ก่อนจะเป็นผู้บรรยายงานพระราชพิธี งานที่ต้องกลั้นน้ำตา ข่มอารมณ์ และขอบารมีในหลวง ร.9 คุ้มครอง

ในการถ่ายทอดสดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม รวมถึงพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เชิญพระโกศพระบรมอัฐิและพระผอบพระบรมราชสรีรางคาร ไปยังพระบรมมหาราชวัง ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม นอกจากพวกเราชาวไทยจะได้เห็นถึงพระราชพิธีสำคัญตามโบราณราชประเพณีที่ยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติแล้ว สิ่งหนึ่งซึ่งผู้เฝ้าชมพระราชพิธีรู้สึกตรงกันคือ เรื่องของทีมผู้บรรยายซึ่งรับหน้าที่สำคัญและทำออกมาได้อย่างน่าชื่นชม

เกี่ยวกับเรี่องนี้ นิลาวัณย์ พาณิชย์รุ่งเรือง ผู้ประกาศข่าวจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ซึ่งเป็นหนึ่งในทีม อันประกอบด้วย สายสวรรค์ ขยันยิ่ง, เกียรติยา ธรรมวิภัชน์, ธีรวัฒน์ พึ่งทอง, รัตน์มณี กังวาลไกล, อุรัสยาน์ เพ็ชรสดศิลป์, ณิศารัช อมะรักษ์, พรอัปสร นิลจินดา, สุพัชรินทร์ ชาญช่างเหล็ก, สิริเสาวภา ฤกษนันทน์, ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ และ ดร.รุ่งทิพย์ โชติณภาลัย เปิดใจกับ มติชนออนไลน์ ว่าได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 วันรุ่งขึ้นหลังจากพระองค์ท่านสวรรคต

“โดยส่วนตัวจึงเตรียมการเป็นระยะเวลา 1 ปี” นิลาวัณย์กล่าว และว่า ตลอดระยะเวลานั้นได้ติดตามข่าวสาร รวมถึงหาข้อมูลในด้านต่างๆ ของพระองค์ท่านมาตลอด

ทั้งนี้ เธอเผยความรู้สึกว่า การปฏิบัติหน้าที่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ เป็นการทำงานที่เปี่ยมไปด้วยความเศร้า

Advertisement

“ความรู้สึกไม่ต่างกับคนไทยทุกคน ที่เหมือนดวงใจหายไป แต่เราก็ต้องทำงานต่อไปด้วยจิตใจที่สงบ อดกลั้นอารมณ์เศร้าเสียใจไว้ ข่มใจ โดยนึกถึงคำสอนของพระองค์ที่ว่า ทุกอย่างต้องดำเนินต่อ เพราะมานั่งนึกดูว่าถ้าเราเฉย ไม่ทำอะไรเลย สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำมาก็ไม่มีประโยชน์ พอได้สติ เราก็สานต่อ พยายามทำงานต่อ”

“ยิ่งในพระราชพิธีที่สมพระเกียรติ แล้วเผยแพร่ออกไปทั่วโลก เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด”

นิลาวัณย์ พานิชย์รุ่งเรือง

บอกด้วยว่าตลอดช่วงของการบรรยาย นอกจากจะพยายามข่มความรู้สึก พร้อมกับคิดปลอบใจตัวเองแล้ว อีกสิ่งที่เธอทำคืออธิษฐานขอพระบารมีของพระองค์ปกเกล้าปกกระหม่อมให้ทำงานนี้ด้วยความราบรื่น

Advertisement

“ขอให้ได้ทำงานเพื่อถวายพระเกียรติสูงสุด ได้อย่างสมบูรณ์ มีสติ มีปัญญา ขอใช้สติ ขอใช้ปัญญา ประสบการณ์และความรู้ที่มีเพื่อจะถ่ายทอดพระราชพิธี อันสะท้อนถึงสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพให้ออกไปอย่างดี”

บอกอีกว่า ก่อนจะทำหน้าที่ในเช้าวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เธออ่านหนังสือที่มีเนื้อหาทั้งที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่าน และหนังสือที่เกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็พยายามหาข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อให้สิ่งที่จะบรรยายไปนั้นมีข้อมูลที่ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด

ทั้งนี้ เธอยังขอฝากแง่คิดไปถึงประชาชนชาวไทยหลังจากผ่านพ้นงานพระราชพิธีในครั้งนี้อีกด้วยว่า

“อยากคนไทยทุกคนได้ปฏบัติตามแนวทางพระราชดำริ เป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศ ทั้งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การปิดทองหลังพระ เรื่องของการวิริยะอุตสาหะ ก็จะทำให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เหมือนดั่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำงานหนักเพื่อเรามาตลอด”

ด้าน ธีรวัฒน์ พึ่งทอง ผู้ประกาศข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อีกหนึ่งในทีมก็ว่า เขาเองก็มีความเศร้าไม่ต่างกัน หากด้วยหน้าที่ก็ต้องพยายามเก็บความรู้สึก และควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

เล่าด้วยว่า ตั้งแต่ได้ทราบว่ารับหน้าที่ในพระราชพิธีนี้ เขาก็พยายามเตรียมข้อมูล โดยใช้เวลาศึกษาอยู่นาน จากทั้งคู่มือสื่อมวลชนที่หน่วยงานราชการพิมพ์แจก และหนังสือหลายเล่มที่ล้วนให้ข้อมูลที่ดียิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ‘ธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านาย’ (สนพ.มติชน) และ ‘เสด็จสู่แดนสรวง’ (งานจากนักวิชาการหลายคน ที่พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ เป็นบรรณาธิการ) ที่ล้วนแต่มีเรื่องราวหลากหลาย ทั้งความรู้จากนักวิชาการหลายท่าน ความเชื่อตามหลักศาสนาต่างๆ ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการจัดการงานศพสมัยโบราณ รวมถึงเรื่องของจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพ ซึ่ง 2 เล่มนี้ ถือเป็นเล่มหลักๆ นอกนั้นก็จะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องของพระเมรุมาศ

กับหน้าที่ผู้บรรยายในพระราชพิธีซึ่งหลายคนมองว่าเป็นหนึ่งในหน้าที่ซึ่งสำคัญนั้น ธีรวัฒน์บอกว่า สำหรับเขาทุกหน้าที่สำคัญหมด

“แม้กระทั่งพี่น้องประชาชนเป็นล้านๆคนที่เป็นจิตอาสาในงานนี้ พวกเขาก็ทำหน้าที่สำคัญ เพราะนี่คืองานใหญ่มาก”

“งานของผู้บรรยายเอาจริงๆ ทำหน้าที่น้อยกว่าน้องๆ ที่เป็นจิตอาสาด้วยนะ เพราะเราไม่ได้ใช้กำลังกายอะไรมากมาย เพียงแต่อาจจะมีความเครียดในเรื่องของการเตรียมข้อมูล หลายๆ คน พี่ๆ ที่เป็นผู้บรรยายก็นอนไม่ค่อยหลับ คือผสมหลายอย่างทั้งความเครียดในเรื่องของงาน ข้อมูลที่จะเตรียมมาจะครบถ้วนสมบูรณ์ได้แค่ไหน เวลาพูดจริง จะออกมาอย่างที่เราเตรียมไว้หรือเปล่า พอรวมๆ กันก็เป็นความกดดัน แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องขอบคุณทุกๆ คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานถ่ายทอดทั้งหมด”

ธีรวัฒน์ พึ่งทอง

ธีรวัฒน์ยังเปิดใจด้วยว่า โดยส่วนตัวนั้นแม้จะรู้ว่าหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่ง เพราะเป็นงานพระราชพิธีของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของปวงชน แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้มีงานพระราชพิธีนี้เกิดขึ้น

“ที่ผ่านมาผมรับหน้าที่อ่านข่าวในพระราชสำนักอยู่แล้ว มีการบรรยายพระราชกรณียกิจในครั้งอื่นๆ ก่อนหน้า แต่ครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่ที่สุด แต่เป็นงานใหญ่ที่บอกตรงๆว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น ไม่อยากบรรยายเหตุการณ์นี้”

อย่างไรก็ดี เมื่อทุกสิ่งต้องเป็นไปตามกฎธรรมชาติ เขาและผู้บรรยายทุกคนจึงตั้งใจมั่นว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

“ต้องทำออกมาอย่างดีที่สุด เสมือนให้ความรู้สึกของคนไทยหรือภาพที่จะปรากฏในวันพระราชพิธียังคงติดตราตรึงใจไปตลอด แล้วไม่ใช่แค่นั้น ยังจะพยายามหาช่องที่เราจะใส่เรื่องพระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านพระราชทานไว้ให้ได้ซึมซับไป ไม่อยากให้จบแค่ว่าเป็นพระราชพิธี และเป็นความสง่างามสมพระเกียรติเท่านั้น แต่อยากให้จดจำสิ่งที่พระองค์ทรงสอน แล้วเอาไปใช้กัน เพื่อที่ว่าแม้พระวรกายของพระองค์จะไม่ได้ปรากฏให้เห็นแล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงใกล้ชิดกับชีวิตของเราที่เป็นคนไทยให้มากที่สุด”

“นี่เป็นความรู้สึกของผู้บรรยายที่ได้คุยๆ กันมา และเป็นความรู้สึกส่วนตัวด้วยที่อยากให้มีสิ่งนี้เกิดขึ้น”

ในพระราชพิธีอันสำคัญยิ่ง

ทั้งนี้ ในส่วนสำนักข่าวไทยก็มีคลิปเบื้องหลังการทำงานของผู้บรรยายคนอื่นซึ่งเล่าถึงการเตรียมตัว รวมถึงการหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมถึงหนังสือเพื่อใช้ในการทำงานครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในเล่มที่ปรากฏในคลิปคือ ‘สู่ฟ้าเสวยสวรรค์’ (สนพ.มติชน) ด้วยเช่นกัน

 

เบื้องหลังผู้บรรยาย ทรท. ถวายงานรัชกาลที่ 9 ครั้งสุดท้าย

#เบื้องหลังผู้บรรยาย โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถวายงานรัชกาลที่ 9 ครั้งสุดท้าย คลิก ► http://www.tnamcot.com/view/59f0a2eee3f8e40ae18e5086• อ่านข่าวเพิ่มเติม : tnamcot.com• เฟซบุ๊ก : fb.com/tnamcot• ยูทูบ : youtube.com/tnamcot• แอดไลน์ : line.me/R/ti/p/%40tnamcot• ทวิตเตอร์ : twitter.com/tnamcot• อินสตาแกรม : instagram.com/tnamcot• ช่อง 9 MCOT HD กดเลข 30

โพสต์โดย สำนักข่าวไทย บน 25 ตุลาคม 2017

หนังสือ ‘สู่ฟ้าเสวยสวรรค์’ (สนพ.มติชน)

 

 

ขอบคุณคลิปจากสำนักข่าวไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image