โม เปิดอีกมุม เคลียร์ปมความสัมพันธ์ บอส แดนเซอร์หนุ่ม ย้ำชัดไม่ได้เป็นคนร้องเรียกเงิน แต่ได้รับการเสนอ

โม เปิดอีกมุม เคลียร์ปมความสัมพันธ์ บอส แดนเซอร์หนุ่ม ย้ำชัดไม่ได้เป็นคนร้องเรียกเงิน แต่ได้รับการเสนอ

ยังเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจไม่น้อย โดยล่าสุด โม อินฟลูเอนเซอร์สาว อดีตแฟนหนุ่ม บอส แดนเซอร์ของ นักร้องสาว ลำไย ไหทองคำ ขอออกมาพูดบ้างในรายการ โหนกระแส หลังจากที่เมื่อวานนี้บอสได้มาเปิดใจแล้ว โดยโมได้เผยว่า วันนี้ที่ออกมาพูดเพราะอยากจะพูดเรื่องความสัมพันธ์ มันมีอะไรที่บิดเบือน รู้ว่าโดนประกาศฟ้อง ยอมรับว่ากลัว แต่ว่าวันนี้จะไม่พูดเรื่องนั้นเลย

กับเรื่องนี้ ทนายแก้วเผยว่า ตามกฎหมายสามารถพูดถึงได้ แต่ต้องไม่ทำอีกฝ่ายเสียหาย

ทั้งนี้ โมได้เล่าว่า รู้จักกับบอสผ่านติ๊กต็อกตั้งแต่ปี 2564 บอสเป็นฝ่ายทักมาพูดคุย ตอนนั้นบอสเรียนอยู่ ม.6 ตอนนั้นตนอายุ 20 ปี ปัจจุบันอายุ 25 ปี ในช่วงแรกต่างคนต่างอยู่ต่างจังหวัด มีการคุยแชต วิดีโอคอล ประมาณปีนึงก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ มาอยู่กินด้วยกัน พ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้ว่าอยู่ด้วยกัน และวางแผนว่าถ้าบอสเรียนจบทำงาน มีลูก แต่ช่วงบอสเรียนก็ทำงานไปด้วย ก็มีปัญหาเลยดร็อปเรียนเพื่อไปทำงานเต็มตัว จนมีเรื่องเมื่อต้นปีที่แล้วที่บอสต้องออกจากงาน ไปแอบถ่ายจนต้องออกจากงาน ตอนนั้นก็โกรธเหมือนจะเลิก แต่พออยู่ด้วยกัน 2 คน มีคนนอกว่าเขาเราก็สงสาร เหมือนเป็นเราคนเดียวที่อยู่กับเขาตรงนั้นก็เลยไม่ได้เลิก ตอนนั้นชีวิตเขาก็แย่ ไม่มีเงิน หนูไม่ได้ทวงบุญคุณเขานะ แต่หนูก็ให้เขายืมเงินบ้าง คอยช่วย

ADVERTISMENT

จุดเริ่มต้นที่บอสได้ไปทำงานที่ไหทองคำ คือตนได้เห็นโปสเตอร์ว่ารับสมัครแดนเซอร์ชายเลยส่งไปให้บอสไปสมัคร แต่ตอนแรกเขาก็บอกว่าไม่ ไม่ใช่แนวเขา ก็อยากให้เขาไปเพราะไม่มีรายได้ ไม่ใช่แนวก็ฝึกได้ ก็ดันให้เขาไป เขาก็ไปออดิชั่น แต่ไม่ได้ จนคนขาดเลยเรียกไปเป็นตัวสำรองช่วงกลางมีนาคม แล้วมีคนออกเลยได้ขึ้นมาเป็นตัวจริงตอนเดือนเมษายน หลังจากนั้นก็เหมือนมีปัญหามากขึ้น เพราะจากที่เขามีปัญหากับที่เก่าทำให้เราระแวงเขามากขึ้น หวงเขามากขึ้น พอไปเต้นก็จะมีท่าที่ไม่เหมาะสม ใกล้ชิดเกิน ก็เลยทะเลาะกันบ้างเรื่องนี้ ขอให้น้อยกว่านี้ แต่ไม่ได้เลิกกัน อยู่ด้วยกันปกติ แต่ก็ทะเลาะกันมากขึ้น แล้วก็รู้สึกมีอะไรแปลกๆ โกหกมากยิ่งขึ้น เราก็เอ๊ะหลายครั้ง พูดไม่ตรงความจริงในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เวลาก็ลดลงเกือบหมดเลย เพราะทัวร์ 1-2 อาทิตย์ ไม่ได้เจอกันเลย คุยกันก็น้อย

เรื่องนอกใจ โมบอกว่าไม่เคยทะเลาะจนจะเลิกรากัน รู้ว่าเขาโกหกแต่ไม่เคยเอ๊ะว่าเขามีใครหรือเปล่า ไม่ได้คิดมาก่อนว่าเขาจะมีใคร แค่คิดว่าเขาเปลี่ยนไปด้วยเวลา จนที่ตัดสินใจจะซื้อคอนโดด้วยกัน เขาก็บอกว่าขอคิดดูก่อน จนเขามาบอกว่าได้ เลยขอสเตตเมนต์เขาเพื่อไปยื่นกู้ร่วมด้วยกัน หนูก็ไปไล่ดูจนเจอยอดเงินที่ผิดปกติ มันเข้ามาวันละ 1 แสน 2 วัน ซึ่งเขาเพิ่งเข้าไปเต้น ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง แล้วมีเงินเข้ามา ทั้งหมด 2 แสน ครั้งแรกเป็นยอดเงินโอนรวม 1 แสนในช่วงประมาณ 1 ชั่วโมง อีกวันนึงเป็น 1 แสนเลย ก็ถามเขาว่าอันนี้เงินอะไรที่เข้ามา เขาบอกว่าพี่ผู้หญิงโอนให้ ค่าจ้างกินเหล้า หนูก็เชื่อ อันนี้เจอตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 67 ก็จบไป

ADVERTISMENT

จนเดือนสิงหาคมมีคนโทรมาบอกหนู คนนี้เขารู้จักทั้งหนูและบอส เขาโทรมาเล่าเรื่องอื่นๆ ของบอสที่มันไม่ดี หนูก็เลยเล่ากลับไปบ้างว่าเจอเงินแสนนึงเข้ามา คนนั้นเขาจ้างกินเหล้า ณ วันนั้นหนูก็รู้สึกไม่โอเคกับบอสแล้ว แล้วคนที่โทรมาก็บอกว่าจริงๆ แสนนึงไม่ใช่จ้างกินเหล้า แต่ว่าจ้างอย่างอื่น ตอนนั้นก็เชื่อครึ่งนึงแต่ก็กะจะรอถามบอสก่อน พอเขากลับมาก็บอกเขาว่ารู้แล้วนะว่าเงินแสนนึงค่าอะไร ให้เธอพูดเอง แล้วเขาก็พูดเองว่า ใช่ เขาจ้างอย่างนั้น หนูก็โกรธค่ะ ว่ามันแรงมากเลย เขาเป็นถึงระดับนั้นต้องมาจ้างด้วยเหรอ ก็ทะเลาะกัน แยกกันอยู่ในคอนโดคนละห้องก่อนเพื่อสงบสติอารมณ์ พอบอสหลับหนูก็อยากเช็กว่าเขาคุยกันหรือเปล่า ก็เลยไปเปิดดูไอแพดก็เจอ

หนูก็โวยวายเพราะเห็นกับตาแล้ว เอาโทรศัพท์หนูถ่ายเก็บไว้แล้วปลุกเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ตกใจมากค่ะ ขอร้องหนูว่าอย่าไปบอกใครได้ไหม ก็เลยเป็นเรื่องที่เขาเสนอเงิน 5 หมื่น ให้หนูอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แล้วก็จะเลิกกับฝ่ายโน้น หนูก็บอกว่าไม่เอา เจออะไรแบบนี้เราก็ไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว ไม่อยากได้ตังค์ อยากให้บอสกับฝ่ายนั้นออกมายอมรับได้ไหม ถ้าจะให้เราเงียบหายไปเฉยๆ 2 คนนั้นไปใช้ชีวิตแฮปปี้มันไม่แฟร์กับเราที่คิดจะสร้างครอบครัวด้วยกัน ซื้อคอนโดด้วยกัน มันก็หายไปเลยจากที่เราแค่เห็นคลิป

ในช่วงที่บอสทำงานเคยไปดูบอสเต้น และเพื่อนๆ ที่ทำงานก็รู้ว่าบอสคบกับหนูอยู่ หลังจากนั้นก็บอกว่าอยากให้เขาออกมายอมรับกัน หนูจะไม่เข้าไปยุ่ง จะอยู่เงียบๆ ให้เขาพูดกันเอง ถ้าเขาจะเปิดตัวคบกันหนูก็พร้อมไป พอบอสเคลียร์ไม่ได้ผู้ใหญ่ฝั่งนั้นเลยเข้ามาคุยแทน หนูก็บอกสิ่งต้องการไปว่า อยากให้เขาออกมาพูด ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นมันเสียหาย หนูเลยบอกว่าแล้วต้องเงียบกันไปอย่างนี้เหรอ เขาก็ถามมาว่าหนูมีหลักฐานอะไรหรือไง อยู่กินกับบอสมีทะเบียนสมรสเหรอ เขาพูดเหมือนหนูจะเอาอะไร เป็นแค่แฟน หนูมีแค่นี้คิดว่าคนจะเชื่อเหรอถ้าออกไปพูด พอเขาพูดแบบนี้หนูเลยพูดออกไปว่ามีหลักฐาน เขาก็เงียบ แล้วบอกว่างั้นถ้าหนูเสียใจเรียกค่าเสียใจกับบอสเลย แล้วถ้าบอสมีไม่พอก็มาปรึกษาผู้ใหญ่ หนูก็บอกไปว่าโอเคค่ะ แล้วก็วางสายไปก่อน หนูยังไม่ได้ตกลงอะไร หนูก็เลยว่าถ้าเขาพูดแบบนี้ก็ 5 ล้าน อันนี้พูดกับบอส

ทั้งนี้ โมยังยืนยันว่าไม่เคยเรียก 10 ล้าน ที่บอสเข้าใจแบบนี้เพราะว่าตอนที่เจอคลิปแล้วหนูโมโหมากเลยพูดไปว่า ถ้าอย่างนั้นก็เอาเงินมาให้กูสิ 10 ล้าน พูดด้วยอารมณ์โมโหมากค่ะ แต่พอมาคุยกันจริงจังแล้ว โอเค 5 ล้าน บอสก็บอกว่าโอเค แล้วไปคุยกับทางนั้น ก่อนจะกลับมาบอกว่าได้แค่ 2 ล้าน หนูก็ได้ เป็นค่าเสียใจ เพราะผู้ใหญ่เขาเสนอมาให้หนูเรียกค่าเสียใจ

และเมื่อถามว่า ที่รับเงินมา 2 ล้าน เพื่อเป็นการปิดจบและไม่โชว์หลักฐานหรือไปเล่นงานเขาอีกเกี่ยวไหม? ซึ่งโมก็ว่า มันก็เกี่ยวนิดนึง คือตอนที่ตกลงกันมันเป็นค่าเสียใจ แต่พอจะรับเงินเขาบอกว่ามันต้องเซ็นสัญญานะ ไม่เคยเอาหลักฐานมาต่อรอง ทางนั้นไม่เคยเห็นหลักฐานเลยค่ะ ไม่เคยเอาไปให้เขาดู ยอมรับว่ารับเงิน 2 ล้านจริง แลกกับเวลาที่เราเสียไปทั้งหมด ให้หนูไปเริ่มใหม่ได้ง่ายขึ้น เขาก็ได้รับบทลงโทษจากฝั่งของเขา

จากกรณีที่บอสเคยได้พูดไว้ว่าที่ต้องจ่าย 2 ล้านให้โมเพื่อที่ไม่ให้นำหลักฐานออกมาเผยแพร่ โมก็ว่าไม่ตรงกับสิ่งที่ตนพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าตนมีสิทธิอะไรในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดไม่จริงบ้าง

ซึ่งทนายแก้วก็ได้ให้ข้อมูลว่า ถ้าเขาฟ้องร้องเราก็มีสิทธิไปโต้แย้ง หรือถ้าเขาพูดไม่จริงเราก็มีสิทธิ ต่างฝ่ายต่างมีสิทธิฟ้องหมิ่นประมาทกันได้

ส่วนที่บอสบอกว่าเงิน 2 ล้านนี้เรียกจากลำไย ซึ่งไม่ตรงกับสิ่งที่โมพูดว่าเรียกจากบอส โดยโมก็ยืนยันว่าเรียกจากบอส อย่างที่บอสบอกว่าก็ไปโกหกฝั่งนั้น เขาก็ไม่ได้ผิดหนูจะไปเรียกอะไรจากเขา ก็ต้องเรียกจากคนที่ทำผิดอยู่แล้ว กับเรื่องที่บอสบอกว่า โมเคยพูดว่าถ้าเรียกเงิน 2 ล้านจากอีกฝ่ายได้แล้ว แล้วจะโกหกว่าเลิกกันแล้ว แล้วค่อยกลับมาแฉเรื่องนี้โมก็ว่าไม่ได้พูด เพราะหนูไม่ได้อยากอยู่กับเขาแล้ว ถ้าหนูรับเงินมาแล้วอยู่กับเขาหนูก็โดนฟ้องอยู่ดี จะหนีตำรวจด้วยกันเหรอ หนูไม่รู้ว่าเขาคิดบทมายังไง

ในวันที่รับเงิน 2 ล้าน ทำไมถึงต้องเซ็นสัญญา โมบอกว่าหนูไม่ค่อยมีความรู้ คนที่เขามาโอนเงินให้ก็เป็นผู้ใหญ่ฝั่งนั้น เขาเอาสัญญามา หนูลองอ่านแล้วมันโอเค เราไม่ได้คิดว่าจะแฉอะไรเขาอยู่แล้ว คิดว่าเซ็นไปก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เลยเซ็น สัญญาอีกฝ่ายเป็นคนเตรียมมา โดยเป็นการนัดออกมาเจอกัน ยืนยันว่าไม่เคยมีข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักฐานกับเงิน

กับเรื่องข้อมูลต่างๆ ที่ไปออกในเพจดังเพจนึง ที่บอสเคยบอกว่าโมอาจจะไม่ได้เป็นคนส่ง แต่ข้อมูลทั้งหมดโมน่าจะเป็นคนส่งไปให้คนอื่น และคนอื่นส่งไปให้เพจ?

โมก็ว่า ไม่จริงค่ะ สิ่งที่หนูมีมันอยู่ที่เขาก่อน ก่อนที่หนูจะมี แปลว่าเขาก็มี แต่กลายเป็นหนูเป็นคนปล่อยคนเดียว ซึ่งหนูไม่ได้ปล่อยค่ะ และไม่คิดว่าคนใกล้ตัวจะเป็นคนปล่อยเพราะว่าทุกคนรู้เรื่องนี้และรู้ว่ามีสัญญาตรงนี้ รู้ว่าถ้ามีอะไรจะโดนฟ้อง 20 ล้าน หนูไว้ใจคนในครอบครัวหนูค่ะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image