อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจนาทีช้ำ เจอคาตา พระเอกภาพดีลงจากคอนโด บอกคนใหม่มีปัญหากับนางเอก

อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจนาทีช้ำ เจอคาตา พระเอกภาพดีลงจากคอนโด เคยเล่าปัญหากับแฟนนางเอก

อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจแฉ พระเอกภาพลักษณ์ดีตีท้ายครัว เจอคาตาลงจากคอนโด มีคลิปเสียงในรถ อยากให้พระเอกสารภาพเรื่องนี้กับแฟนนางเอก อย่างน้อยเขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ส่งข้อมูลให้ผู้จัดการนางเอกแล้ว

หลังจากมีข่าวร้อนในวงการบันเทิง ล่าสุด อดีตแฟนหนุ่มของฝ่ายหญิง เปิดเผยกับ ข่าวสดบันเทิง ถึงประเด็นร้อนนี้ อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจว่า จุดเริ่มต้น เมื่อต้นปี 67 แฟนผมไปเป็น MC งานเปิดตัวร้านในห้างหนึ่ง วันนั้น พระเอก มาในฐานะแขกรับเชิญที่ร้านเชิญไปร่วมงานเปิดตัวด้วย

หลังจากจบงานนั้น เขาก็ทักดีเอ็มมาในไอจีส่วนตัว ผมเห็นข้อความทุกอย่าง เพราะแฟนก็เล่าให้ฟัง ทักมาประมาณว่า แฟนผมทำงานเกี่ยวกับเรื่องต่อบทมั้ย มีความรู้เรื่องกองละครหรือเปล่า อยากให้มาช่วยงานหน่อย เพราะตอนนี้เขาไม่มีคนที่จะมาช่วยต่อบท ซึ่งตอนนั้นแฟนผมติดงานอื่นที่รับไว้ล่วงหน้าก็เลยไม่ได้ไป ห่างหายไปสักพัก แต่มีการติดต่อมาเรื่อยๆ แซวบ้างอะไรบ้าง ผมไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่มีเชิงชู้สาว เป็นเรื่องงานส่วนใหญ่

ADVERTISMENT

จนเมื่อปลายปี 67 แฟนมาปรึกษาว่าจะไปทำงานมอเตอร์โชว์ หรือไปทำงานกับฝั่งพระเอกดี ผมให้คำแนะนำว่า งานมอเตอร์โชว์ต่อเนื่องไม่ได้ ถ้าไปทำกับผู้จัดการของพระเอก มีเรื่องกองละคร น่าจะระยะยาวมากกว่า จำนวนเงินได้เยอะกว่าด้วย ผมก็เลยบอกว่าทำตรงนี้ดีกว่า

แฟนเริ่มไปทำงานช่วงต้นม.ค.68 ช่วงที่แฟนเริ่มมีพฤติกรรมแปลกไป กลางเดือนมี.ค.68 เขาทำกับผมไม่เหมือนเดิม ผมก็คิดในแง่ดีว่าเขาทำงานหนักขึ้น งานกองละครมีไปค้างต่างจังหวัดด้วย บางทีเขาก็ต้องไปค้างคอนโดเพื่อนที่อยู่ใกล้กับบ้านผู้จัดการพระเอก

ADVERTISMENT

“มันมีดีเทลบางอย่างที่เขาทำกับผมไม่เหมือนเดิม พฤติกรรมแปลกๆ ผมเริ่มสังเกตขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นเลย แฟนผมดูแลเอาใจใส่ดีมาก พอมันหายไปนิดนึงผมจะรู้เลย เขาแปลกไป ผมก็ถามเขาตรงๆ เลย มันแปลกขึ้นไปทุกที ถามไปตรงๆ ว่า เธอมีคนเข้ามาหรือเปล่า เขาก็เคยเล่าว่ามีนักบอลมาจีบ เขาก็ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่มีอะไร”

อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจว่า วันที่ 6 เม.ย.68 เขาบอกจะมาหาผม จะถึงคอนโดประมาณตีสาม วันนั้นผมก็ดู find my phone ทั้งวัน ปกติเขาจะรายงานผมตลอดว่าอยู่ไหน ก่อนจะกลับไปคอนโดเพื่อน เพื่อไปเก็บของแล้วจะมาหาผม เขาพูดไม่ตรง เขาบอกกำลังจะไปกินข้าว แต่ผมเห็น find my phone มันไปหยุดที่คอนโดเพื่อนเขาตอนเที่ยงคืนกว่า ผมรอจนตีหนึ่งกว่า ผ่านไปตีหนึ่งครึ่ง เขาบอกกำลังจะออกจากร้านข้าวแล้ว แต่ผมเห็นเขาไปหยุดตรงคอนโดเป็นชั่วโมง ผมก็นั่งแท็กซี่ออกไปรออยู่ล็อบบี้ด้านล่าง

ตอนแรกผมไม่คิดว่าเป็นพระเอกคนนั้นด้วยซ้ำ เขาก็มีแฟนแล้ว ไว้ใจ ภาพลักษณ์ดี ตอนที่เขาทั้งคู่ลงมาจากคอนโด 02.33 น. ผมก็เรียกชื่อแฟนผม ตอนที่เขาหันมาก็ทำหน้าตกใจ พระเอกก็เห็นผม แต่ไม่สนใจ เดินไปด้วยกันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมรู้สึกแย่มาก ผมก็วิ่งตามออกไปหน้าคอนโด เขาก็ขึ้นรถขับหนีผมออกไปเลย”

“ตอนนั้นผมทั้งตกใจ โมโห ทำอะไรไม่ถูก สับสนด้วย ก็เลยพิมพ์ไปบอกว่าถ่ายรูปไว้นะ ทั้งที่ไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะทำอะไรไม่ถูก ถ้ากลับมาคุย พูดความจริงให้หมด ไม่งั้นผมจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่แน่ ก็ขู่เขาไปเพื่อจะให้พูดความจริง”

อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจว่า ด้วยความกลัว เขาก็กลับมา สารภาพกับผมทั้งหมด แอบคุยกับพระเอกคนนั้น มีอะไรมากกว่าคุยด้วย แฟนผมอยากทำงานต่อกับพระเอก ผมก็ให้อภัย เธอพลาดไปแล้ว เธออาจจะโดนหว่านล้อม เขาเป็นดารา ผมบอกให้แฟนไปเคลียร์ ให้เขารู้ไปเลยว่าเธอมีแฟนแล้ว ผมให้เขาไปเคลียร์ พร้อมอภัยเดินต่อ เขาก็ไม่ยอมบอก เพราะเขากลัวจะไม่ได้ทำงานต่อ เขาบอกทางฝั่งพระเอกกับผู้จัดการไม่รู้มาก่อนว่าเขามีแฟน แต่ผมไม่เชื่อว่าพวกนั้นไม่รู้

“ผมมีหลักฐานตอนที่แฟนเล่าว่า พระเอกคนนั้นมาบอกว่าระหองระแหงกับแฟนนางเอก เป็นสูตรสำเร็จของผู้ชายที่ต้องการได้ผู้หญิง ระหองระแหงกับแฟน แล้วมาบอกว่าชอบแฟนผม พระเอกคนนั้นเริ่มต้นเล่าว่าแฟนนางเอกไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ พระเอกคนนั้นเอาเรื่องแฟนนางเอกมาเล่าให้ฟัง เอาปัญหาในเชิงลึกของแฟนนางเอกมาเล่าให้ฟัง ไม่มีความสุข ตะล่อมทุกอย่าง สุดท้ายมาบอกชอบแฟนผม เทคแคร์ดูแลเอาใจใส่ สุดท้ายก็เลยเถิด ผมก็ตัดขาด ถ้าเธอไม่เคลียร์ เราก็จบกันแค่นี้ รับผลที่ตามมาด้วยแล้วกัน”

“พอยท์แรกผมต้องการรู้เพิ่มเติมว่า ไม่รู้จริงๆ ใช่มั้ย ผมก็เลยโทรไปหาผู้จัดการของพระเอก เขาก็บอกไม่รู้ ผมก็ยังคิดว่าต่อให้เขาไม่รู้ว่าแฟนผมมีแฟน ตัวเขาเองก็มีแฟนของเขาอยู่ ทำไมไม่เตือนกัน ผู้จัดการพระเอกบอกว่า ไม่รู้ว่าแฟนผมมีแฟน เขาบอกเลิกกับแฟนประมาณ 2-3 เดือนก่อนจะมาทำงานแล้ว เขาบอกต่อจากนี้ทางผู้จัดการกับพระเอกไม่เกี่ยวแล้ว ไปเคลียร์กันเอาเอง เขาบอกให้แฟนผมออกจากงาน เพราะโกหก ผมก็ช็อกในคำตอบ เขาจบเรื่องนี้ภายใน 2 นาที ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว”

อยากได้รับความผิดชอบในแง่ไหนบ้าง

อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจว่า ผมอยากให้เขาสารภาพเรื่องนี้กับแฟนนางเอกของเขา อย่างน้อยเขาก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ เขาต้องกล้าบอกกับแฟนตัวเอง ทำอะไรไว้บ้าง แฟนผมก็เสียงาน ส่วนชีวิตผมก็พังไปเลย เขาก็ลอยตัว มันไม่แฟร์กับใครเลย แล้วมันยังมีคนที่ไม่รู้คือ นางเอก ที่ควรจะได้รู้เรื่องนี้ ผมส่งข้อมูลไปทางผู้จัดการของนางเอกแล้ว

“ผมต้องการให้เขากล้ายอมรับความผิดที่เขาทำครั้งนี้ เคยนอกใจแฟนตัวเอง แต่ถ้าเขาจะให้อภัยกัน มันก็เป็นสิทธ์ของทางเขาจะให้โอกาสกัน ผมแค่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ ภาพที่เขาสร้าง ส่วนหนึ่งผมไม่ได้เอะใจเลย ผมคิดว่าพฤติกรรมเขา ภาพที่เขาสร้าง แล้วเขาไม่เคยมีข่าวเรื่องผู้หญิง ผมก็ไว้ใจให้แฟนไปทำงานด้วย เขาจบ MC พิธีกรมา ทำด้านนี้ด้วย เขาก็ชอบงานกองละคร ผมก็สนับสนุนให้ไป แล้วพระเอกเขาก็ดูรักกับแฟนเขาดี มีแฟนแล้ว ถ้าเขาเป็นดาราคนอื่นที่เจ้าชู้ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่เป็นเขาด้วยก็ไม่น่าจะมีอะไร สุดท้ายมันก็เป็นแบบนี้”

ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่มีโอกาสได้คุยกับพระเอก เขาไม่มีแม้แต่จะทักมา มันควรจะต้องขอโทษผมนิดนึงมั้ยไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ ไม่มีเลย เขาให้ผู้จัดการออกหน้าหมดเลยทุกอย่าง เขาก็บล็อกแฟนผมทุกช่องทาง สิ่งที่เขาทำมันไม่แมน มันไม่เหมือนภาพที่เขาเป็นในภาพในข่าว

“ถ้าผมไม่ได้ไว้ใจทางฝั่งนั้นเลยตั้งแต่แรก มันก็คงจะไม่เกิดเรื่องนี้เลย ถามในประเด็นที่เขาไม่รู้ว่าแฟนผมมีแฟน แต่ตัวเขาเองมีแฟน ก็ไม่ควรทำแบบนี้”

“ก็พูดกับแฟนว่า เธอเห็นมั้ย เวลาเขาตัดเธอก็ตัดแบบนี้ ทำไมไปรู้สึกกับสิ่งพวกนั้นที่มันเพิ่งเข้ามา ทำไมทำกับผมได้ เขาก็บอกรู้ตัวแล้ว ตอนนี้โดนบล็อกทุกช่องทางเลย คนในสโมสรก็บล็อกหมดแล้ว ตอนนี้แฟนผมบอกรู้ตัวแล้วว่าทำพลาด เขาเสียผม เสียงาน เสียทุกอย่าง ผมก็เลยถามว่า แล้วทำไมเธอไปหลวมตัวขนาดนั้น พระเอกคนนี้มาทำพูดมาทำอะไรกับเธอบ้าง”

“แฟนผมก็บอกว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงานครั้งนี้หรือครั้งไหนก็แล้วแต่ คนเริ่มที่ชวนไปทำงานก็เป็นฝั่งพระเอก ผมมารู้ตอนหลังว่าจริงๆ คนที่ชวนแฟนผมไปทำงาน ไม่ใช่ผู้จัดการ แต่เป็นพระเอกที่ชวนตั้งแต่แรก ตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นพระเอกเองที่ชวนแฟนผมไปทำงาน พอทำงานไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมาเล่าเรื่องแฟนให้ฟัง หว่านล้อมโน่นนี่ ตอนแรกที่เขามาบอกชอบแฟนผม มันชัดขึ้นเรื่อยๆ พฤติกรรมในการเทคแคร์ การโอนตังค์ให้ ทำงานเหนื่อยแล้ว โอนให้เพิ่มจากค่าจ้างที่ตกลงกันไว้ ซึ่งค่าจ้างวันละ 3000-4000 ไม่รวมค่าน้ำมัน เดือนๆ นึงก็มีหลักแสนเพราะว่าทำเกือบทุกวัน”

ความสัมพันธ์มันมากกว่าการคุยกัน?

อดีตแฟนหนุ่ม เปิดใจว่า เขาสารภาพผมตั้งแต่วันที่ผมจับได้ แต่ผมมารีแคปถามอีกทีนึงว่า พอบอกรักปุ๊บ ก็ขอเธอมีอะไรกันด้วยเหรอ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่ าผู้ชายคนนี้มีความต้องการที่จะให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ผมรู้สึกว่าเป็นส่วนนึงที่เป็นเรื่องที่เขาเองต้องรับผิดชอบ แฟนผมผิดอยู่แล้ว

“อยากให้สังคมรู้ว่าหน้าฉากกับหลังฉาก มันไม่เหมือนกัน สิ่งที่แฟนผมเล่าให้ผมฟังมันไม่มีข้อเท็จจริงตรงไหนคุณออกมาพูดเลย แต่เรื่องที่คุณไม่ได้มีสัมพันธ์ ผมเองก็อยากให้เขาปฏิเสธนะ เพราะคลิปเสียงในรถที่ผมมี มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เขาพูดเรื่องอย่างว่าในรถผม ผมไม่แน่ใจว่ามีคุยมากกว่านั้นไหม เพราะผมฟังไปแค่ต้นเดือนมี.ค. แต่คิดว่าเขาคงไม่กล้าหรอก เขาคุยกันเรื่องอย่างว่า ว่าไปทำกันมา มันอย่างนั้นอย่างนี้ มีพูดถึงฉากนี้เลย แล้วผมต้องมาฟังเรื่องพวกนี้ เขาคงคิดว่าเรื่องนี้เป็นรถของแฟนผม เขาเลยไม่ระวังตัว”

“จากสิ่งที่แฟนผมเล่ามาให้ฟัง เขาไปขอห่างตั้งแต่ที่เขารู้สึกดีกับแฟนผม แล้วถ้าสิ่งนี้เป็นเรื่องจริง ผมคิดว่านางเอกคงอาจเตรียมตัวเรื่องนี้มา คงไม่ขึ้นขั้นรู้ว่าแฟนผมเป็นคนนี้ เพราะนางเอกเคยเจอแฟนผมอยู่แล้วที่สโมสร เพราะแฟนผมเคยเล่าให้ฟังว่าเขาเคยเจอกัน”

“แต่เรื่องที่พระเอกมาบอกแฟนผมคือเรื่องจริง ขอห่างจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมคิดว่าพอข่าวนี้ออกไปเขาน่าจะมีการจัดการกับเรื่องนี้ได้ไม่มากก็น้อยครับ ถ้าเขาห่างกันจริงนะครับ แต่ถ้าเรื่องนี้เซอร์ไพรส์นางเอกมากไม่ได้รู้มาก่อน มันคงเป็นเรื่องที่เขาไม่ได้ลงรูปคู่กัน เขาอาจจะรู้มาตั้งแต่แรกก็ได้ แฟนผมอาจจะไม่ใช่คนแรก เพราะดูพฤติกรรมที่เขาเดิน มันเหมือนเป็นเรื่องปกติ”

สมมติถ้าเรารู้สึกดีตามคลิปในรถเป็นผู้ชายคนนึงที่ห่วงแฟนผมมาก เป็นเพื่อนคนนึงที่รู้สึกดีกับแฟนผมมาก เวลาที่เจอสถานการณ์แบบนั้น อาจจะต้องมีรีแอ๊กหรือมาคุยกับผมบ้างว่าเป็นใคร แต่นี่เดินชิล ถ้าให้เข้าข้างอาจเพราะเขาเป็นดาราไง เวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ เขาต้องทำนิ่งแล้วก็หนีไปก่อน เรื่องนี้อาจต้องให้สังคมตัดสินเอา ที่ผมไม่ไหวสุดๆ เลย เมื่อวานผมมานั่งดูคลิปในรถ ผมนั่งดูทั้งคืนยันเช้า แล้วผมรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ผมไม่สามารถอดทนตรงนี้ได้ ผมเปิดเลยแล้ววัน”

อยากฝากอะไรถึงพระเอกคนนี้ไหม?

อดีตแฟนหนุ่ม กล่าวว่า ให้เขาพูดความจริงครับ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ ผมอยากรู้ว่าไมเขามีพฤติกรรมแบบนั้นกับผมในวันนั้น และอยากจะทราบว่าทำไมวิธีแก้ปัญหาของเขาเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่แมนเลย คุณทำเพื่อสังคมค่อนข้างดีเลยนะ แต่เรื่องแบบนี้ทำไมไม่กล้ารับผิดชอบ ภาพลักษณ์คุณดูแมนๆ ตรงๆ ทำไมคุณให้ผู้หญิงบังหน้า ให้ผู้จัดการคุณคุย แค่คุณคุยกับผมประโยค 2 ประโยคคุณยังไม่ทำเลย

ผมไม่ได้ต้องการอะไร ผมแค่ไม่ชอบพฤติกรรมที่เขาทำกับผมส่วนนึง แล้ววิธีการของเขาหายไปจากแฟนผมเลย ตัดแฟนผมออกจากเรื่องงานไปเลย ไม่มีการถามสารทุกข์สุขดิบเลย ทั้งๆ ที่เขามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขนาดนั้น ดูเป็นคนใจร้าย ต้องการแค่ได้แล้วก็ทิ้งทุกอย่างแล้วลอยตัว เขาคิดว่าไม่ได้เรื่องใหญ่อะไร ไม่ใช่ผมรู้ปุ๊บแล้วพูดเลย ผมให้ช้อยส์1 ช้อยส์2 ดูปฏิกิริยาว่าเขาจะทำยังไง แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image