ลิลลี่ เล่าเจอดราม่าหนัก จนเกือบถอดใจจากวงการ เล็งอาชีพเสริมหาเงินจากคอมเมนต์ด่า

ลิลลี่ เล่าเจอดราม่าหนัก จนเกือบถอดใจจากวงการ เล็งอาชีพเสริมหาเงินจากคอมเมนต์ด่า

นักร้องสาว ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ ลิลลี่ นารีนาท เชื้อแหลม มาเผยถึงเรื่องราวชีวิตส่วนตัวและเส้นทางในวงการบันเทิง ตั้งแต่เพลงดัง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ที่เปลี่ยนชีวิต ต้องเผชิญหน้ากับการถูกคอมเมนต์บูลลี่แรงๆ และการเติบโตเป็นศิลปินเดี่ยว รวมถึงแพลนในอนาคต ในรายการ เบิ้ล AM

ตอนนี้สวยขึ้นมากเลย ลิลลี่เป็นคนที่ผ่านการโดนบูลลี่มาเยอะมาก ๆ ผ่านดราม่ามาเยอะมาก เคยมีจุดที่เสียใจที่สุดในชีวิตไหม แบบร้องไห้คนเดียว ?

“ร้องไห้คนเดียวก็มีบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะมีเซฟโซนไว้ร้องไห้โดยเฉพาะเลย ก็คือครอบครัวค่ะเป็นพื้นที่ปลอดภัย”

ADVERTISMENT

ผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ยังไง?

“หนูก็คุยกับพี่เจน และครอบครัวเป็นส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นคนที่ให้พลังบวก”

ADVERTISMENT

ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว ?

“21 ค่ะ”

 ย้อนกลับไปตอนเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ยอดวิวพุ่งชั่วข้ามคืน จากเสียงเด็กคนหนึ่งที่ยังไม่มีใครรู้จัก เรียกว่าเพลงนั้นเปลี่ยนชีวิต ?

“ใช่ค่ะ เปลี่ยนเลย เปลี่ยนหนักมาก เปลี่ยนทุกด้านเลยค่ะ”

ตอนนั้นทัวร์คอนเสิร์ตกี่ปี ?

“หนูทัวร์แค่ปีเดียวค่ะ เพราะว่าโควิดเข้ามา ถ้าเกิดไม่มีโควิดคิวงานยาวไป 2-3 ปีเลย หนูเสียดายมากที่สุดค่ะ แล้วตอนนั้นอยู่กับค่ายพี่เจนทำรายการ ยูทูบ อยู่ หนูก็ไปช่วยบ้าง งานร้องเพลงก็มีบ้างแต่เข้มงวดมาก ทำอะไรก็ยากค่ะ”

แล้วพอเข้าวงการบันเทิงจริง ๆ รู้สึกว่าเราอยู่กับมันได้ไหม ชอบมันไหม ?

“แรกๆ หนูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ เพราะคิดว่าตัวเองยังเด็ก แล้วก็ยังทำตัวไม่ถูก กลัวดราม่า หลายๆอย่างที่หนูคิดไม่ถึงเยอะมาก ด้วยอายุของเรา 15 ปี หนูโดนดราม่าครั้งแรกคือ เรื่องพี่จินตรา ตอนนั้นกับ พี่คิง ก่อนบ่าย แกบอกว่าหนูก็หน้าตาเหมือนพี่แหล่ะ แต่ว่าวันนั้นแกใส่วิกพี่จินตรามา แล้วหนูก็แซวกับพี่คิงว่าไม่ได้อยากหน้าตาเหมือนพี่คิง เพราะเราก็สนิทกับพี่เขาอยู่ด้วยตอนนั้น คนก็จับโยงดราม่าว่าดูถูกพี่จินตราเหรอ หนูโดนหนักมาก”

แล้วเราเคยโดนบูลลี่หนักสุดคือเรื่องอะไร ?

เรื่องหน้าตากับส่วนสูงค่ะ คือหนูก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ถ้ามองย้อนกลับไปมองตัวคนที่เข้ามาคอมเมนต์มาว่าเรา จริงๆ ปัญหาในชีวิตเขาเองก็ยังมีเยอะมาก แต่ว่ายังไม่จัดการกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาเองเลย มองแค่ว่าการมานั่งว่าคนอื่น บูลลี่คนอื่น ด่าคนอื่นคือความสุขของเขา ได้ด่าแล้วสะใจมันไม่ใช่เลย ถ้าเป็นหนูเกลียดใครหรือไม่ชอบใคร เราจะเลื่อนผ่าน จะไม่ไปคอมเมนต์ทั้งๆที่เราไม่เคยเจอเขาเลย เพราะการที่เขามาคอมเมนต์มาให้ค่าเรา ยิ่งมีคนให้ความสนใจเราเยอะ งานก็เข้ามาหาหนูเยอะ นั่นคือคุณกำลังเพิ่มความสนใจให้กับหนูอยู่”

เคยคิดจะฟ้องไหม ?

“ตอนนี้จะฟ้องแล้ว เพราะอยากเอาเงินมาดาวน์รถ จะทำอาชีพเสริมแล้วคือฟ้องคอมเมนต์”

เคยได้ยินไหมคำพูดที่ว่า ดังได้ก็เพราะพี่สาว ถ้าไม่มีพี่สาวก็คงไม่ดังหรอก ?

“เคยค่ะ หนูไม่รู้สึกอะไรเพราะมันเป็นเรื่องจริง เพราะว่าหนูก็ดังได้เพราะพี่เจน ถ้าวันนั้นพี่เจนไม่เรียกหนูมาบอกว่าร้องท่อนนี้ให้พี่ฟังหน่อย แล้วพี่เจนมองว่าเหมาะกับหนูก็คือให้หนูทำเลย”

ในวัย 21 ปี ลิลลี่มีไหมว่าอยากมีแฟน อยากมีครอบครัวแบบพี่เจนนี่ไหม ?

“ตอนนี้ยังไม่อยากมีค่ะ ตัวหนูเองยังไม่รอดเลย (หัวเราะ)”

มีแฟนยัง ?

“ก็มีคุย ๆ ค่ะ แบบดารา (หัวเราะ)”

มีสเปคไหม ?

“จริง ๆ ก็สูงหมดแหละค่ะ เพราะว่าหนูเตี้ย (หัวเราะ) คือรู้สึกว่ายังเด็กอยู่ การที่คนๆหนึ่งจะมาคุยกับเราได้ ต้องเข้าใจ เราทำงานส่วนใหญ่เลย กลางคืนหนูไม่ว่างต้องไปทำงาน แล้วก็ไม่มีเวลาให้”

ลิลลี่เป็นน้องเล็กของบ้าน ถูกตามใจไหม ?

“แม่ตามใจค่ะ เพราะว่าเราเป็นน้องเล็ก จำได้คือหนูอยู่ทุกช่วงของพี่เจน หนูพี่เจนมาตลอด มีพี่เจนเป็นแม่อีกคน ทั้งแม่ ทั้งพี่เจนตามใจหมดเลยค่ะ”

อะไรที่ทำให้ลิลลี่โตขึ้นในวันนี้ กลายมาเป็นเราในปัจจุบัน ?

“สิ่งแรกคือครอบครัวค่ะ รองลงมาคือโซเชียล แล้วก็ประสบการณ์ที่เจอจากหลายๆ อย่างมา ก็เลยต้องยอมรับมันให้ได้”

ช่วงที่เครียดสุด ๆ เคยคิดว่าไหมว่าไม่อยากอยู่ในวงการแล้ว ?

“เคยคิด (แล้วอะไรทำให้ยังอยู่ต่อ?) ตังค์ค่ะ (หัวเราะ)”

ตอนนี้อยากทำอะไรอีกบ้าง ?

“อยากทำโรงแรม อยากทำรีสอร์ทค่ะ เหมือนแบบศิลปินเราอย่างนี้เวลาเจ้าภาพเขาติดต่อห้องพักให้ศิลปินไปแต่งตัว หนูรู้สึกว่ามันมีผลแล้วก็สำคัญกับพวกเราเยอะมาก แล้วไม่ใช่แค่พวกเราคือคิดส่วนตัว เหมือนคนอื่นเดินทางอะไรแบบนี้ คิดว่าโรงแรมติดถนน เขาเหนื่อย เขาพัก เลยรู้สึกว่าเราอยากทำเพราะว่า เหมือนทุ่งสงที่หนูอยู่ตอนนี้มันเป็นทางผ่านเยอะด้วย คืนละ 500-600 แค่นั้นเลย เป็นความคิดกำลังหาเงินอยู่”

โมเมนต์ครั้งแรกที่ขึ้นเวที แล้วร้องเพลงที่ดังกว่าตัวเอง รู้สึกยังไง ?

“รู้สึกตื่นเต้นค่ะ ตื่นเต้นผิดปกติ เสียงก็สั่น เจอดราม่าหนักด้วย เพราะว่าเสียงที่เราร้องไม่เหมือนเสียงที่เขาฟัง เจองานแรกคนเยอะมาก หนูโดนด่าไปเยอะเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ยังอยู่”

แล้วตอนนี้เวลาขึ้นเวทีอีกครั้ง รู้สึกต่างจากตอนนั้นไหม ?

“แตกต่างมากค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้จะมีคนส่งมุกให้เราเล่น ถ้าเรานิ่ง พี่เจนจะคอยแทรกทันทีก็เลยรู้สึกสบายใจมากขึ้น ยากมากๆ ทุกวันนี้หนูก็ยังทำได้ไม่ดี ปีนี้มีแพลนว่าจะทำเพลง เหมือนเราโตขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว จะทำช่องยูทูบ เป็นของตัวเองมีการปรึกษากับพี่เจนเบื้องหลังด้วย”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image