หลังจากเป็นเรื่องราว เมื่อเอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน ออกมาประกาศไม่เกี่ยวข้องกับคอร์สการอบรมเข็มทิศชีวิต ของอ้อย-ฐิตินาถ ณ พัทลุง เพราะไม่ได้ไปมานาน เนื่องจากแนวทางไม่ตรงกัน จึงอยากให้มีการนำภาพของตนออกจากการโปรโมทหลักสูตร ด้านกาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ ที่เป็นหนึ่งในลูกศิษย์หลักสูตรเข็มทิศ ชีวิตก็ได้เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า
“เท่าที่ทราบเขามีการพูดคุยกันแล้วระหว่างผู้จัดการกับผู้จัดการ เราก็เห็นว่าเขาพยายามเอาออกให้ ก็เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะมีการโพสต์อะไรกัน เขาก็มีการพยายามเอาลงให้แล้ว สำหรับตัวแมร์ไม่ได้มีปัญหาอะไร เรายินดีถ้ามันจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวการให้กำลังใจ ให้แง่คิด ยินดีไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
ส่วนกับตัวฐิตินาถนั้น กาละแมร์บอกว่าเท่าที่ดูก็ไม่มีอะไร
“เขาก็ดำเนินการลบให้ ข่าวไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับครู ไม่เห็นครูจะอะไร ก็ทำตามที่น้องเอ๋ได้ขอไว้ จริงๆเวลาเขาไปเรียนจะมีการเซ็นยอมรับเผยแพร่ภาพและเสียง แต่ถ้าใครไม่สะดวกใจ ไม่สบายใจ ก็สามารถแจ้งได้”
สำหรับเรื่องที่มีบางคนตีความว่าเหมือนจะเป็นอีกลัทธินึงไปแล้ว กาละแมร์บอกไม่ถึงขนาดนั้น
“ที่เราไปมา ก็เหมือนการเรียนอีกหลักสูตร เหมือนไปเรียนบุคลิกภาพ การพูด เรียนโยคะ แต่นี่เป็นเรื่องการสอนเรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่ การคิดดี ทำดี พูดดี เสริมสร้างกำลังใจ ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัว งมงาย ไสยศาสตร์ แมร์เข้าใจนะคะ ตอนแรกแมร์ก็เข้าใจแบบนั้นเหมือนกัน เลยลองเข้ามาหาคำตอบ ก็ได้เข้าใจว่าเขาเรียนอะไรกัน แล้วมันเอามาปรับใช้กับชีวิตเรายังไง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน ระบบความคิด หรือแม้แต่ในวันที่เรามีความทุกข์ เราจะก้าวผ่านไปยังไง ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย”
เมื่อถามว่าทำไมถึงมีดาราไปเรียนเยอะ กาละแมร์ว่าดาราได้เรียนฟรี ขณะที่ในส่วนนักข่าวถ้าสงสัยก็ไปลองเรียนได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน
กับอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกระบุว่าค่าใช้จ่ายในการเข้าคอร์สสูงถึงหลักหมื่น กาละแมร์แจงว่า
“เรียน 2 วัน ตั้งแต่ 8.00-17.00 น. แค่เรียนออกกำลังกายก็ชั่วโมงละ 2,000 แล้วนะ แต่อย่างที่ว่าก็มีทั้งที่เรียนฟรี และเรียนแบบจ่ายเงิน”
ยังบอกอีกว่าแม้จะถูกเอาไปเปรียบเทียบกับวัดธรรมกาย แต่ฐิตินาถก็ยังชิลล์
“ครูค่อนข้างชิลล์นะ ไม่ได้อะไร มันไม่ใช่ก็ไม่รู้จะไปเครียดทำไม”
“คนเราสามารถพูดได้ต่างๆนานา เราไปบังคับไม่ได้ แต่เราก็จะรู้แก่ใจ ครูก็บอกว่าครูไม่รู้จะไปแก้อะไร ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าเราสอนอะไรยังไง เราเข้าใจ เพราะเราเคยเป็นอารมณ์นั้น คนที่ไม่เคยสัมผัสก็จะไม่เข้าใจ มันไม่มีการสะกดจิต ไม่มีไสยศาสตร์ ไม่มีความเชื่อ ไม่มีการไหว้ผีสางอะไรทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องจิตใจเราล้วนๆ”
“ที่เราเรียนมาก็เอาไปปรับใช้ได้นะกับชีวิตประจำวัน สิ่งที่สอนคือเขาให้รักพ่อแม่ แต่เราทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าต้องรักพ่อแม่ แต่มันก็จะมีอย่างนั้น อย่างนี้ พอไปเรียนก็เข้าใจว่าพ่อแม่รักเรามากเหลือเกิน ทำให้เรากลับไปกตัญญูกับท่าน ไปทำดีกับท่าน หรือเวลาที่เรามีเรื่องไม่สบายใจ มีอุปสรรคในชีวิต ไม่รู้จะก้าวข้ามผ่านมันไปยังไง เมื่อก่อนก็จะนอยด์ๆวนไปวนมา แต่พอไปเรียน เรารู้ว่ามันมีเทคนิค ต้องคิดอย่างนี้ ทำอย่างนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรน่ากลัวเลย”
กับกรณีที่มีบางคนมองว่าล้างสมอง กาละแมร์ว่าก็ไม่ใช่
“ไม่ขนาดนั้นนะ มันก็เหมือนการเข้าห้องเรียนเรียนหนังสือ ก็จะมีคนที่เข้าใจ ไม่เข้าใจ ก็เหมือนการเรียนทั่วไปที่จะมีเด็กไม่เข้าใจเหมือนกัน”
สำหรับเรื่องของฐิตินาถ ซึ่งเปิดเป็นสถานที่เรียนดูใหญ่โตอลังการ กาละแมร์ก็ว่า
“คนจะสับสน ตรงนี้ต้องแยกให้ออกนะ ครูเป็นฆราวาส เป็นคนปกติเหมือนเรา นี่พูดกลางๆไม่เข้าข้างใคร ตอนนี้มันผิดประเด็นที่เอาไปเทียบกับพระ ครูเขาเป็นคน แต่เป็นคนที่สอนเรื่องอะไรแบบนี้ เป็นคนสามารถใส่เสื้อผ้า อยู่บ้านสวยตามฐานะความเป็นอยู่ได้”
Live สัมภาษณ์ 'กาละแมร์'
โพสต์โดย Matichon Online – มติชนออนไลน์ บน 14 มิถุนายน 2017
