‘คุ้ย ทวีวัฒน์’ ขึ้นแท่นผู้บริหาร เปิดค่าย ’13 สตูดิโอ’ สร้างจักรวาลหนังผีไทย
เปิดศักราชใหม่ ผู้กำกับคนดัง คุ้ย ทวีวัฒน์ วันทา ผู้สร้างปรากฎการณ์กำกับภาพยนตร์ “ธี่หยด” ทั้ง 2 ภาคจนกวาดรายได้รวมกันทะลุไปกว่า 1,200 ล้านบาท ก็ขอเปิดตัว บริษัท เธอทีน สตูดิโอ จำกัด หรือ 13 สตูดิโอ พร้อมนั่งแท่นประเดิมงานบริหารในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทันที พร้อมทั้งเผยถึงจุดเริ่มต้นในการทำค่ายหนังน้องใหม่คาแร็คเตอร์ชัดเจน เน้นผลิตแต่หนังระทึกขวัญและสยองขวัญ ไว้ว่า
“เริ่มจาก เฮียจุ้ย พระนครฟิล์ม เขาชวนผมมาทำ แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ ก็คุยกัน รู้สึกว่ามีความน่าสนใจ เพราะโปรเจกต์นี้มันน่าจะมีความแปลก เพราะผมเห็นโปสเตอร์ก็เป็นที่ความฮือฮา พอหลังจากคุยเสร็จ เฮียเขาก็ถามว่าผมอยากทำอะไรอีกไหม ผมเลยบอกว่าอยากเปิดค่ายหนังสยองขวัญ เฮียเลยบอกเปิดกัน”
“มันก็เลยง่ายๆ แบบนี้เลย เราก็เลยได้เปลี่ยนบทบาทใหม่”
และยังได้ว่าจุดแข็งของค่ายไว้อย่างชัดเจนและแข็งแรงว่า “สิ่งที่เราชอบนั่นก็คือหนังสยองขวัญ ก็เลยอยากเปิดบริษัทที่ทำหนังสยองขวัญอย่างเดียว เรารู้สึกว่าเราอยากพัฒนาอยากจะทำมันให้ดูรู้สึกแตกต่าง เพราะจริงๆ แล้วหนังสยองขวัญ เขาวัดกันที่ไอเดีย และก็บทในการเล่าเรื่อง”
“จริงๆ แล้วถ้ามานั่งศึกษาเรื่องของตลาด ปีนี้เหมือนหนังเปิดเยอะ แต่การคาดการณ์มันอาจจะยังไม่ฟู่ฟ่าเหมือน 2 ปีที่แล้ว มันจะมีหนังที่ได้และไม่ได้ เพราะฉะนั้นหนังที่ได้ก็อาจจะเป็นหนังที่มีฟอร์ม มีทรงหน่อย และตอบโจทย์คนที่อยากดู”
“สิ่งที่เราเคยคิดว่าการดูหนังมันไม่ใช่แค่การที่เราจะต้องตอบโจทย์ว่าหนังที่เขาอยากดูด้วยหรือเปล่า แต่เดี๋ยวนี้คนดูเขาจะคิดถึงขั้นว่าเขาต้องเสียเวลาไปเท่าไหร่ ในการไปดูหนัง เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ยากเหมือนกันที่เราจะทำหนังให้ถูกใจเขา แล้วทำให้เขารู้สึกคำนวณแล้วว่าเขาคุ้มค่ากับเวลา”
หากจะมองหาถึงปัจจัยที่ทำให้หนังในยุคนี้มันสำเร็จ คุ้ย ทวีวัฒน์ ก็ว่า ยังไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับหนังที่ประสบความสำเร็จ
“มีหลายคนที่พยายามจะหาสูตรนี้ แต่ก็หาไม่ได้ แต่สูตรเดียวที่คิดได้คือตัวงานต้องดี ตัวงานต้องสุดทาง ตัวงานต้องตอบโจทย์ก่อนแล้วมันถึงจะไปได้”
กับการที่ 13 สตูดิโอ จะกลายเป็นจักรวาลหนังผีในอนาคต เมื่อถามถึงภาพที่มองว่าจะออกมาอย่างไร ผู้กำกับคนดังก็ว่า
“ผมมองว่ามันเป็นงานหนังสยองขวัญที่ขายไอเดีย และมีความแปลกใหม่และตอบโจทย์คนดูมากที่สุด”
แต่กระนั้น “ก็ต้องตอบโจทย์คนทำด้วยนะ เพราะเรารู้สึกสนุกที่จะทำ สนุกที่จะตื่นเต้นที่จะเห็นผลงานนี้มา ไลน์อัพหนังแต่ละเรื่องมันก็มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน จะเป็นค่ายหนังสยองขวัญที่ขายไอเดีย ที่มีความแปลกใหม่และเน้นความสนุกสนาน”
ในภาพของหนัง 7 เรื่องที่ได้เปิดตัวไปแล้วนั้น คุ้ย ทวีวัฒน์ ก็เผยว่า “จริงๆ ถ้าวันนี้เห็นโปสเตอร์ไลน์อัพ ‘สแคร์รั่ว มูฟวี่’ จะมาแรงสุด เพราะจะเป็นการล้อเลียนหนังดังๆ ของไทยมาอยู่ในเรื่องเดียวกัน เดี๋ยวดูเรื่องย่อจะรั่วมาก อันนี้ตลาดต่างประเทศไปยากแน่นอน แต่เรารู้สึกว่ามันสนุกมาก เราอยากทำ”
หรือเรื่อง ‘เฟิร์ส แคมปิ้ง…เข้าค่ายครั้งแรกรู้สึกยังไง’ จะเป็นหนังเด็ก การเข้าค่ายครั้งแรกแล้วเจอผีจริงๆ ดุจริงๆ สนุกและกวนประสาทจริงๆ เป็นเด็กเกรียน กาวๆ หน่อย ขณะที่เรื่อง ‘Attack วิญญาณเลขที่ 13’ ก็จะพูดถึงวัยรุ่นกลุ่มเพื่อนผู้หญิง เล่าเรื่องของการบูลลี่ ในมุมกลับ ที่คนดูก็จะโดนหลอกตั้งแต่ภาพหนังกันเลยทีเดียว
และยังมี ‘สมิง ที่เสิงสาง’ เป็นการต่อยอดจากสิ่งที่คนดู ธี่หยด 2 อยากดูอะไร ก็จะอยู่ในเรื่องนี้ทั้งหมด เป็นแอกชั่น สยองขวัญ เถิดเทิง และจะรู้สึกว่ามันเพี้ยนตั้งแต่เห็นหน้านักแสดงแล้ว ด้าน ‘แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์’ ที่เอามาตีความในเรื่องอาถรรพ์ เราจะเล่าเรื่องสมัยนั้นว่าสิ่งที่เราโดนอาถรรพ์ เพราะว่าเราโดนมนต์คำสาปอยู่ทั่วเมืองแล้วทำให้เราต้องไปหาศาลหลักเมืองอันแรกของเรา
อีกหนึ่งความสยองขวัญ ‘กฤษดา พาราไดซ์’ ภาพยนตร์สยองขวัญที่วัยรุ่นไปตะลุยและผจญความสะพรึงในสวนสนุกร้าง และสุดท้ายที่ คุ้ย ทวีวัฒน์ ได้โอกาสกำกับและทำบทให้กับเกม ‘Home Sweet Home Return…โฮม สวีท โฮม รีเทิร์น’
“น่าจะเพราะความสำเร็จของ ธี่หยด 2 เลยทำให้ home sweet home เกิดขึ้นเมื่อพี่แซ็ค ศรุต เขาติดต่อผมมาว่าเขาอยากทำเกม home sweet home Return เขาบอกให้ผมกำกับแล้วทำบท”
“เพราะเขาดูจากธี่หยดเขารู้สึกว่าความแอกชั่นของเกมมา สมัยก่อนผมเคยกำกับการ์ตูน มากำกับเกมบ้าง ก็ได้นะ มันเป็นเกียรติประวัติ เพราะเดี๋ยวเผื่อมีลูกหลานบอกว่าพ่อเคยกำกับเกม ก็แปลกดี ครั้งนึงในชีวิต รู้สึกท้าทาย”
และจากจุดเริ่มต้นนี้ก็เลยจะมีโปรเจคต่อยอด “ผมก็เลยคุยกับทาง Yggdrazil Group ว่า ถ้ามาขนาดนี้ผมขอไอพีมาทำเป็นหนังได้ไหม เขายินดี เขารู้สึกแฮปปี้มากว่า ถ้าเอา home sweet home มาทำเป็นหนังมันจะดีมาก”
แต่ถามว่าแล้วมันจะซ้ำซ้อนหนังฮอลลีวู้ดที่ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ แสดงไหม?
“เขาบอกว่าไม่ ฝรั่งไม่เอาตามเรื่องเลย ฝรั่งไปไกลมากเลย เขารู้สึกว่าเขาไม่สนุกกับเวอร์ชั่นนั้น เขาอยากได้เวอร์ชั่นใหม่”
ซึ่งก็จะกลายมาเป็นเวอร์ชั่นของ 13 สตูดิโอ
กับ 7 เรื่องที่เล่ามานี้ ผู้บริหารค่าย ก็เผยว่ามองกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ประเทศไทยก่อนอยู่แล้ว เพียงแค่สิ่งที่จะเล่ามันต้องเป็นภาษาสากลเพื่อที่จะไปต่อต่างประเทศได้ เช่น มุกตลก คำพูด อาจจะต้องมีลดน้อยลง เพราะถ้ามันมีทั้งเรื่องมันไม่สามารถไปต่อต่างประเทศได้และมันต้องแอบใส่วัฒนธรรมเข้าไปในการสร้างมุกตลกที่เป็นสากล
“กับหนัง 7 เรื่องนี้ อยากไประดับโลกครับ ไม่ใช่แค่เอเชีย เราอยากจะไปให้ได้หมดทั่วโลก พระนครฟิล์มยังตีตลาดต่างประเทศไม่ได้ แนวหนังที่เป็นเค้าเจอร์ตลอด มันยังไม่เป็นสากลพอ”
“จนมาเปิดบริษัทนี้ เราเริ่มไปจองบูทฮ่องกงฟิล์มมาเก็ต เริ่มจะทำนู่นนี่ที่จะลุยไปเปิดดีลเลอร์ที่ฉายหนังที่ต่างประเทศ หลักๆ เราก็ยังมองเอเชีย อย่างมาเลเซีย เวียดนาม เพราะเป็นตลาดที่หนังไทยไปทำรายได้ไว้สูงมากๆ 100 ล้านกันหลายเรื่อง เราก็อยากจะไปตรงนั้นครับ”
ทั้งนี้เมื่อถามถึงการที่ถูกคนภายนอกจดจำ คุ้ย ทวีวัฒน์ จากภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด นั้น เจ้าตัวก็กล่าวว่า “เขาบอกว่าลูปความสำเร็จมันใช้ได้ประมาณ10 ปี ผมขอใช้ก่อนครับ ผมจะได้ทำมาหากินได้ยาวๆ ผมไม่ติดเลยครับ ได้เลย”
และตอนนี้เมื่อต้องมาขึ้นแท่นผู้บริหาร เปลี่ยนบทบาทใหม่ “ผมก็กดดันแหละ ตอนที่ผมทำธี่หยดผมก็เป็นตัวเอง ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย ผมก็ยังทำแบบนั้นเหมือนเดิม เผอิญว่ามันโชคดีที่มันทำเงิน”
“สิ่งที่ผมจะทำต่อไปจากนี้ผมก็ยังจะทำเหมือนเดิมอยู่ ผมคงจะไม่ไปเปลี่ยนอะไร ก็เลยรู้สึกว่ามันจะกดดันไปไหมที่เราเป็นตัวเอง ก็ยังงงๆอยู่ มันก็ควรจะกดดันแหละนะ”
“ก็อาจจะเป็นการก้าวเดินที่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกและเป็นตัวเองดีกว่า”