นับตั้งแต่แต่งงานกับสามีนักธุรกิจ เพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง ก็ดูว่า นักแสดงสาวตาคม พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ฃหายจากผลงานในวงการบันเทิงมาหลายปี ล่าสุดได้เจอเธอในงานบวงสรวงภาพยนตร์
มังกร นารี ปีศาจ (The Trilogical Affairs) ที่ร่วมควบคุมการผลิตกับสามี ก็ขออัพเดทถึงเรื่องราวต่างๆในชีวิตว่า
กับภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยากและใช้ระยะเวลานานตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกบท คัดเลือกทีมงานและนักแสดง เนื่องจากมีองค์ประกอบเยอะ ซึ่งเรื่องนี้ตนรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ ช่วยสามีดูงานในภาพรวม และในการผลิตภาพยนตร์นี้ตนมีขอคำปรึกษาเพื่อนสนิทอย่าง เอ็ม-บุษราคัม วงษ์คำเหลา บ้าง
แต่ส่วนที่ตนห่างหายไปจากบทบาทเบื้องหน้านั้นเพราะตนขอเวลาในการทุ่มเทกับภาพยนตร์เรื่องนี้ และด้วยหน้าที่ผลิตจึงทำให้ละทิ้งไปไม่ได้ บวกกับตอนนี้ทั้งตนและสามีหันมาลุยกับงานดักชั่นเฮ้าส์เต็มตัว
“แต่งานละครไม่ได้รับเลยเพราะมันใช้เวลานาน ไม่อยากจะทิ้งงานส่วนตัวของตัวเองไป”
ก่อนจะบอกว่ายังคิดถึงงานแสดง แต่ด้วยความที่อยู่วงการมานานแล้ว เรื่องที่จะรับเล่นแต่ละอันก็คงต้องเป็นบทที่ดีจริงๆ
“แต่ช่วงนี้อยากจะทุ่มเวลาให้กับหนังเรื่องแรกของตัวเองให้ดีที่สุด”เธอว่า
และถึงแม้ตอนนี้จะผลิตภาพยนตร์เอง แต่ว่าก็ไม่ขอร่วมแสดงด้วย เพราะหนังที่ตัวเองทำเรื่องแรกจึงอยากการดูแลในงานเบื้องหลังเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่เพราะสามีมีใบสั่งห้ามรับงานแสดงแต่อย่างใด
“ตอนนี้พี่เพชรไม่ค่อยหวงแล้วค่ะ และก็ไม่ได้ห้ามด้วย แต่เป็นที่ตัวกี้เองมากกว่าที่ไม่อยากจะทิ้งงานหนังตรงนี้ไป เพราะอยากทำงานของตัวเองให้ไปได้ดีก่อน”
“เวลาที่เราจะไปเล่นอะไรส่วนตัวเบื้องหน้ามันก็ยังพอมีอยู่ อีกอย่างตอนนี้พี่ก็ต้องเลือกบทนิดนึง ไม่ใช่ว่าอะไรก็เล่น”
และเมื่อสอบถามถึงกรณีที่ภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้ก็มีปัญหาไปแล้วรอบนึง พิ้งกี้ก็ได้แจงว่าในเรื่องนี้ตนมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะไม่ประสบปัญหาเหมือนกับเรื่องที่ผ่านมา เพราะมีการวางแผนอย่างดี
“อีกอย่างมีประสบการณ์มาแล้ว ฉะนั้นไม่ควรจะเกิดปัญหาอย่างเดิมอีก การมาทำหนังเรื่องนี้ก็จะอุดรอยรั่วจากเรื่องก่อนทั้งหมด”
ในส่วนชีวิตครอบครัวตอนนี้ตนทำหน้าที่ของภรรยาอย่างเต็มที่ และรอลุ้นอยากมีทายาทมาตลอด ด้วยวิธีการทางธรรมชาติมาพักนึงแล้ว และก็ได้มีการไปตรวจสุขภาพ ซึ่งก็ปกติทั้งคู่
“คุณหมอบอกว่าบางทีมันเป็นเรื่องจังหวะของแต่ละคน แต่กี้คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องดวงด้วย ถามว่าคิดจะใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ช่วยไหม ยังค่ะ เอาให้มันธรรมชาติไปก่อน”
“ถ้าจะถึงขั้นต้องใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ก็น่าจะอีก 1-2 ปีอันนั้นคือในกรณีที่ไม่มีจริงๆ เลยก็ต้องพึ่งค่ะ” เธอกล่าวในที่สุด