เพิ่ง ‘ร้าย’ จนแฟนๆปลื้มปริ่มในละคร ‘เพลิงพระนาง’ ไปได้ไม่นานเท่าไหร่ นางเอกที่โดดเด่นในบทที่ไม่ใช่ผ้าพับไว้ เปรี้ยว ทัศนียา การสมนุช ก็มารับบท ‘พิกุล’ วิญญาณผู้มีความเคียดแค้น ในละคร ‘วังนางโหง’ ที่กำลังแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ทุกวันพุธและพฤหัสบดี หลังข่าวค่ำ
“ในเพลิงพระนางจะเป็นคนจิตใจโหดร้ายแบบอำมหิต ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา แต่พิกุลเป็นแค่ผีตนหนึ่งที่มีความเคียดแค้น แต่ใความเคียดแค้น มันมีความน่าสงสาร ตรงที่เขาเป็นอย่างนี้เพราะรักผู้ชายคนหนึ่งมากๆ แล้วโดนคนที่รักหักหลัง”
ซึ่งในความรู้สึกเธอนั้น “ตัวละครมันน่าค้นหา”
“จากหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา กลายเป็นคนที่แค้นอาฆาตขนาดนี้ได้ยังไง น่าศึกษา ก็เลยรับเล่น” และก็ตั้งใจเต็มที่
เพราะยิ่งผลตอบรับจากผู้ชมดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องทำให้ดีขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้เสียงชื่นชมในทำนองว่า ดูจากผลงานแล้ว เธอจะสามารถก้าวเป็นนางเอกอันดับต้นๆ และดีไม่ดีจะเป็นเบอร์ 1 ของช่องได้ไม่ยาก จะสร้างกำลังใจ และเป็นแรงผลักดันในความพยายามที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น
“แต่ไม่ได้อยากเป็นที่ 1 เหนือใคร”
“แค่คนดูรัก แค่คนดูจำได้ ก็ดีใจแล้วค่ะ” เธอว่าพลางยิ้ม
การถูกนำไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ อย่าง อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ก็เป็นอีกเรื่องที่เปรี้ยวบอกว่า ไม่อยากเลยจริงๆ
“อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับพี่อั้มเลย เขาสวยมาก สวยแบบเปรียบเทียบกับอะไรไม่ได้”
“แล้วคนแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่อยากให้เปรียบเทียบ เอาคุณแม่ไว้บนหิ้งดีกว่า” ว่าแล้วก็ยิ้มอีก
ที่ผ่านมาเปรี้ยวบอกว่า นอกเหนือจากเสียงชม เธอก็ได้เสียงติมาเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งทุกเสียงที่มาถึงก็พยายามรับฟัง และนำไปปรับปรุง พัฒนา
บอกอีกว่าตั้งแต่เข้าวงการมาได้ราว 4-5 ปี เธอได้พบ เรียนรู้ และนำไปสู่การปรับตัวในหลายเรื่อง
“คือเราก็เหมือนโตขึ้นทุกปี ก็จะมองว่าในแต่ละปี ทำพลาดอะไรไปหรือเปล่า หรือทำอะไรไม่ดี ทำผิดไหม พยายามมองตรงนั้นแล้วเอามาปรับ”
ซึ่งจะว่าไปพอย้อนๆนึกแล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ “รู้สึกตัวเองโตขึ้นมาก”
“ความรับผิดชอบก็สูงขึ้นด้วย อย่างไปถ่ายละครก็ต้องไปให้ตรงเวลา ต้องมีวินัย ต้องอ่านบทและทำอะไรหลายๆอย่าง”
ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เพื่อประสงค์เดียว คือ “อยากให้งานออกมาดี และคนดูชื่นชอบละครที่เราเล่นไปเรื่อยๆ”
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่อง ‘หน้า’ ที่มีหลายเสียงบอกว่าเธอหน้านิ่ง หน้าดุ จนถูกมองว่าแอบหยิ่งนั้น เปรี้ยวว่า
“ถ้าเกิดรู้จักกันก็จะอธิบายนะคะ คือไม่ได้จะไปบอกว่าฉันไม่ได้หยิ่งนะ แต่ถ้ารู้จัก เขาจะเข้าใจว่าเราเป็นคนหน้าแบบนี้ ไม่ได้หยิ่ง”
“ไม่มีอะไร”
การจะยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ด้วยเหตุผลว่า เป็นดาราก็ต้องอย่างนั้น-คงไม่ใช่
“รู้สึกว่าตัวเองชอบความจริงใจ แล้วไม่ใช่ว่าเราเป็นแบบนี้แลวจะไม่ทักทายรุ่นพี่ หรือรุ่นน้อง เราทัก แต่คนที่ไม่รู้จัก แล้วไม่ได้สบตากัน เราไม่จำเป็นต้องยิ้มตลอดเวลา”
“มันเหมือนคนบ้าป่ะ” เปรี้ยวหันมาถามความเห็นพลางหัวเราะ
ก่อนยืนยัน “จริงๆแล้วเป็นคนไม่มีอะไร ถ้าสบตากันก็ยิ้มให้อยู่แล้ว”
ในส่วนของงานเปรี้ยวซึ่งมีสัญญากับช่อง 7 อีกราวๆ 1 ปีบอกว่าเธอมีความสุขดีกับการทำงานที่นี่ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาจึงน่าจะต่อสัญญาไปอีก
“ยังสนุกกับการทำงาน แล้วถ้ามีบทบาทใหม่ๆมาก็อยากจะเล่น จะได้พัฒนาตัวเอง”
“อยากเล่นคอมมิดี้ค่ะ ยังไม่เคยได้เล่น รู้สึกว่าต้องสนุกแน่”
ครั้นเมื่อแซวว่า หน้าดุอย่างนี้จะมีคนให้เล่นบทขำๆเหรอ
เธอก็ยังอุตส่าห์หาเหตุผลมาแย้ง บอก “ตลกหน้านิ่งก็มีเยอะนะ”
ดูท่าจะอยากจริง.
…………………………………………………………………………..
‘พิกุล’ กับ ‘เปรี้ยว’
“วังนางโหงเป็นละครแนวดราม่า แล้วก็ผีๆนิดนึง ซึ่งนอกจากความหลอนที่มอบให้กับผู้ชมแล้ว ยังมีข้อคิดหลายๆอย่างที่แฝงอยู่มากมาย อย่างเช่น ตัวพิกุลเอง เรื่องความแค้น ความชิงชัง ถ้าเราแค่ปลดล็อคตัวเอง เราก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องเอาตัวไปจมอยู่กับความเคียดแค้น ไปหาความสุขเอาข้างหน้าก็ได้”
ทั้งนี้ถ้าเทียบกับตัวเธอ เปรี้ยวก็ว่า สามารถปลดล็อคไปได้ประมาณหนึ่ง ด้วยหลังๆมานี้เมื่อโตขึ้น ก็ไม่ค่อยโกรธใครแล้ว
“เหนื่อยอ่ะ ไม่รู้จะโกรธทำไม” เธอเปิดใจพร้อมเสียงหัวเราะ
“ก็แค่ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องยุ่งกัน แค่นั้นจบ”
