนักแสดง หรือคนทำงานจริงๆ ความเข้มข้นของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผมมันเป็นการเปลี่ยนบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตตัวเองครั้งแรก ส่วนใครที่ไม่สบายใจก็ไม่ดูก็ได้ เราเข้าใจความสบายใจของคนดู”

อย่างอีพีที่เหลือ ต้องกลับไปดูไหมว่ามีอะไรที่มันสุ่มเสี่ยง?
“ผมว่าอันนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เพราะมันเป็นส่วนของทีมตัดต่อ และเราก็ไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนั้น”

ในส่วนของนักแสดงให้กำลังใจกันยังไง เพราะทุกคนทุ่มเทมากๆ กับซีรีส์เรื่องนี้?
“ผมเชื่อว่าหลายๆ คน เราได้เห็นความตั้งใจของเขา เขาก็คงถวายตัวเพื่อเรื่องนี้จริงๆ แหละ และได้เห็นหลายๆ คนได้รับกระแสที่ค่อนข้างมีผลกระทบต่อจิตใจ ก็มีการพูดคุยกัน ให้กำลังใจกัน”

ฟิล์มสบายใจขึ้นไหม เหมือนได้ระบายความในใจ?
“จริงๆ ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมานั่งร้องไห้อะไรกับเรื่องนี้ ผมแค่เสียดายความตั้งใจของตัวเองและของคนอื่นๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้นานมาก แต่มันเป็นละครที่เราทุ่มเทอะไรหลายๆ อย่างมาก แลกมาด้วยสภาวะจิตใจในการทำงาน แลกมาด้วยร่างกายที่มันทรหดกว่าเรื่องอื่นมากๆ แค่อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเราตั้งใจแค่ไหนเท่านั้นเอง”

ทุกคนก็ได้เห็นความตั้งใจของฟิล์มจริงๆ ในซีรีส์เรื่องนี้?
“ก็อย่างที่บอกรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่คนดูเห็นความตั้งใจของผมและของนักแสดงคนอื่นๆ ด้วยเพราะมันไม่ใช่แค่ผมที่ตั้งใจทำงานชิ้นนี้”

เราเจอแรงจนมีความคิดอยากจะท้อไหม หรือไม่ได้เจออะไรขนาดนั้น?
“ส่วนตัวผมเรียกว่าโชคดีดีกว่าที่แฟนๆ เข้าใจ และฟีดแบ๊กที่เป็นการให้กำลังใจส่วนใหญ่”

วันนี้รู้สึกสบายใจขึ้นไหม?
“ก็รู้สึกดี ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคนเลย ตรงนี้มันเหมือนเป็นที่ที่ให้พูดความในใจว่าเราไม่ได้รู้สึกนิ่งนอนใจ หรือไม่รู้สึกอะไรเลย ผมก็เป็นคนเลี้ยงแมวเหมือนกัน รู้สึกแย่ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เหมือนได้พูดออกไปและขอบคุณจริงๆ กับอีกหลายๆ คนที่เห็นความตั้งใจของผมแล้วของคนอื่นๆ ด้วยที่ทำงานชิ้นนี้ ขอบคุณจริงๆ ครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image