‘เจสซี่’ ไม่เจอปัญหา ปมไม่จ่ายเงินรางวัล เผยเหตุไม่ลงประกวด MUT2025 ลั่นถ้าเปลี่ยนกฎก็เจอกัน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนางงามที่แฟนๆ ต่างคาดหวังให้ลงประกวด miss universe thailand อีกครั้ง สำหรับเจสซี่ กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์ รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2566 ซึ่งในปีนี้แฟนๆ นางงามก็ยังคงจับตาลุ้นว่าเจสซี่จะลงมาประกวดหรือไม่ ล่าสุดเจสซี่มาร่วมงานแถลงข่าว Eucerin No.1 Brightening Solution in Thailand ณ บล็อกไอ สยามแสควร์ ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
ตอนนี้เป็นไงบ้าง?
“ดีนะคะ ดีค่ะ เพิ่งถ่ายพรีเซ็นเตอร์ไปล่าสุด อาทิตย์ที่แล้ว ก็รอดูนะคะ”
ตอนนี้เห็นงานค่อนข้างแน่นเลย?
“ใช่ ก็ดีนะคะ มันแบบสภาพจิตใจดีขึ้น ทำอะไรมันก็ดีขึ้น งานก็มีเรื่อยๆ แต่มีได้อีก”
ถามดราม่านิดนึง เพราะที่ผ่านมาเวทีที่เราประกวดมันมีดราม่าในเรื่องของการจ่ายค่ารางวัล เจสซี่เคยเจอประสบการณ์นี้ไหม?
“จริงๆ เจสซี่ไม่เคยเจอนะคะ เพราะเจสซี่มีทีมทนายแล้วก็มีทีมฝั่งผู้จัดการ ซึ่งพวกเราจะป้องกันเคลียร์ก่อนอยู่แล้ว ไม่มีที่เว้นให้ไม่เข้าใจกัน ทุกฝ่ายชัดเจนกันดี และฝั่งเจสซี่ก็ชัดเจนตั้งแต่หลังหักแล้วว่าเรามีหน้าที่ๆ เราจะต้องจ่ายค่าปรับ เพราะเจสซี่เซ็นสัญญาว่าถ้าไม่ชนะแล้วไม่อยากอยู่กับทางนั้นก็ต้องจ่าย ทางเจสซี่เข้าใจ ทางเขาก็เข้าใจ แล้วก็ด้วยอุบัติเหตุที่ผ่านมาเจสซี่ก็ทำตามหน้าที่ ให้เกินไปด้วย เพราะว่าเพื่อให้จบได้ดี ก็เลยไม่มีปัญหาอะไรกันเลย”
อย่างเจสซี่ใช้คำว่าเหลือๆ คือหมายความว่าจ่ายเกิน?
“เหมือนมีบ้าง อาจจะต้องถามทางทนายอีกที เหมือนงานที่อาจจะค้างอยู่มั้ง ก็ตัดจบไปเลย เพราะเจสซี่เป็นคนที่ไม่อยากมีปัญหากับใครและอันไหนที่มันจบได้ง่ายๆ เจสซี่ก็อยากให้มันจบได้ง่ายๆ และให้ทุกฝ่าย แฮปปี้”
ที่เราจ่าย ทุกอย่างก็จบด้วยดี ไม่มีปัญหาตามมา?
“ฝั่งเจสซี่ไม่มีปัญหาอะไร”
ก่อนที่เราจะตกลงขอยกเลิกสัญญาเรื่องการจ่ายเงินรางวัลพิเศษ เขาได้มีการพูดคุยก่อนไหม?
“ส่วนตัวเจสซี่ได้รับนะ”
คือไม่มีปัญหาว่าติดจ่ายอะไรเลย?
“ไม่ค่ะ แล้วมันก็นานมากแล้ว มันจบแล้ว เพราะว่าเจสซี่จำได้กับทีมเจสซี่ว่ามันจะทำให้เป็นระบบ จะไม่ให้ทั้งสองฝ่ายมีที่ในช่องโหว่ที่จะไม่เข้าใจกัน ดังนั้นเจสซี่ก็จ้างทนายให้ทนายยื่นเอกสารไปเป็นระบบอย่างชัดเจนเลย เพราะเจสซี่เป็นคนอย่างนั้นอยู่แล้ว”
พอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้เราสองจิตสองใจว่าเราจะลงประกวดหรือไม่ลงประกวด?
“ไม่เกี่ยวเลยค่ะ เจสซี่อยากลงประกวดนะ เจสซี่อยากลงมากๆ ด้วย ดังนั้นเรื่องที่ผ่านมาไม่มีอะไรที่จะทำให้เจสซี่ไม่ประกวด อาจจะเป็นทางกฎมากกว่าที่ไม่ให้”
เหมือนหลายคนรู้สึกว่าเราผิดหวัง หรือเปล่า หรือว่าเราเสียใจกับสิ่งที่มันไม่น่าจะเกิด?
“ไม่ผิดหวัง ไม่เสียใจค่ะ ชีวิตมูฟออน อย่างที่เราเห็นกันตอนนี้ก็โอเค”
พอย้อนกลับไปวันที่เราได้ตำแหน่งเสร็จปุ๊บแล้วคิดไหมว่าเราจะกลับมา?
“อยู่แล้วค่ะ จริงๆ ปีนี้ว่าจะมาด้วยซ้ำ”
หลังจากที่เปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์เจสซี่รู้สึกยังไงบ้าง?
“ก่อนอื่นต้องยินดีกับคุณณวัฒน์ที่ได้ลิขสิทธิ์ Miss Universe Thailand เจสซี่รู้สึกว่าจริงๆ การเปลี่ยนแปลงในชีวิตทุกด้านเป็นเรื่องปกติและมักจะเกิดสิ่งดีต่อมา ตอนนี้เราก็รอดูค่ะ”
แล้วตอนนี้เราคาดหวังกับรูปแบบของการจัดงาน หรือกิจกรรมของทางพี่ณวัฒน์บ้างไหม?
“เจสซี่เป็นคนที่ไม่คาดหวังอะไรเลย ดังนั้นก็จะไม่ค่อยผิดหวังเท่าไหร่”
แต่เราก็ติดตามอยู่บ้างเหมือนกัน?
“พอติดตามบ้าง ต้องบอกว่าช่วงนี้ในเมื่อหลายๆ อย่างมันไม่ลงตัว ดังนั้นทำให้เจสซี่คงปีนี้ไม่ได้จริงๆ ถ้าเจสซี่ไม่ได้อยู่ในวงการอะไร เจสซี่จะไม่ค่อยเอาตัวเองไปยุ่งเท่าไหร่ ด้วยนิสัยส่วนตัวนะ เพราะว่าเราให้พื้นที่กับสิ่งที่เรา เจสซี่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้น แล้วก็เก็บความทรงจำไว้ คนที่รักเจสซี่ก็เก็บไว้ ถ้ามีโอกาสได้ดูก็จะดู แต่ว่าถามว่ามันติดตามจริงจังไหม ก็ต้องยอมรับว่าไม่ เพราะว่าเราต้องมูฟออน คุณต้องก้าวไปข้างหน้า ถ้าเจสซี่จะมานั่งเสียใจว่ากฎใหม่ทำให้เจสซี่ประกวดไม่ได้ หรืออันนี้อันนู้น เจสซี่จะเสียใจในตัวเองว่า หรือว่าเราจะต้องยกเลิกงานทั้งหมดที่มาจ้างเรา ซึ่งก็ไม่ ก็เลยรู้สึกว่า เส้นทางที่เจสซี่เดินมาคงถูกต้องสำหรับเจสซี่แล้วแหละ”
แสดงว่าปีนี้ไม่มีลุ้นเลย?
“ถ้าเปลี่ยนกฎก็เจอกัน”
หลายคนมองว่าเราจะกลับมาปีนี้ด้วยความที่ยูนิเวิร์สมงใหญ่ครบรอบ 74 ปี?
“อาจจะแค่ลงตัวประมาณนั้นมากกว่า เจสซี่เชื่อว่าถ้าคนจะชนะจะ 74 หรือ 75 หรือ 76 ก็ชนะได้”
กฎอะไรที่ทำให้ไม่สามารถกลับมาได้?
“เท่าที่เจสซี่เข้าใจที่ทางผู้ใหญ่แจ้งมาก็คือ ห้ามติดพรีเซ็นเตอร์ แต่เราติดไง (ยิ้ม)”
แสดงว่าเรายังมีไฟในการที่จะลง?
“เจสซี่มีไฟอยู่แล้ว ถ้ากฎเปลี่ยนพรุ่งนี้เจอกันเลย”
แฟนนางงามเขามองว่าจริงๆ แล้ว เรากลัวในเรื่องของการขายของหรือเปล่า พอมันมาเป็นพี่ณวัฒน์ถือลิขสิทธิ์?
“ไม่กลัว วันนี้เจสซี่ก็มาขายของ อาทิตย์ที่แล้วก็ถ่ายพรีเซ็นเตอร์ไปก็ขายของ แล้วก็เหมือนจะเก่งด้วยนะ เพราะว่าก็มีงานขายของมาตลอด”
แต่ว่าเราติดแค่ข้อเดียวก็คือพรีเซ็นเตอร์ที่เรารับไว้ก่อนหน้านั้นตามสัญญา?
“ไม่ได้เรียกว่าติดละกัน แต่ว่าเป็นข้อจำกัดที่ทำให้เราไม่สามารถลงประกวดได้ แต่ติดไหม ไม่ค่ะ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลของเขาว่าทำไมต้องสร้างกฎนี้มา ก็ไม่ทราบ แต่ว่าเคารพแล้วกัน”
เรามองยังไงพอมันเปลี่ยนผ่านมาเป็นยุคของบอส ณวัฒน์?
“ไม่ได้นึกอะไรเลย เอาตรงๆ นะ ดูความเป็นจริงมากกว่า ไม่ได้นึกถึงอดีต ไม่ได้นึกถึงว่าจะออกมาเป็นยังไง ดูไปพร้อมๆ ทุกคน แค่นั้นเลยจริงๆ”
แสดงว่าถ้าปีนี้เราเคลียร์ทุกอย่างให้มันจบตามสัญญา ปีหน้าเราจะลง?
“โอ้โห เจสซี่ว่ายากค่ะ เจสซี่ว่าการที่เจสซี่จะเคลียร์สัญญา ยาก เพราะว่าเจสซี่มีความสุขในการทำงาน เจสซี่มีความสุขในการขายของในแบบพรีเซ็นเตอร์ แล้วก็มันเป็นอาชีพของเราอยู่แล้ว เหมือนว่าเจสซี่ไม่ได้เป็นคุณครู หรือเป็นคุณหมอที่มาประกวดได้แล้วยังกลับไปทำอาชีพนั้นอยู่ อันนี้คืออาชีพหลักของเจสซี่เลย ดังนั้นคงไม่ทิ้งไปไหน ถ้าอยากได้เราจริงๆ หรือเห็นศักยภาพของเราจริงๆ เดี๋ยวมันก็มีวิธีเองนั่นแหละ”
เส้นทางนางงามของเรามันเป็นยังไง ณ วันนี้?
“เพิ่งเริ่มเองค่ะ เจสซี่ก็อายุ 26 อย่างที่เจสซี่เคยบอกผู้หญิงสวยสุด 27 (ยิ้ม) เจสซี่ แฮปปี้ค่ะ แล้วก็สุขภาพดี เฮลตี้ ดูอนาคตอย่างเดียว วันต่อวันเลย”
เราคิดว่าถ้าต้องมานั่งปักตะกร้าขายของในติ๊กต็อก เราสามารถทำได้ไหม?
“ไม่ติดค่ะ เพราะว่าจะทำธุรกิจของตัวเองด้วย ก็ฝากด้วยนะคะ เพราะคงจะต้องนั่งปักตะกร้าเหมือนกัน”
แสดงว่าความเป็นนางงามยังอยู่ในตัวเรา?
“เจสซี่คิดว่าการเป็นนางงามมันไม่หายไป คือมันไม่ใช่แค่ลุค คนชอบบอกว่าลุคเป็นนางงาม ลุคเป็นนางแบบ หรือเป็นนางเอก แต่เจสซี่เชื่อว่าการที่เราเป็นนางงาม มันคือข้างใน มันไม่ใช่ภายนอก ดังนั้นก็ขอบคุณแล้วกันที่คนบอกว่าเหมาะ”
แฟนนางงามเขายังนึกอยู่ว่าเราจะมา?
“เจสซี่เชื่อนะว่าวันหนึ่งมันจะต้องเป็นของเรา จริงๆ มันจะรู้สึกอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่ากฎจะเป็นยังไง แต่ว่าเจสซี่เชื่อว่าเส้นทางที่มาถูกต้องแล้วละกัน ไม่เสียใจอะไร ไม่อยากกลับไปแก้อะไร ตอนนี้เจสซี่ก็แฮปปี้กับการมีพรีเซ็นเตอร์เข้ามา ดังนั้นรอ คือเพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสมที่จะมาถึง ถ้ามันใช่มันจะใช่”
คือแฟนนางงามก็สามารถซัพพอร์ตเราได้ต่อไป เพราะเขาก็เชียร์เต็มที่?
คืออยากให้ซัพพอร์ตเจสซี่ในตัวเจสซี่จริงๆ ไม่ใช่แค่ในบริบทนางงาม เพราะว่าสุดท้ายแล้วประกวดนางงามมันแค่ปีเดียว คนมงคนเดียว แต่หลังจากนั้นนางงามจะมาทำอะไรต่อ เจสซี่ก็หวังว่าแฟนคลับ หรือเพื่อนๅ พี่ๆ ที่ชอบเจสซี่จะติดตามในทุกๆ บริบท เพราะนางงามมันแป๊บเดียวจริงๆ 2 เดือนจบแล้ว แต่อาชีพเรามันนาน”
แสดงว่าปีนี้สวยปีหน้าสวยกว่า?
“กว่า” (ยิ้ม)
เรื่องที่ไปออกรายการเอิ้ก ชาลิสาเป็นยังไงบ้าง ได้ดูมีมไหม?
“เอาจริงๆ นะ ถ้าคนรู้จักเจสซี่ เจสซี่เป็นคนตรง เหมือนที่เราพูดเรื่องสัญญากันก็จะตรง พี่เขากินอย่างเดียว แล้วเจสซี่มีความสุขนะตอนที่ไป เพราะว่าปกติเจสซี่ไปออกรายการก็จะถามเรื่องที่มันลึกหน่อย แต่ไปรายการพี่เขาไม่มีอะไรลึกเลย ไม่มีอะไรเลย ทานไปด้วยคุยกันไปด้วย แล้วก็ถ่ายกล้องไอโฟน คือมันชิลมาก รู้สึกว่าท่านั่งเจสซี่ก็ชิล การแต่งกายก็ชิล แต่ว่าชอบนะคะ รู้สึกว่าบางทีคนอาจคิดว่าเราจริงจังมาก เพราะว่าหน้าเราดูซีเรียส แต่เราไม่ได้ซีเรียสตลอดเวลา แล้วแต่บริบท”
เราได้กินอาหารบนโต๊ะวันนั้นไหม?
“กิน แต่เจสซี่กินมาจากบ้านแล้ว คือวันนั้นไม่ได้นัดอะไรกันเลย คือพี่ที่มาช่วยเจสซี่ถ่ายติ๊กต็อกเหมือนสนิทกับบ้านทางพี่หิ้วหวี แล้วเหมือนผู้จัดการก็ให้ไป พี่เขาก็แค่มารับแล้วก็ไป หลังจากนั้นก็เหมือนไปทานข้าวกันต่อด้วยซ้ำ”
ตอนเราพูดไป รู้สึกไหมว่ามันช็อตฟิล?
“เจสซี่ไม่ได้ตั้งใจช็อตใคร เจสซี่ไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น คือใครจะพูด พูด แต่ด้วยความที่เราอาจจะคิดเป็นภาษาอังกฤษว่า Really? เจสซี่ทราบว่าพี่เขาไม่ถนัดภาษานั้น มันก็เลยแปลไปในหัวว่าแบบจริงเหรอ? มันอาจจะดูแรง แต่ว่าเราโอเคกันทุกคน ไม่ใช่ดราม่า เรามีความสุขกัน มันน่ารักดี”
หลายคนถามว่าท็อปปิคในวันนั้นคุยเรื่องอะไรกัน?
“ไม่มีบรีฟอะไรมาเลย เจสซี่นั่งลง พี่เขาไม่ถามเจสซี่ด้วย แล้วเริ่มเลย แล้วกดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เจสซี่ดูตัวเอง ตอนถ่ายคลิปเหมือนจะเอาขาขึ้นมา แล้วเสื้อมาพันหรืออะไรสักอย่าง เพราะว่าเจสซี่ไม่รู้จริงๆ ว่าเริ่มคลิป-จบคลิปเมื่อไหร่ คืออันนั้นคือตัวตนที่แท้จริงเลย”
ฝากธุรกิจ?
“ก็ฝากด้วยนะคะ เพราะว่าเหมือนอยากมีบทบาทใหม่บ้าง นักธุรกิจสาวอะไรอย่างนี้ เราทำได้ทุกอย่างจริงๆ (เปิดเผยได้ยัง?) ยัง ช่วงนี้ก็ทำงานรับงาน แล้วก็มีคุยเรื่องนี้อยู่ ก็ฝากด้วย”
