ต้องบอกว่า ‘รากนครา’ ฮือฮายิ่งมาตั้งแต่ช่อง 3 ประกาศว่าจะทำ แถมพอภาพฟีตติ้งงามๆ ถูกปล่อยมาตอกย้ำ กระแสก็ยิ่งไปกันใหญ่
พอมารวมกับกระแส ‘นาคี’ จากฝีมือผู้กำกับ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง คนเดียวกัน และนักแสดงนำ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ คนเดียวกันอีก นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“แต่มันคนละเรื่องกันไง” ผู้จัด แดง-ธัญญา โสภณ บอก
“มันก็น่าจะตัดขาดกันไปแล้ว เพียงแต่แฟนละครก็อาจจะติดตามเรามากขึ้น คนที่ไม่เคยดูก็อาจจะจับจ้องว่า มันจะยังไงกับเรื่องหลังจากนี้ จากความดังพีคๆ ของนาค แล้วเธอจะทำได้ดีอีกขนาดนั้นไหม”
อย่างไรก็ตามไม่ทำให้กดดัน “เพราะจริงๆ นาคีมันเป็นสิ่งพิเศษ ที่เราไม่ค่อยได้เจอบ่อย” เธอว่า
ส่วนที่นำแต้วมาเล่น ‘รากนครา’ คนเป็นผู้จัดก็ว่า ไม่ได้เกาะกระแส เพราะแต่ไหนแต่ไรก็วางตัวไว้อยู่แล้ว
“แต้วเล่นรากนครามาก่อนนะ”
“ความจริงจะต้องทำรากนคราก่อน นาคีนี่เป็นการพัก เพราะรากนครายากกว่า นาคีแค่ซีจีที่ยากมาก แล้วก็ไปอยู่ต่างจังหวัดเยอะ พี่อ๊อฟต้องไปบุกป่าฝ่าดง อยู่ในถ้ำ”
ขณะที่รากนครานั้นต้องจัดเต็มทุกอย่าง จนต้องจัดให้เป็นงานละครที่ยากที่สุดตั้งแต่บริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด ของเธอทำมา
“ทั้งเรื่องเสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ เป็นแบบสามวัฒนธรรม สามศิลปะ ต้องมีการสำรวจเยอะ”
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรไม่มากเลย ทั้งโลเกชั่น และอื่นๆ คือ งบเต็มมากเลยนะ ไม่เคยทำอะไรแล้วงบเต็มขนาดนี้ อันนี้แอบบอกช่อง” ว่าพลางหัวเราะ
ทั้งนี้โลเกชั่นส่วนใหญ่ ธัญญาบอกว่าจะอยู่ที่ลำปาง แพร่ เชียงใหม่ แล้วก็ในสตูดิโอของ ท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ที่กาญจนบุรี
บอกอีกว่า อย่างไรก็ดีการทำงานยากๆ ชิ้นนี้ โชคดีที่มีผู้รู้หลายฝ่ายยินดีให้ความร่วมมือ ขณะเดียวกันเหล่านักแสดงเองก็เต็มที่เช่นกัน
ทั้งในส่วนการแสดงตอนเข้าฉาก และแน่นอน ในขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนหน้านั้น
“ภาษาเหนือของแต้วเป๊ะมาก คนทางเหนือนี่ถามเลยว่าจริงๆ แต้วเป็นคนเหนือหรือเปล่า เราก็บอกว่าไม่ใช่”
นี่คล้ายๆ กับตอนนาคี ที่มีคนถามเหมือนกันว่านางเอกคนงามเป็นคนอีสานหรือไม่
ทั้งนี้เรื่องภาษาเหนือที่ว่า พงษ์พัฒน์บอก อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ช่วยได้มาก ขณะหนุ่มเชียงใหม่ อย่าง หมาก-ปริญ สุภารัตน์ นั้น แดง ธัญญาบอก “ไม่สอนใครเลย”
ไอ้ที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าช่วยน่ะ พงษ์พัฒน์บอกเลย “มันโม้ อย่าไปเชื่อ”
ขณะแดง ธัญญาเสริม “ก็มีสอนบ้างนะ สอนสาวๆ แนะนำแต่สาวๆ”
5555
สำหรับ มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน ที่ต้องเล่นประชันขันแข่ง และแย่งผู้ชายกับแต้วนั้น แดง ธัญญาบอกตรงๆ ว่า “แรกๆ มีปัญหาอยู่เหมือนกัน แต่พอถ่ายๆ ไปก็เริ่มฟิต ตอนแรกก็กลัวเรื่องพลัง บอกพี่ออฟ ระวังมิวไม่มีแรงนะ เพราะมิวดูเหมือนระโหยโรยแรง แต่ตัวนี้มันมีพลังสูงมาก พี่อ๊อฟก็จับเขย่าทุกวัน จนตอนหลังดีขึ้น แล้วพอถึงเวลาเขาก็มาเต็มนะ”
ส่วนว่าทำได้ยังไง พงษ์พัฒน์ก็ว่า “บอกวิธีเขาเท่านั้นเอง”
“นักแสดงที่ดีเขาเปิดรับอยู่แล้ว เปิดกว้างอยู่แล้วกับบทบาทที่เขารับ ก็บอกเขาว่า ‘มิ่งหล้า’ เป็นคนแบบนี้นะเว้ย แค่บอก พวกนี้คือนักแสดงมืออาชีพ เก่งอยู่แล้ว”
“แต้วเองก็มีฝีมือ ดินน้ำมันก็ปั้นสิ จะปั้นเป็นอะไรก็ปั้นเข้าไป นักแสดงคือดินน้ำมัน ก็ปั้นได้ ก็บอกเขาแบบนี้”
กับเรื่องที่งานละครรีเมกอย่างนี้ จะต้องมีคนเปรียบเทียบแน่ๆ ทั้งในแง่ของละครทั้งเรื่องที่เวอร์ชั่นไหนสนุกกว่า และทั้งตัวดาราเวอร์ชั่นนั้นกับเวอร์ชั่นนี้ใครที่เล่นดีกว่า ซึ่งพงษ์พัฒน์บอกเลย “เข้าใจ”
อย่างไรก็ตาม ที่อยากบอกคือ “เวลาเราทำละครเรื่องหนึ่ง มันวาดรูปใหม่หมดเลยนะ ถ้ายังยึดติดอยู่กับตรงนั้น ปัญหามันจะเกิดกับคนดู ทำไมเวอร์ชั่นนี้เล่นแบบนี้ ซึ่งไม่ได้ หรือแม้กระทั่งบอกว่าเวอร์ชั่นนี้ดีกว่าเวอร์ชั่นนั้น เรายังลำบากเลย”
“ต้องคิดใหม่หมด เล่าเรื่องใหม่หมดนะครับ เพราะเราทำใหม่จริงๆ สู้ได้ไหม ดีกว่าไหม ไม่รู้ แต่ว่าสำหรับเรามันดีที่สุดตรงนี้จริงๆ เวอร์ชั่นที่แล้วเปิดดูได้ ก็ไม่ดู”
“ทำงานชิ้นใหม่ ถ้าเกิดมันซ้ำก็คือการคิดของเรา ไม่ใช่แบบอันนี้ดีแล้วก๊อบปี้เลย อันนี้ไม่ใช่แล้ว”
“มันจะได้เป็นการเสพงานในชิ้นใหม่ ได้แปลก ได้สนุกสนานตามเรื่อง ถามว่าเราเอาของเขาเป็นกรณีศึกษาไหม เราหลีกเลี่ยงมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ว่า บทประพันธ์ ตัวละคร คาแร็กเตอร์เหมือนเดิม แล้วอีกอย่างในฐานะคนทำงาน ถามว่าต้องรู้ไหมว่า ตัวละครตัวนี้เวอร์ชั่นก่อนใครเล่น ไม่เลย ไม่ต้องรู้หรอกว่าใครเล่น แค่ให้รู้ว่าตัวละครตัวนี้เป็นยังไง คิดอะไร พอ”
“ถ้าบอกว่า เล่นแบบอั้ม พัชราภา (พัชราภา ไชยเชื้อ ผู้รับบท ‘เจ้าแม้นเมือง’ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เมื่อ พ.ศ.2543) ฉิบหายเลยนะ ขอบอก ฉิบหายทางการแสดงเลย เราจะเอาแบบเก่ามาทำไม คือไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี”
“แต่เราจะเอาแบบเก่าทำไม”
“มันไม่ใช่วิธี”
