“สิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่ปอและครอบครัวเขา คนไทยและพวกเราทุกคนเสียใจและสะเทือนใจมากจริงๆ แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกของภรรยา ลูก และครอบครัวพี่ปอ ดังนั้นพอเห็นภาพที่เขาเซลฟี่กันจึงรู้สึกว่ามันเกินไปจริงๆ” โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล พูดถึงเหตุที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค Opal Panisara Official “คุณก็รู้ว่าครอบครัวเค้าต้องเผชิญอะไรมาบ้าง ยังจะยืนยิ้มขอเซลฟี่ในงานศพอีก โตมายังไงถึงต่ำช้าปราศจากความละอายได้ขนาดนี้” ที่ตอนนี้กำลังกลายเป็นกระแส
กระแสที่ด้านหนึ่งมีคนเห็นด้วย และช่วยสนับสนุน กับอีกด้านที่ต่อว่า และตำหนิ
“หลายคนเข้ามาว่าในไอจีปอล์ว่า ก็เขาเป็นดาราทำไมจะถ่ายไม่ได้ ซึ่งปอล์รู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวแล้วล่ะว่าเขาจะเป็นดารา ทนายความ คนขายกับข้าว หรืออะไรก็ตาม แต่ในสภาวะที่เขาต้องเผชิญตอนนี้ ถ้าในหลักมนุษยธรรมควรจะเข้าใจและให้เกียรติกันมากกว่านี้ คิดง่ายๆ ว่าถ้าเกิดเรื่องนี้กับคุณกับงานของคนที่คุณรัก คุณโอเคเหรอคะ”
บอกด้วยว่าที่เขียนไป ไม่ได้เขียนด้วยความรู้สึกโกรธหรืออะไร
“แค่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจิตใจคนเราทำไมถึงเหี้ยมเกรียมขนาดนั้น ในการเดินเข้าไปแล้วกรี๊ดกร๊าดขอถ่ายเซลฟี่ ประเทศไทยที่ปอล์โตมามันไม่ใช่แบบนี้ อย่างเวลาที่ปอล์มีปัญหา พวกพี่ๆ สื่อแค่มองตาก็จะเข้าใจ ดูแลปกป้องกัน แล้วเรื่องพี่ปอคนไทยเอาใจช่วยพี่เขามาตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ดังนั้นคนที่ไปร่วมงานต้องรู้แน่ๆ ว่าครอบครัวพี่ปอเผชิญอะไรอยู่ แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ในวันที่เขาแย่ที่สุด”
ส่วนเรื่องที่ถูกติ หรือต่อว่า “ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ” เธอบอก
“เพราะถามตัวเองก่อนโพสต์แล้วว่าคิดแบบนั้นจริงมั้ย ปอล์ไม่ได้ด่าใครต่ำด้วยชนชั้น ดีชั่วสูงต่ำมันวัดที่จิตใจ ซึ่งปอล์ไม่รู้ว่าจิตใจของพวกเขาทำด้วยอะไรจริงๆ ค่ะ”
