‘เจมส์ ธีรดนย์’ เปรียบบท ‘บู’ เสมือนบันไดที่อยากก้าวข้ามไปให้ได้ ยอมทั้งฝึกสเก็ต-ลดน้ำหนัก-เปลี่ยนบุคลิกภาพ

เรียกว่าได้กระแสและความนิยมไปไม่น้อย เมื่อซีรีส์เรื่อง SOS skate ซึม ซ่าส์ ทางช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 ออกอากาศ ก็เพราะตัวละคร บู นักเรียนหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนได้รับการบำบัดด้วยกีฬาสเกตบอร์ด นั้น นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่อย่าง เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ได้ถ่ายทอดให้ผู้ชมเชื่อสนิทใจว่าเขาและตัวละครคือคนเดียวกันอย่างแยกไม่ออก

และเมื่อซีรีส์ดังกล่าวออกอากาศถึงตอนอวสานไปเมื่อคืน (25 พ.ย.) ที่ผ่านมา เจมส์ ธีรดนย์ ในฐานะที่สวมคาแร็กเตอร์เป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและผูกพันธ์กับตัวละคร จึงขอกล่าวถึงความรู้สึกถึงการพลิกบทบาทในครั้งนี้ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว jamyjamess ที่เขาว่า “เหมือนเป็นก้าวบันไดก้าวนึงที่ถ้าผมไม่ได้ก้าวผ่านขั้นนี้ผมคงเสียดาย”

“ซีรีส์จบทั้งทีขอเขียนไรดีๆ กับเค้าบ้าง ในที่สุดก็จบลงไปแล้วสำหรับ #SOSskateซึมซ่าส์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้พลิกคาแร็กเตอร์ที่ผมเคยได้รับมาตลอดของการแสดงเลยก็ว่าได้ มันเหมือนเป็นก้าวบันไดก้าวนึงที่ถ้าผมไม่ได้ก้าวผ่านขั้นนี้ผมคงเสียดาย และคงโหยหาที่จะมาข้ามมันให้ได้ ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าต้องเล่นเรื่องนี้จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาปีนึงได้ ทั้งฝึกซ้อมสเก็ต ลดน้ำหนัก เปลี่ยนบุคลิกภาพ และเข้าไปทำการบ้านกับโรคซึมเศร้าจริงๆ ทุกอย่างเพื่ออยากให้เรื่องนี้ออกมาดีที่สุด ขอบคุณ producer ที่ได้ริเริ่มทำโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา ขอบคุณผู้กำกับที่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองกับผม ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ นักแสดง ที่ฝ่าฟันความเหนื่อยกันมาตั้งแต่วันซ้อมยันวันนี้ ขอบคุณทีมงานเบื้องหลังทุกๆ คนที่ทำให้เรื่องนี้มันเป็นรูปเป็นร่างและได้ไปสู่สายตาทุกคน และขอบคุณผู้ชมทุกๆคนที่คอยสนับสนุนและให้ข้อเสนอแนะกับซีรีส์นี้มาโดยตลอด
สุดท้ายนี้ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ติดตามผม คอยสนับสนุนผมในผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา และหวังว่าผมจะมีโอกาสพิสูจน์และพัฒนาตัวเองในด้านการแสดงและความสามารถใหม่ในด้านต่างๆ ให้ได้เห็นกัน จนกว่าจะถึงวันนั้นยังไงก็อย่าลืมผมคนนี้ก่อนนะครับ 🙂 รัก จมจ”

Advertisement

So my S part has finally comes to an end. One could say this is my first completely different role since i started this career. This is a very big step for me and would really regret it if I didnt receive this chance or couldnt overcome this hurdle. Since the first day I know I would take this role, it has now been one year; practicing Skateboard, weight lossing, change my posture, and deeply study the major depressive disorder disease, all of this in order to bring out the best “SOS” and Boo that could possibly be.
So I would like to thank you my producer for starting this project, thank you my director for create this opportunity to proved myself, thank you my colleague actors for staying and practicing with me till this day, thank you every member of the crew for shaping this into this great piece of work for everyone to watching and support SOS.

Lastly, I want to thank you everyone that support me since the first day I step into this industry till today and hope I could get a chance to proved myself again but not just acting, but every other thing that one artist could be. Until that day, I hope you guys don’t forget me yet 🙂 With love, JMJ

งานนี้มีคนเห็นพัฒนาการทางการแสดงของเขาไม่น้อยและส่วนหนึ่งมาร่วมชื่นชมนักแสดงหนุ่มไว้ว่า

Advertisement

“บอกเลยว่า-เล่นโคตรดี เมืองไทยต้องการนักแสดงแบบนี้แหล่ะ!!!!”

หรือ “เอาจริงๆ คือตอนดูหนังอ่ะ หนูโคตรเชื่อเลยนะว่าพี่เจมส์คือบู เก่งมากงับ ?????”

เรียกว่าชื่นใจทั้งผู้แสดงและผู้ชม

ขอบคุณภาพจาก jamyjamess, Project S The Series

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image