จาก ‘ริ้วทอง’ สู่ ‘เมียหลวง’ และเรื่อง ‘แอบหวง’ ของ ‘จุ๋ย วรัทยา’

เพราะเนื้อเรื่องเข้มข้น แฝงปมไว้อย่างซับซ้อน แถมได้นักแสดงฝีมือจัดจ้านมาเชือดเฉือนกัน “กำไลมาศ” ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 เลยทำให้ผู้ชมติดกันงอมแงม
ยิ่งช่วงนี้ถือว่าพีคจัด เพราะใกล้อวสานเต็มที (14 มี.ค.) เราเลยคว้าตัว จุ๋ย – วรัทยา นิลคูหา ผู้สวมบท “ผีริ้วทอง” ได้อย่างน่าสงสารและชวนหมั่นไส้มานั่งคุยกัน

“เล่นเรื่องเดียวเหมือนได้เล่นเป็น 3-4 ตัว” เธอเล่าถึงตัวละครที่มีทั้งดี ร้าย เสียใจ เคียดแค้น และเป็นผี
“แต่ท้าทายนะ”
แถมยังได้วิชาเชิดหุ่นกระบอกมาอีกอย่าง แม้จะได้เรียนพื้นฐานเพียง 1 วัน แต่ก็มีครูตามประกบในกองถ่ายตลอด
“มันยากตรงที่เรามีพื้นฐานการรำไม่มาก ถ้าเป็นครูจริงๆ เขาเล่นกันเป็นชั่วโมง เป็นวันๆ เราเข้าฉากครึ่งชั่วโมงก็ปวดแขนมากแล้ว”

แต่ “รู้สึกมีบุญนะ ได้มาเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทย ได้ถ่ายทอดให้คนดูทางทีวีด้วย”
ส่วนสิ่งที่ชิลสุดในเรื่องกลับเป็นการแต่งเอฟเฟ็กต์ผี เพราะไม่ได้เป็นผีน่ากลัว แต่สวยๆ เหมือน “ผีเดินแบบ” เช่นเดียวกับฉากเลิฟซีนคู่ เต้ย – พงศกร เมตตาริกานนท์ พระเอกของเรื่องที่เล่นไปขำไป
เพราะ “แรกๆ เต้ยเกร็งมาก ขนาดนอนยังเกร็ง คือเป็นฉากที่จุ๋ยเข้ามาร้องไห้แล้วเต้ยนอนอยู่ เราก็พร่ำพรรณนาลูบหน้าเขา แต่เต้ยนอนขมวดคิ้วจนเราต้องบอกว่า ขอเป็นหน้าที่พี่เอง ไม่ต้องมาเครียดกับพี่”

ทว่าเมื่อเริ่มสนิท มือไม้เต้ยก็เริ่มอยู่ไม่สุข “จนต้องบอกว่า แก! หยุดเดี๋ยวนี้ พี่ถา (สถาพร นาควิไลโรจน์ – ผู้กำกับ) ตัดหลบเลยนะคะ ไปไหล่จุ๋ยเลยนะ ไม่นัวต่อนะ”
“สมมุติว่ากำลังจะจูบ พอมาใกล้ๆ ปากเราจะปิดสนิทเลย แตะนิดเดียว 2-3 วิ”
“มันคือลิมิตเราเอง ไม่เกี่ยวกับใคร” เธอบอกด้วยรอยยิ้ม

Advertisement

จุ๋ย (2)

โดยหลังจากจบเรื่องนี้ยังมี “เมียหลวง” ให้รอชมกันอีก ซึ่งถือว่าบทพลิกล็อกไม่น้อย เพราะแทนที่จะเป็นเมียน้อยอย่างที่หลายคนเก็ง กลับได้เป็นเมียหลวงผู้เข้มแข็งแทน
“เป็นคำสั่งจากผู้ใหญ่ทางช่องที่โทรตรงมาว่า ‘ช่วยรับบท ดร.วิกันดาได้ไหม’ จุ๋ยก็ถามว่าพระเอกกับอรอินทร์คือใครคะ ‘ยังไม่มีใครรู้ ถ้าจุ๋ยรับปากว่าจะเล่นเรื่องนี้ พี่จะหาคนแวดล้อมให้’ คือเขาวางเราก่อน”
“บอกตรงๆ ว่าที่รับเพราะอยากทำงานกับผู้มีพระคุณค่ะ”
ด้วยผู้จัดคือ น้อง-พรสุดา ต่ายเนาว์คง ซึ่งเคยร่วมงานกันใน “กษัตริยา” ละครเรื่องแรกของจุ๋ยและเปรียบเสมือนครูการแสดงเบอร์ต้นๆ

“ตอนนั้นเรายังเด็ก การแสดงร้องไห้ยังไม่อิน พี่น้องเข้ามาจับมือส่งสายตาหรือกระแสจิตอะไรไม่รู้ น้ำตาเราไหลโดยอัตโนมัติ ยังจำภาพนั้นได้อยู่เลย” จุ๋ยเล่าพลางยิ้ม
“เราโชคดีนะที่คนไม่ค่อยติดภาพอะไรเท่าไร อย่างตอนเล่นเป็นสายน้ำผึ้งคนก็เกลียด พอมาเล่นฝันเฟื่องคนก็เรียกคุณมนๆ ตอนนี้ก็ริ้วทอง พอเขาบอกว่าอยากให้จุ๋ยเป็น ดร.วิกันดา เลยรู้สึกว่าเออ มันต้องเปลี่ยนแล้วล่ะ เพราะถ้าเราเล่นเป็นอรอินทร์มันก็จะเหมือนเดิมอีก”
“จุ๋ยอาจจะประหม่าในแง่ที่เป็นละครรีเมกมาก่อน เพราะเวอร์ชั่นก่อนทำได้ดี แต่แคสติ้งที่ต่างกันมันจะมีอารมณ์แตกต่างกัน มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม”
ดังนั้น “อยากขอกำลังใจ”

Advertisement

จุ๋ย-พุฒิ

เมื่อถามถึงกำลังใจส่วนตัวอย่าง พุฒ – พุฒชัย เกษตรสิน เธอตอบยิ้มๆ ว่า สถานะที่ใช้ยังเป็น “ความสุขของกันและกัน” เช่นเคย
“จุ๋ยไม่ได้ปิดนะ” เธอยืนยัน
“เราคิดกันเสมอว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ในเรื่องของงานก็จะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เรื่องส่วนตัวก็ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร ใช้ชีวิตเป็นปกติ ลงรูปบ้างตามกาลเทศะ แต่ไม่ได้หวานเว่อร์ออกสื่อมากมาย”
ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงก็เห็นชัดๆ ว่าอะไรเป็นอะไร

แม้จะโดนแอนตี้หนักจากคนรักพุฒ (บางกลุ่ม) ที่เชียร์ให้ฝ่ายชายลงเอยกับสาวคู่จิ้นคนอื่น แต่จุ๋ยบอกว่ายินดี เพราะกระแสเหล่านั้นคือผลของการทำงาน
“มันเป็นเรื่องที่เขาตั้งกันขึ้นมาเองนะคู่จิ้นเนี่ย ซึ่งมันกลายเป็นดาบสองคม เพราะคนที่มีคู่จิ้นอยู่แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเล่นกับคนนั้นตลอดไป เขาก็อยากจะไปจิ้นกับคนอื่นบ้าง”
แต่เมื่อเปลี่ยนคู่แล้วถูกยี้ “ถามหน่อยว่าศิลปินที่คุณชื่นชอบจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อนี่คือผลงานเขาเหมือนกัน”
ดังนั้น อยากให้มองเนื้องานเป็นหลักมากกว่าใครคู่ใคร
เพราะขนาดฝ่ายชายจูบจริงกับนางเอกคนอื่นตลอด จน “แอบหวง” แต่ก็ต้องทำใจ
เพราะ “มันคืองาน ไม่มีปัญหาอะไร ไม่สั่งห้ามอะไร ทุกคนมีลิมิตของตัวเอง จุ๋ยเชื่ออย่างนั้น เราก็เคารพในการทำงานของแต่ละคนอยู่แล้ว”

“พุฒก็ 30 จุ๋ยก็ 30 กว่าแล้ว เราค่อนข้างโต ดังนั้น การมองภาพหรือใช้ชีวิตจะต่างจากเด็กๆ เรามีความรับผิดชอบมากพอแล้วและมีความคิดความอ่านไปในทางเดียวกัน มันเลยไม่ได้มีอะไรยากลำบาก” จุ๋ยเล่าอย่างจริงจัง
บอกอีกว่า ทุกวันนี้นอกจากจะได้เจอกันอย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์ในกองละคร “เกมมายา” ที่เล่นคู่กันแล้ว ยังพาไปสานสัมพันธ์กับครอบครัวอยู่บ่อยๆ
“ฝั่งเขาก็น่ารัก ฝั่งเราก็เอ็นดูพุฒมาก หอมซ้ายหอมขวาหอมหน้าหอมหลัง เพราะบ้านจุ๋ยเป็นบ้านทัชชิ่ง ชอบแสดงความรักด้วยการกอดหอมอยู่แล้ว จุ๋ยก็กอดปะป๊าเขานะ”
“สำหรับจุ๋ยเป็นช่วงที่จริงจังแล้ว เราต้องเอาครอบครัวเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าทำอะไรแค่ 2 คน ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว ต้องคิด จริงจัง และเป็นผู้ใหญ่มากๆ”
เธอสารภาพอีกว่า การเสียชีวิตของ ปอ – ทฤษฎี สหวงษ์ ทำให้คิดได้ว่า “ชีวิตมันสั้นมาก”
“ฉะนั้น อะไรที่ทำแล้วมีความสุข ไม่เดือดร้อนใคร มีประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม ทำไปเลย”
อย่ารอเวลา!

—–

เจวายเจ

จุ๋ย-เจนี่-หญิง

ถึงใน “กำไลมาศ” จะร้ายใส่กัน แต่นอกจอนั้น 3 สาว จุ๋ย, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, หญิง-รฐา โพธิ์งาม ซี้กันมากกก
“ตอนแรกก็คิดว่าจะเข้ากับเขายากหรือเปล่า” จุ๋ยเล่าถึงเจนี่ผู้มีภาพลักษณ์ไฮโซ
แต่ปรากฏว่า “ตัวจริงแมนมาก ติดดิน จุ๋ยลงไปคลุกขี้ดินแล้วมีหญ้าติด พี่เจนก็หยิบออกให้ทั้งที่ยังไม่สนิทกัน”
เช่นเดียวกับหญิงที่ลุยๆ ผิดกับลุคเซ็กซี่
“พอผู้หญิงแมนๆ มาอยู่ด้วยกัน มันเข้าใจกันดี เคมีเข้ากัน”
สนิทกันถึงขั้นตั้งแก๊ง “เจวายเจ (JYJ)” อันมาจากอักษรย่อของชื่อเล่นแต่ละคน
ส่วนที่น่าสงสารสุดคงหนีไม่พ้นพระเอกที่โดนรุมแกล้ง
“ถ้ารวมกัน 3 คน เต้ยวิ่งหนีอ่ะพูดเลย”
ก็ตัวแม่มาเองทั้งนั้น…ฮ่าาา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image