‘เป๊ก ผลิตโชค’ เผยรับมือกับความดังข้ามคืนไม่ทัน จากนักร้องเกรดซีทำเงินติดลบสู่นักร้องยอดนิยม

ผ่านทั้งจุดของความสำเร็จ และจุดที่ต่ำสุด โดนกระแสคำวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ตลอด 10 กว่าปีในวงการบันเทิงของ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร แต่ก็ไม่เคยถอดใจหันหลังให้กับเส้นทางเส้นนี้ ล่าสุดเขาได้มาเปิดใจในรายการ เจาะใจ วันเสาร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 21.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD ว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการบันเทิงมามีช่วงพีคอยู่ 3 ช่วงด้วยกัน

“ช่วงแรกพ.ศ.2548 ออกอัลบั้มเพลงแรกในชีวิต ‘ไม่มีใครรู้’ ปรากฏว่าเพลงติดอันดับ คนชอบทั้งประเทศ ทำให้คนรู้จักเราหมด เรียกว่าเริ่มต้นได้ดี”

จนกระทั่งได้มาทำอัลบั้มรวม ‘เป๊ก-อ๊อฟ-ไอซ์’ ก็ยังได้รับผลตอบรับดีมากเหมือนเคย จนเริ่มเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของชีวิตที่หายจากวงการไป7-8 ปี เพราะผลงานที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่

“เป็นนักร้องเกรดซี ติด 1 ใน 3 ที่ทำเงินติดลบมาตลอด”

Advertisement

“ยังมีสัญญากับแกรมมี่อยู่ ทางค่ายไม่เคยทอดทิ้งนะ ติดที่ตัวเราเองที่ยังไม่แน่ใจว่าอยากทำงานต่อไหม เป็นช่วงที่แย่ที่สุดแล้วครับ”เป๊กว่า

แต่ทุกครั้งที่รู้สึกแย่เขาบอกว่าจะนึกถึงคำพูดของครูสมัยเรียนหนังสือที่บอกว่า ‘There are years that ask questions and years that answer’ ในชีวิตมันจะต้องมีช่วงที่เราตั้งคำถามว่า สิ่งที่เราฝันไว้มันจะมาถึงเมื่อไหร่ มันจะมีจริงไหม แล้วเราจะไปถึงไหม และมันก็จะต้องมีวันที่มันมีคำตอบของคำถามนี้

และทฤษฎีผีเสื้อ Theory of butterfly ที่ว่า ความสำเร็จเหมือนผีเสื้อ ถ้าเราวิ่งไล่มันอาจยิ่งบินหนี ซึ่งเป๊กบอกว่าตนเองคล้ายๆ กับทฤษฎีนี้

Advertisement

“เพราะที่ผ่านมาผมก็ได้พยายามไล่ล่าความสำเร็จมาแล้ว เราเชื่อว่ามันคือช่วงจังหวะชีวิตของเรา ถึงเวลาทุกอย่างจะมาเอง แต่เราต้องพัฒนาตัวเองให้พร้อมตลอดเวลา”

จนกระทั่งมีรายการแข่งร้องเพลงติดต่อเข้ามา โดยทางรายการก็ได้บอกกับตนตรงๆ ว่า ความจริงนั้นก่อนหน้าได้ติดต่อนักร้องอีกคนนึงไว้ แต่คิวไม่ได้ก็เลยมาติดต่อตนแทน

“เราก็ตอบตกลงทันที ไม่ได้คิดว่าเป็นตัวสำรองอะไร”

“เพราะตั้งใจว่าอีก 2 สัปดาห์จะไปเมืองนอก แต่ก็ยังไม่ตกรอบ ได้ไปต่อเรื่อยๆ”

ซึ่งการไปประกวดร้องเพลงในครั้งนี้ก็ทำให้เขาได้เดินเข้าสู่ช่วงพีคช่วงที่ 3 ก็คือปัจจุบันนี้ ซึ่งเป๊กบอกว่ายอมรับว่างง กับชื่อเสียงที่มีในตอนนี้ เพราะเมื่อก่อนเวลาไปงานที่ไหนก็จะมีเพียงแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ ที่ตนสามารถจำชื่อได้ทุกคนมารอเท่านั้น

“แต่พอมาตอนนี้ก็ตกใจเหมือนกัน เพราะไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต”

“ทำให้ผู้ใหญ่ในค่ายเป็นห่วง โดยเฉพาะพี่เบิร์ด ธงไชย เรียกไปคุยปรับทัศนคติ คุยกันประมาณ 4 ชม. บอกว่าเรามาถึงจุดนี้แล้วนะ เราต้องเสียสละความเป็นตัวเอง การที่เรามาอยู่ตรงนี้ได้คือฟ้าได้ลิขิตมาแล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image