‘อิมเมจ’ เผยหากย้อนเวลาได้ ไม่ทวิตเรื่องประเทศ แจงไม่ได้อวดดี แค่ชี้จุดด้อย บอกรู้สึกแย่ที่โดนไล่

จากรณีนักร้องสาว อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ จนเป็นกระเเสเดือดบนโลกออนไลน์

เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น อิมเมจบอกกับมติชนออนไลน์ว่า รู้สึกแย่ เสียใจ ขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกผิดที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมและหยาบคาย อีกทั้งการใช้คำในลักษณะประเทศเฮงซวย หรือ ไม่อยากเรียกที่นี่ว่าบ้านนั้น ก็รุนแรงเกินไป

“มันก็รุนแรงเกิน ถ้ามองในบริบทของสังคมไทยที่เราออกจะคอนเซอร์เวทีฟ” อิมเมจบอก

ยอมรับอีกว่า ตอนที่ทวีตไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ คิดแต่ว่าระบบสวัสดิการของบ้านเราแย่มากจึงอยากบ่น

Advertisement

“ตอนนั้นฟีลแบบว่าไปสอบ ทำข้อสอบก็ไม่ค่อยได้ ปวดท้องประจำเดือน แล้วกลับบ้านก็ไม่ได้” อิมเมจเล่าสถานการณ์

ก่อนให้รายละเอียดว่า บ้านของเธอนั้นอยู่ย่านมีนบุรี ทุกวันจึงต้องมานั่งรถเมล์สาย 26 หรือไม่ก็รถตู้เพื่อกลับบ้าน ซึ่งทั้งสองวิธีนี้กว่าจะได้ขึ้น ต้องรอรถนานมาก

“แล้วมันไม่มีช่องทางอื่นๆ ให้เลือก ไม่มีรถไฟฟ้า หรือถ้าขึ้นแท็กซี่ มิเตอร์ก็ขึ้นไปสิ แล้วนั่งอย่างนั้นทุกวันก็ไม่ไหว พอเจออย่างนี้ บวกกับหัวเสียกับข้อสอบ ปวดท้องอีก มันก็หนัก เลยไม่ได้คิดให้ดีก่อน”

Advertisement

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ และจะเขียนเรื่องนี้ จะเขียนว่าอะไร อิมเมจก็บอก จะเขียนแค่เรื่องยินดีเสียภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อแลกกับสวัสดิการ ไม่แตะต้องเรื่องประเทศ

ส่วนที่โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยส่วนหนึ่งบอกว่า ถ้าไม่ชอบก็ให้ย้ายไปอยู่ประเทศอื่นนั้น อิมเมจบอกว่า ในชีวิตจริงนอกจากจะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว ก็ไม่เคยคิดจะย้ายไปอยู่ประเทศอื่นเลย

“ก็รู้สึกแย่นะคะ เป็นฟีลเหมือนมีคนมาไล่ เหมือนทะเลาะกับแม่แล้วถูกบอกให้ออกจากบ้านไป”

ทั้งนี้ อิมเมจบอกว่า โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ที่จะเสนอความเห็นและความคิดต่างๆ ที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น

“เราแค่คอมเพลนในจุดที่ว่ารถเมล์บ้านเราแย่”

ยืนยันด้วยว่า ไม่ได้เป็นการโจมตีรัฐบาลชุดนี้

“โห เอาจริงๆ ปัญหารถเมล์ พูดกันตรงๆ มีปัญหามาตลอด ย้อนกลับไปยาว ตั้งแต่มีรถเมล์มาก็มีปัญหานี้ ไม่ได้เกี่ยวว่ารัฐบาลไหนเลย มันวางระบบไม่ดีมาตั้งแต่แรกหรือเปล่า ดังนั้น จะรัฐบาลไหนก็ได้ ถ้าจะทำให้เรารู้สึกว่าคุ้มกับภาษีที่เราเสีย”

“นี่ไม่ใช่ว่าอวดดีวิจารณ์นะ เราไม่ได้มีความรู้ในทางบริหารบ้านเมือง แค่คอมเพลนจุดที่ใช้จริงๆ ที่เห็นว่าต้องมีการปรับปรุง เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวแล้วรสชาติไม่ดีก็ต้องปรุง แต่อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำเอง เพราะเป็นระบบที่ใหญ่มาก”

“ถ้าจะให้แก้ปัญหา เราก็ต้องซื้อรถขับเอง ซึ่งก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และก็ต้องไปพอกพูนปัญหากับระบบจราจรอื่นๆ ที่จอดรถอีก รถติดมากขึ้นอีก”

ส่วนที่มีบางคนบอกอย่าเอาแต่บ่น ให้ลงมือทำเพื่อให้ประเทศชาตินั้น อิมเมจบอก อะไรที่ทำได้ก็ยินดี และก็พยายามทำอยู่

“อย่างเช่น เดินตามถนนเจอขยะ เราอยากเห็นประเทศสะอาด บางทีก็เก็บไปทิ้งลงถัง”

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อิมเมจก็ว่า สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นบทเรียนสำหรับเธอคือ การใช้ถ้อยคำหยาบคายไม่เคยช่วยอะไร

“ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความเห็นของตัวเอง แต่ต้องทำไปในลักษณะท่าทีที่สุภาพ”

ส่วนการทวีตในทวิตเตอร์ เธอก็ว่าคงไม่เลิก แต่คงจะคิดเยอะๆ ก่อนพิมพ์

“คิดว่า จะยังไงดี จะคุ้มกับทวีตไหม” อิมเมจกล่าวในที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image