‘น้ำตาล’ ยันไม่ใช่คนอกตัญญู ไม่ใช่ดาราลืมผจก.ที่อดีตคนดูแลโพสต์ ยอมรับจากกันแล้วแต่ ‘ด้วยดี’

แม้นุ-อนุศักดิ์ อดีตผู้จัดการของน้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ จะโพสต์ความในใจไว้ในเฟซบุ๊ค Anusak Mekseree ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา เรื่องคนที่พอประสบความสำเร็จ เริ่มมีชื่อเสียง ก็แสดงความเห็นแก่ตัว มองเห็นเงินเป็นหลัก ไม่คำนึงถึงคนที่ให้กำเนิดอาชีพของตัวเอง

ขณะเดียวกันก็ยังพูดถึงอาชีพผู้จัดการว่า ไม่ใช่ ‘ขี้ข้า’ แต่ทำหน้าที่หางาน ให้โอกาส เพราะฉะนั้น อย่ามาชี้นิ้ว แต่ควรเก็บนิ้วไว้กราบขอบคุณพวกเขาที่ทำให้มีวันนี้ อย่างไรก็ดีผู้จัดการบางคนก็เรื่องเยอะเกินไป อีกทั้ง ‘บางคนก็คอยแต่จะจิกเด็กของคนอื่น -รู้กันมั้ยว่า การหาเด็กได้แต่ละคนไม่ใช่ไปนั่งจิกของคนอื่นเขามา! กว่าจะสร้างกันมาได้ต้องใช้ทุนใช้คอนเน็คชั่นเท่าไหร่. ถ้าไม่มีปัญญาสร้างเด็กด้วยตัวเองอย่ามาทำอาชีพนี้เลย มันไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีจรรยาบรรณ คนที่เป็น ผจก ประเภทนี้เรียกได้ว่า ขาดสามัญสำนึก ไร้มารยาทในสังคม เราเกลียดคนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นทุกประเภท ไม่มียกเว้น! ‘

ดังนั้นเมื่อต่อมาน้ำตาล พิจักขณา แจ้งเปลี่ยนเบอร์ผู้ติดต่องาน เป็นคนใหม่ หลายคนเลยสงสัยว่า เอ,หรือโพสต์ดังกล่าวจะเกี่ยวกับเธอ อย่างไรก็ดีวันนี้ ( 20 ก.ค.) น้ำตาลให้สัมภาษณ์ในงานประกาศผลรางวัลนาฏราช ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ว่าไม่น่าใช่ แต่ยอมรับว่าได้เปลี่ยนผู้จัดการมาพักหนึ่งแล้ว หลังสัญญาที่มี 5 ปี กับผู้จัดการคนเดิมหมดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

Advertisement

“เหตุการณ์ไปค่อนข้างใหญ่มาก ที่จริงแล้วไม่มีอะไรเลยค่ะ คือตาลหมดสัญญาตั้งแต่ต้นปี แล้วเราก็อยู่ยาวมาจนถึงเดือนเมษา มีการพูดคุยกันดีทุกอย่าง”

“ตามที่โพสต์ ตัวตาลก็มีโอกาสได้อ่าน เท่าที่อ่านก็เชื่อว่าไม่ได้หมายถึงตาลอยู่แล้วค่ะ’ น้ำตาลบอก

Advertisement

หากก็ยอมรับว่ากลัวคนจะเข้าใจผิดเหมือนกัน

“กลัวค่ะ ข่าวค่อนข้างจะไปไว แล้วก็ดูรุนแรงนิดนึง ที่จริงไม่มีอะไร ทุกอย่างไปเป็นไปตามสัญญา”

บอกอีกว่าเหตุที่เปลี่ยนผู้จัดการก็เพราะรู้สึกว่าโตขึ้น อยากมีโอกาสที่ไปเรียนรู้งานกับคนใหม่ๆ

“แต่กับที่เดิมก็ยังปกติ ยังทำงานร่วมกันได้ทุกอย่าง”

ยังบอกด้วยว่ากับที่ใหม่ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาอะไรทั้งสิ้น เป็นสัญญาใจ ยืนยันว่าไม่ได้มีการฉกตัว

“ทางตาลเองขอให้เขาช่วยดูคิวให้หน่อยเท่านั้นเองค่ะ ”

ส่วนเรื่องที่โดนบางคนมองในทำนองว่าอกตัญญู น้ำตาลก็ว่า “ที่จริงแล้วตาลไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน เราต้องขอบคุณเขาอยู่แล้ว เพราะเราไม่สามารถมีวันนี้ได้ถ้าไม่มีเขา แล้วก็ระลึกถึงเขาเสมอ แต่ว่าในแง่ของการทำงานเราคิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจอยู่แล้ว”

“เอาจริงๆ ตาลก็ไม่ได้คิดว่าเขาสื่อถึงเรา วันนี้ก็อยากพูดแทนทุกๆ คน เพราะว่าวันที่ตาลเข้าไปพูดคุยกับเขาทุกอย่างมันโอเคมาก ดีมากๆ ออกมาก็ยังกอดกันปกติ” 

 

ขอบคุณ Anusak Mekseree

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image