‘จอยซ์’ เล่าชีวิต 8 ปีในคุก เผยถ้าย้อนเวลาได้ ย้อนไปแล้ว !!

ครั้งหนึ่ง จอยซ์ ไทรอัมพ์ส คิงด้อม-พรพรรณ รัตนเมธานนท์ เคยพาชีวิตเข้าไปเกี่ยวพันกับยาเสพติด จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับและต้องติดคุกอยู่นานถึง 8 ปี 10 เดือน โดยปัจจุบันเธอได้รับการปล่อยตัวมาได้ 4 ปีแล้ว

“มันก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ” จอยซ์ถ่ายทอดความรู้สึก ผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน 31 

แล้วว่า “วันแรกที่ก้าวออกมามีความกลัว กลัวจนไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไง เอาตัวเองไปยืนอยู่ในสังคมแบบไหน จะทำอาชีพอะไรเพื่อประคองชีวิตตัวเอง”

กระทั่งมีโอกาสร่วมแสดงคอนเสิร์ต บอยโก แฟมิลี่ คริสต์มาส ทูเก็ตเตอร์ และเห็นว่ายังมีคนให้กำลังใจและไม่รังเกียจนั่นละ อะไรๆถึงดีขึ้น

Advertisement

“รู้สึกเป็นคนมากขึ้น หลังจากนั้นความกลัวก็หายไป สลัดทิ้งไปหมดเลย วันคอนเสิร์ตมีคนมาร้องไห้ข้างเวที เขายังรักเรา เรามองเห็น ความกลัวนั้นเลยเป็นการที่เราคิดไปเอง”

เล่าด้วยว่าตอนแรกที่ถูกชวนให้แสดงในคอนเสิร์ตดังกล่าว เธอปฏิเสธไป

“บอกไม่เอา อย่ายุ่งกับเรา เปลี่ยนเบอร์หนี แล้วย้ายไปใช้ชีวิตที่บ่อกุ้งที่ตราด ไปอยู่เงียบๆ จนเวลาผ่านไปก็ไม่รู้จะเอายังไง ยังสับสนกับความคิดตัวเอง เพราะถ้าใช้ชีวิตแบบนี้ ก็ต้องอยู่เป็นภาระให้กับพ่อแม่ ซึ่งมันไม่โอเค”

ดังนัันจึงตัดสินใจรับแบบกะทันหันในช่วง 2 วันก่อนแสดง

“ทุกคนดีใจ แต่พี่บอย  (บอย โกสิยพงษ์) เห็นวินาทีที่เรากำลังจะก้าวขึ้นคอนเสิร์ต ตื่นเต้นมาก พอได้ขึ้นไปสิ่งที่เห็นคือเขามาร้องไห้และแสดงความยินดีกับเรา ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องเขาเลย เราทำผิดมา แต่เห็นแบบนั้นก็อุ่นใจ เลยทำให้หายเป็นโรคจิต กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม”

ที่เพิ่มเติมคือเริ่มทำงานเขียน

“คือใช้ชีวิตในเรือนจำ เวลานั่งว่างๆ การเขียนคือการระบายความรู้สึก ถ้าวันหนึ่งเขียนแล้วได้แบ่งปันกับคนอื่น เพื่อเป็นประโยชน์ มันจะดี”

ทั้งนี้เธอยังเล่าถึงการต้องอยู่ในเรือนจำด้วยว่า

“วินาทีที่ก้าวเข้าไป จะรู้สึกว่ามันเป็นความแปลกใหม่ มีความกลัว ความกังวลใจ เพราะไม่มีญาติพี่น้องหรือคนรู้จักคอยเป็นเพื่อน คอยคุย ก็จะเจอเพื่อนใหม่ที่มีคดีความ ที่ทุกข์ใจ”

“ด้วยความที่เราเป็นคนมีชื่อเสียง ก็จะเป็นที่น่าสนใจของเพื่อนๆ ในนั้น เขาก็จะเข้ามาถามคดีเป็นยังไง โอเคหรือยัง บางคนก็เอาขนมให้กิน แต่ถ้าถามว่าเปิดใจอยากจะมีเพื่อน หรือมีเพื่อนที่ให้เราเล่าเรื่องของเราให้ฟัง เล่าความทุกข์ให้ฟังต้องใช้เวลา 3-4 ปี กว่าจะปรับได้”

“แต่ถามว่ามีเพื่อนสนิทในนั้นไหม เพื่อนสนิทเยอะมาก เพราะรู้สึกว่า เพื่อนที่อยู่ข้างในมีความเป็นห่วงเป็นใย จะสนิทกันไปเอง จะชอบเข้าไปนั่งเล่นกับเพื่อนที่เป็นรุ่นคุณป้า คุณยาย เขาจะนั่งเหงาๆ เราก็เข้าไปเล่นไปแหย่ เพราะเขาใช้ชีวิตวนไปแบบนี้ 5 ปี 10 ปี”

ส่วนที่เขียนในอินสตาแกรมส่วนตัวว่าอากาศหนาว ใครมีญาติอยู่ในเรือนจำ ให้ซื้อผ้าห่ม ถุงเท้าไปฝากนั้น เธอก็ว่าเป็นเพราะตอนที่อยู่ในนั้นมีความรู้สึกว่าตอนหน้าหนาว อากาศในนั้นจะหนาวมาก

“เรือนจำที่จอยซ์อยู่คือกรุงเทพนั่นแหละ แต่ไม่รู้ทำไมหน้าหนาวมันหนาวเหลือเกิน ขนาดนอนห่มผ้า 3-5 ผืนก็ยังหนาวอยู่ดี”

“ไม่รู้เป็นความคิดหรือจิตใจที่ส่งผล ยิ่งเทศกาลแบบนี้เป็นเทศกาลที่เพื่อนๆ นั่งหนาวรอญาติ ซึ่งก็มีนะที่บางคนญาติไม่รู้เลยว่า เขาติดคุกอยู่”

บอกด้วยว่าคนที่เธอรู้สึกคิดถึงมากที่สุดตอนอยู่ในนั้น คือพ่อกับแม่

“จากเคยเป็นคนแข็งมากๆ ไม่เคยแสดงความรักกับครอบครัว แต่ทุกครั้งที่เขียนจดหมายกลับบ้าน เราร้องไห้กับจดหมายนั้น เขียนขอโทษที่เป็นแบบนี้ เขียนตลอดว่า จอยซ์ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้มีโอกาสออกไปไหม ทุกครั้งที่เขียนก็จะร้อง”

และพอออกมาจากเรือนจำได้ “จากที่ไม่ค่อยแสดงออกกับที่บ้าน ก็จะวิ่งเข้าไปกอดพ่อ ไปอ้อน ไปเล่นกับแม่” จอยซ์ว่า

“เพราะเวลาที่เสียไปมากพอแล้ว มันทำให้เราเป็นคนใหม่”

เล่าอีกว่าตอนที่อยู่ในนั้น ทุกครั้งที่พ่อกับแม่มาเยี่ยม ทั้งคู่จะมาด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ได้ต่อว่าอะไร

“เขาแค่แบบเหมือนตบไหล่ แค่นี้คือการสื่อสารที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ ทุกครั้งที่มาจะยิ้ม เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟัง เป็นสิ่งที่เขาแสดงออกมาโดยที่ไม่บอกว่ารัก แต่เรารู้สึกได้ และก็ไม่ได้จะทิ้งเราไปไหน มาเยี่ยมอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที”

“ทำให้เรายิ้มเสมอ”

บอกด้วยว่าตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำ สิ่งที่เธอคิดอยู่เสมอคือเรื่องของอนาคต

“เรื่องฆ่าตัวตายไม่เคยอยู่ในหัวจอยซ์เลย มีแต่คิดว่า ถ้าอยู่อีก 20 ปี จะทำอะไรดี ศาลชั้นต้นตัดสิน 8 ปี พอศาลอุทรณ์ตัดสิน 33 ปี 4 เดือน ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต เพราะที่ผ่านมากาปฏิทินรอแล้ว พอมา 33 ปี เราเริ่มเรียน จนจบปริญญาตรีที่นั่น ของ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช สาขาภาพยนตร์ คิดว่างั้นเรียนให้จบ ป.โท เลยแล้วกัน”

ช่วงเวลา 8 ปี 10 เดือนในนั้น จอยซ์บอกว่าทำให้เธอคิดอะไรได้หลายอย่าง

“อย่างเช่นความคิดของตัวเอง ว่าวันนี้เมื่อปีที่แล้วเราทำอะไรบ้าง แล้วอยู่ในนั้นก็มีเพื่อนหลายประเภท หลายคน หลายสังคมที่ต่างกัน ก็เริ่มเข้าหาเพื่อนในแต่ละแบบ ได้ประสบการณ์ความผิดของคนอื่นมาเรียนรู้”

“สิ่งที่ได้คือเรียนเยอะมาก สายวิชาชีพที่เปิดสอน เรียนทุกอย่าง ไม่ปล่อยเวลาให้ว่าง”

และเมื่อพิธีกรถามว่าในฐานะที่เคยผ่านเรื่องอะไรๆมาหลายอย่าง มีอะไรอยากจะเตือนน้องๆ วัยรุ่นที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดบ้าง จอยซ์ก็บอก “ยาเสพติดไม่ใช่สิ่งที่น่าสนุกเลย”

“มันทำลายชีวิตเรา”

“ทุกๆ ครั้งถ้ามีผู้ใหญ่มาสอนหรือมาเตือนเราด้วยประโยคสั้นๆ ลองหยุดแล้วฟัง เพราะว่าสิ่งต่างๆ เหล่านั้นถ้าเขาไม่ประสบจริงๆ เขาไม่มาเตือนเราได้หรอก”

“สำหรับจอยซ์ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็อยากกลับไป แต่มันสายแล้วไง กลับไปไม่ได้แล้ว”

“ให้ดูชีวิตจอยซ์เป็นตัวอย่างก็ได้”

และนี่คือคลิปเปิดใจเต็มๆ

ขอบคุณ  Orange Mama

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image