Max Factor (3) Hollywood’s First Make-up Artist แม็กซ์ แฟคเตอร์ เมกอัพอาร์ติสท์คนแรกของฮอลีวู้ด

แม็กซ์ แฟคเตอร์ ผู้ซึ่งจะกลายมาเป็นราชาแห่งเมกอัพอาร์ติสท์ของฮอลีวู้ด เกิดในประเทศโปแลนด์

ดินแดนส่วนนี้เคยเป็นที่รวมของอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในช่วงที่ยุโรปและอเมริกากำลังตื่นตัวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์เริ่มประดิษฐ์และเรียนรู้การใช้เครื่องจักรกลต่างๆ อันนำมาเพื่อผลผลิตมหาศาล

คนเชื้อสายยิวซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์เชี่ยวชาญในการค้าขาย อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองนี้มากมาย คนพวกนี้เป็นทั้งนายทุนผู้ร่ำรวย และชนชั้นแรงงานที่ยากจน

ในปี ค.ศ.1887 เด็กชายแม็กซิมิเลี่ยน แฟ็คตอรอวิค์ซ/ Maximilian Faktorowicz ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวยิวชั้นล่าง ทั้งพ่อและแม่ของเขาเป็นคนงานโรงงานทอผ้า ซึ่งมีรายได้ไม่พอเลี้ยงทุกปากท้องในบ้าน

Advertisement

ลูกมากแต่ยากจน เป็นสูตรสำเร็จของชนชั้นแรงงานทั่วทั้งโลก

ครอบครัวแฟ็คตอรอวิค์ซไม่อาจใส่ใจเรื่องการศึกษาของลูกๆ ได้ เลี้ยงๆ กันไปตามมีตามเกิด พอโตขึ้นมาหน่อยก็ปล่อยให้ออกไปทำงาน เป็นการเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว

เด็กชายแม็กซ์ผู้มีร่างแคระแกร็นเพราะอาหารไม่สมบูรณ์ เริ่มออกทำงานตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ

ตัวนิดเดียว แต่แม็กซ์ก็แคล่วคล่อง สามารถเอาถาดของขบเคี้ยวแขวนคอ เดินขายในโรงละคร แถมยังคิดเลขในใจได้เร็ว ไม่เคยทอนเงินผิดแม้แต่ครั้งเดียว

ความตัวเล็กไม่เป็นอุปสรรค กลับช่วยให้ขายดี คนดูละครล้วนเป็นผู้มีอันจะกิน เห็นเด็กกระจิริดต้องมาทำงานยามค่ำคืน ก็อดสงสารไม่ได้ ช่วยกันอุดหนุนให้เจ้าหนูไม่ต้องกลับบ้านมือเปล่า

แน่นอนว่า สมัยนั้นยังไม่มีกฎหมายแรงงานเด็ก การทำงานของแม็กซ์จึงเป็นเรื่องธรรมดา

แต่สำหรับแม็กซ์ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

นอกจากจะดีใจที่หาสตางค์ได้แล้ว แม็กซ์ยังมีความสุขกับการได้เข้าไปอยู่ในโลกมายา

โรงละครเป็นอีกโลกหนึ่ง ที่ต่างจากโลกแร้นแค้นของแม็กซ์โดยสิ้นเชิง ผู้คนแต่งตัวสวยงาม นักแสดง นักร้องแต่งหน้างามเพริศพริ้ง สีจัดจ้านที่พวกเขาใช้กันดูสวยจับตาแม็กซ์ไม่ว่าจะอยู่นอกหรือในเวที

เขาหลงรักผู้คนในโลกมายาเต็มหัวใจ จดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็น และใฝ่ฝันอยากเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่ว่าเสียเหลือเกิน

แต่ปีหนึ่งต่อมา แม็กซ์ได้งานประจำที่ร้านขายยาและคลินิคทันตแพทย์ เป็นเด็กผู้ช่วยของเภสัชกร รายได้แน่นอนกว่าการขายของขบเคี้ยว แต่ไม่มีอะไรตื่นเต้นเหมือนที่โรงละคร หน้าที่ก็คล้ายๆ คนรับใช้ หยิบนั่น ส่งโน่น ให้ตามที่คุณเภสัชหรือคุณหมอฟันจะสั่ง

แต่แม็กซ์ก็ตั้งอกตั้งใจ เพราะมีนิสัยอยากเรียนรู้ เขาจดจำชื่อยา มองวิธีการผสมตัวยาต่างๆ เข้าด้วยกัน ราวกับรู้ว่าวันข้างหน้าจะได้ใช้เป็นประโยชน์

แม้จะตั้งใจทำงาน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ทน ใครจะเก็บผู้ช่วยตัวกระเปี๊ยกเอาไว้ เมื่อหาคนมีอายุสมควรกว่าได้

ในระยะนี้แม็กซ์อายุได้เพียงเก้าขวบ เมื่อแม่ป่วยและตายจากไป พ่อแทบจะหมดกำลังเลี้ยงลูก

แม็กซ์กระวีกระวาดหางานใหม่ และไปได้งานเป็นเด็กรับใช้และฝึกงานกับช่างทำวิกผมและเครื่องสำอาง ช่วยงานเท่าที่เด็กตัวเล็กๆ จะทำได้

การถักวิกทำให้แม็กซ์นึกถึงโรงละคร พวกนักแสดงต้องใช้วิกกันทั้งนั้น ในโลกมายา เมื่อสวมวิกเข้าไปแล้ว บุคลิกก็เปลี่ยนไปตามบทบาท

แม็กซ์ทำงานด้วยความสนุก สังเกตและจดจำวิธีการทำวิก ไม่น้อยไปกว่าเมื่อครั้งมองดูเภสัชกรผสมยา เขาขยัน กระตือรือร้น นอกเหนือจากหน้าที่ที่ได้รับ แม็กซ์ยังยินดี ‘รับอาสา’ ช่วยคนโน้นคนนี้ ทำให้ได้เรียนงานทุกขั้นตอน

แม็กซ์ทำงานอยู่กับช่างวิกหลายปี จากงานรับใช้ทั่วไป แม็กซ์กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของช่างทำวิก ดูเหมือนเขาจะมีพรสวรรค์ในด้านนี้เสียด้วย

พอเริ่มเชี่ยวชาญ ผู้ใช้วิกก็ชักติดใจในฝีมือ เพราะแม็กซ์ช่วยเวลาใส่วิก จัดแต่งให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้เขายังช่วยแต่งหน้าได้อีก

ไม่ได้ร่ำเรียนจากที่ไหน แค่ดูๆ คนอื่นทำ แล้วแม็กซ์ก็ทำตามได้อย่างดี

กลุ่มคนที่ติดใจแม็กซ์มากคือพวกนักแสดงของคณะอิมพีเรียล แกรนด์ โอเปร่า ของรัสเซีย ที่เดินทางมาแสดงในเมือง

บ้านเกิดของแม็กซ์เป็นเมืองประเภทข้าหลายเจ้า บ่าวหลายนาย ในช่วงหลายร้อยปี ประเทศที่เคยเป็นเจ้านายมีทั้งอาณาจักรปรัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย

ในช่วงที่แม็กซ์เป็นเด็ก รัสเซียกำลังเป็นนายโปแลนด์

ในวัยเพียง 14 ปี แม็กซ์ถูกชักชวนให้ไปทำงานกับร้านชื่อดังแห่งมอสโก ซึ่งรับทำวิกและเครื่องสำอางให้คณะอิมพีเรียล แกรนด์ โอเปร่า

ช่วงเวลานี้ แม็กซ์เรียนรู้เรื่องการแต่งหน้าแต่งผม ความสำคัญของแสงและเงา เคล็ดลับ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ เกี่ยวกับการละคร

แม้จะเรียนหนังสือมาน้อยเหลือเกิน แต่แม็กซ์ก็อาศัยการทำงานเป็นโรงเรียน จะว่าไปแม็กซ์ซึ่งเป็นยิวใช้ชีวิตแบบเดียวกับพุทธภาษิตที่ว่า “สรรพวิชาควรเรียนรู้ให้หมด” ไม่ใช่จากโรงเรียนซึ่งเขาแทบไม่มีโอกาสได้เฉียดใกล้ แต่จากทุกสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต แม็กซ์เก็บเกี่ยวไว้เป็นความรู้ ราวกับเห็นล่วงหน้าว่าในอนาคตมันล้วนจะเป็นประโยชน์แก่ชีวิตเขา

ความรู้ที่มาจากการฝึกหัดจนชำนาญ ล้ำค่ายิ่งกว่าความรู้ที่หาได้จากโรงเรียนหรือหนังสือ

เขากลายเป็นคนโปรดของนักแสดงแห่งอิมพีเรียล แกรนด์ โอเปร่า และทำงานอยู่ในร้านนี้ถึงสี่ปีเต็ม ก่อนที่จะถูกเกณฑ์ทหารเมื่ออายุ 18

ก่อนจะไปดูว่า แม็กซิมิเลี่ยน แฟ็คตอรอวิค์ซ ไปทำหน้าที่อะไรในกองทัพ ลองฟังมิคาเอล สเวทลอฟร้องโอเปร่าแบบรัสเซีย เพลินๆ กันไปก่อน

ฟัง Mikhail Svetlove ร้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image