‘โบว์ เมลดา’ เปิดใจหลังมีกระแสชมเหมาะเป็น ‘สโนว์ไวท์’ รับก็สวยจริง แต่ยังห่างไกลกัน
กลายเป็นกระแสฮือฮาอย่างมาก หลังจากที่นางเอกสาว โบว์ เมลดา ได้ร่วมพากย์เสียงสโนว์ไวท์ในเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งทำให้ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนๆ และสื่อมวลชนในต่างประเทศอย่างล้นหลาม โดยล่าสุด (28 มี.ค.) โบว์ได้มาร่วมงาน บวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ “อนงค์ 2” ณ ลานหิน อเวนิวรัชโยธิน ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
รู้สึกยังไงที่คนแชร์กันสนั่นว่าเราคือเหมาะสมกับการเป็นสโนว์ไวท์ที่สุด?
“คือเห็นข่าวแล้วก็แบบ ถามจริงแหละ แต่เราก็สวยจริงแหละ ต้นฉบับอ่ะเขาก็คือเสียงโหดมาก คือถ้าได้ฟังอ่ะเสียงเขาคือโหดมากจริงๆ คือหนูอ่ะแค่ตอนพากย์ คือเราก็รู้สึกว่าเราจะไปได้ถึงเขายังไง แล้วเขาก็จะเสียงใสมากๆ”
หลายคนชมว่าเราครบเครื่อง?
“อันนั้นก็จริง แต่ว่าเรื่องสโนว์ไวท์ในเวอร์ชั่นนี้เขาทำให้คนเห็นว่า คนเราไม่จำเป็นจะต้องมองกันที่ภายนอก คือเรเชลเขาก็เป็นคนที่น่ารักมากๆ อยู่แล้ว ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง แต่ว่าเรื่องนี้เขาจะเล่นตรงที่ว่าสวยจากภายในสู่ภายนอก นิสัยก็ดี หน้าตาก็ดี“
คิดไหมว่ามันจะเป็นกระแสขนาดนี้?
“หนูไม่คิด คิดแค่ว่าคนไทยด้วยกันซัพพอร์ตกันเองก็โอเคมากๆ แล้ว (หน้าตาก็ได้ ทรงผมก็ดี ร้องเพลงก็ผ่าน?) น่าจะผ่านไทยแต่ว่าไม่ผ่าน ตม.ต่างประเทศ (หัวเราะ)”
หลายคนบอกว่าต้องไปแคสต์เป็นสโนว์ไวท์แล้วแหละ?
“ดีใจค่ะ ขอบคุณนะคะทุกคนที่ให้ความคาดหวัง แต่หนูห่างไกลกันเหลือเกิน มันไกลเกิน (ถ้ามันมีโอกาส?) ที่พูดกันเองยังไม่รู้เรื่อง จะไป Speak English”
รู้สึกยังไงที่ต่างประเทศเขาสปอยล์เรา?
“ก็รู้สึกดีอยู่แล้ว ก็รู้สึกดีที่ชื่นชม ก็ไม่ได้กดดันแต่รู้สึกว่าต้นฉบับเขาทำได้ดีมากๆ แล้วเราในฐานะนักแสดง เรามองว่าตัวเขามาในเวอร์ชั่นที่มันค่อนข้างใหม่ แล้วมันค่อนข้างปัจจุบันด้วย ก็ไม่ได้รู้สึกว่าการที่เขาเป็นนักแสดงในเรื่องนี้แล้วมันไม่เหมาะสม หนูว่ามันเหมาะสมกับเขาแล้ว”
คิดไหมถ้าเป็นเราจะเป็นยังไง?
“สโนว์ไวท์น่าจะเป็นภาคอีสาน แบบนั้นน่ะอาจจะรับเอามาพากย์ไทย“
คือคำชมมันมาถึงช่างแต่งหน้าว่าทำถึง ทำเหมือน?
“คือทุกวันนี้เขาโดนล้ออยู่นะ คือถ้าหนูมีลูกแล้วลูกบวชหนูก็ยังล้ออยู่ ‘นี่มันช่างไทยดังไกลฮอลลีวู้ดเลยนะ’ ทุกวันนี้นางก็บอกอย่าพูดเลย โหนี่เขาไม่ให้คิวแล้วนะ คือหนูเป็นคนที่ไม่ชอบแคสต์งาน เพราะเวลาแคสต์งานแล้วเราไม่ได้ เราก็จะรู้สึกเสียใจ แต่พอคราวนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นงานที่อยากทำก็เลยลองไปแคสต์ คือวันที่ไปแคสต์ แค่ได้ฟังเพลงเท่านั้นแหละ หนูบอกน้องผู้จัดการเลยว่ากลับเลยไหม ยากมาก มันยากมากๆ แล้วเราก็รู้แล้วแหละว่ามีคนอื่นมาแคสต์ด้วย คือคนอื่นเขาก็เหมาะสมเหมือนกัน แต่ว่าเราก็พยายามให้เต็มที่ ครูเขาก็เค้นให้เราด้วย เน้นเสียงพอได้พอให้ตรงกับเสียงคุณเรเชล ซึ่งกว่าจะได้เข้ารอบก็หนักอยู่เหมือนกัน เพราะว่าเราไม่ได้ฟังเพลงมาก่อน ก็ฟังเพลงตรงนั้นพากย์ตรงนั้น คือทุกอย่างใหม่ 100% มาเริ่มใหม่ข้างหน้านั้นเลย”
พี่อาเล็กบอกว่าเราไปพากย์ให้เขาฟังบ่อยๆ?
“ก็เหมือนเรามาเล่าให้เขาฟังว่า พี่เล็กวันนี้ไปอัดอันนี้มายากมากเลย แต่มีอันนึงน่ารักมากเลย (ก็ร้องให้ฟัง) นางก็จะแบบหูย”
ล่าสุดเขาติดคำพูดเรามาคำว่า ห่ำหั่น เป็น..?
“คือจากที่หนูได้รับสารมาจากเขา ไม่ได้ติดมาจากหนู เขาเป็นแบบนั้นเอง และสิ่งที่เขาพูดออกมาคือคุณพ่ออ่ำ อัมรินทร์ เขาก็พูดเล่นกันในกองว่าละครเนี่ยเป็นละคร ห..นั่นแหละครับ พ่อเขาจะพูดประมาณนี้ แล้วนักแสดงก็จะติดกันมา ตอนโปรโมตละคร”
รู้สึกยังไงที่เขาให้เครดิตเรา?
“มันคงจะเริ่มจากคำว่าดอย…แหละเนาะ หลังจากนั้นก็ยาวเลย ดอยสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังๆ ก็เริ่มลงดอย เริ่มลงต่ำแล้ว”
มีการพูดภาษาแสลงกันบ่อยไหม?
“บ่อยเลยค่ะ จริงๆ ก็อยู่กันเหมือนคบกันแบบเป็นเพื่อนกันไปแล้ว“
กลัวไหมว่ามันจะมาหลุดในสาธารณะ?
“ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว มันหลุดไปแล้ว หลุดบ่อยค่ะ คนน่าจะรู้จักตัวตนเราประมาณนึงแล้ว นักแสดงก็คือคน อยากเห็นนักแสดงเรียบร้อยก็ไปดูคนอื่นนะฮะ ฝั่งนี้เราเป็นตัวของตัวเองไปแล้ว สบายๆ”