อ่านความในใจของน้ำผึ้ง – ธนัญญา รักแก้ว,ตงตง – กฤษกร กนกธร,ปิ่น – พรชนก เลี่ยนกัตวา และเจนนี่ – รติพันธ์ พันธ์พินิจ ‘เดอะ สตาร์ 12’ หมายเลข 1-4 ไปแล้วเมื่อวานนี้
มาวันนี้ หมายเลข 5 เน็ท – ปนัสยา กิตติกถากุล อดีตเกิร์ลกรุ๊ปวง แคนดี้มาเฟีย มาขอเปิดใจต่อว่า สำหรับสิ่งที่ตั้งใจในการมาเวทีนี้คือ “อยากมีงานในหลายๆ ด้านบันเทิง และหวังว่าจะได้ทำ”
เพราะตั้งแต่เด็กๆ ก็ฝึกเรียนร้อง เรียนเต้น เป็นพิธีกร ถ่ายแบบมาแล้ว จึงอยากต่อยอดไปเรื่อยๆ
ขณะเดียวพอได้ไปฝึกงานด้านอื่นก็รู้สึกไม่มีความสุขเหมือนตอนร้องเพลง เลยขอมุ่งสู่งานบันเทิงอย่างจริงจังดีกว่า
ซึ่ง ณ ตอนนี้ เจ้าตัวว่า “รู้สึกขอบคุณตัวเองที่วันนั้นตัดสินใจไปออดิชั่นเดอะสตาร์”
รวมทั้งต้องขอบคุณความถนัดทางด้านการเต้น ซึ่งพาให้เธอผ่านเข้ารอบมาได้
“เน็ทค่อนข้างชัดเจนเรื่องของการเต้นแล้วก็การคุมเสียงร้องตอนเต้น พอเป็นเพลงเร็ว ทุกคนจะชอบจับตาว่าเมื่อไหร่เสียงจะสั่น แต่ค่อนข้างน้อย ก็พยายามฝึกฝนให้ดีขึ้น อาจจะไม่ได้เพอร์เฟ็กต์แต่เป็นข้อดีจุดหนึ่ง” เน็ทว่า
ก่อนจะบอกถึงข้อควรปรับปรุงอย่างเรื่อง “หุ่น” ที่แต่ก่อนขายความแบ๊ว ความอวบที่ติดตัวเลยช่วยให้ดูน่ารัก แต่จะเป็นปัญหาในอนาคตซึ่งต้องใช้ “ความเซ็กซี่” เป็นจุดขาย
นั่นไม่ใช่เพราะอยากดังจนทำอะไรก็ได้ แต่สาวสวยวัย 21 ว่า “ชีวิตเน็ทไม่ใช่อยู่เกิร์ลกรุ๊ปแล้วโอเคจบ”
“เน็ทไม่ได้อยากปิดโอกาสตัวเอง อยากเปิดโอกาสให้ตัวเอง อยากได้ทำอะไรสิ่งใหม่ๆ ได้พิสูจน์ตัวเอง”
คล้ายๆ กับ จัมโบ้ – วรกฤต วรกุล หนุ่มเชียงใหม่ วัย 21 หมายเลข 6 ที่บอกเลย “คิดว่าจะมาลบภาพเสียๆ ของปีที่แล้วที่ทำไว้”
เพราะเมื่อเดอะสตาร์ 11 เขาเข้ามาเป็นตัวแทนภาคถึงรอบ 25 คนสุดท้ายแล้วก็จอด
“ที่ผมเลือกมาประกวดอีกรอบหนึ่ง เพราะว่าปีที่แล้วทำไม่ค่อยดี โชว์ไม่ดี ไม่กล้า เป็นคนขี้อาย เลยอยากกลับมาแก้ไขให้มันดี”
โดยระหว่างที่หายไปจัมโบ้ใช้วิธีไปร้องเพลงตามผับเพื่อสร้างความมั่นใจต่อหน้าคนเยอะๆ และผลก็ดีขึ้นมากจนพาให้ถึงรอบนี้
“ประสบความสำเร็จแล้วครับ” คนพูดว่ายิ้มๆ
ถึงอย่างนั้น “ก็อยากจะทำความสามารถของเราให้มันยิ่งๆ ขึ้นไปอีก”
“เพราะสำหรับผมเป้าหมาย ก็คือ อยากมีงานที่เลี้ยงครอบครัวได้ ไม่สนว่ามันเป็นงานอะไร แล้วมันก็ดีนะครับถ้าได้อยู่ในวงการ ได้สิ่งที่เรารัก เราอยากทำ สามารถดูแลตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้”
ไม่ต่างจาก พรีน – รวิสรารัตน์ พิบูลภานุวัธน อดีตนักร้องอาร์เอส วัย 23 ผู้ได้ หมายเลข 7 ที่ว่า “นอกจากอยากมีโชว์ของตัวเองอาจจะไม่ต้องใหญ่ แต่มีเพื่อนๆ แฟนคลับคอยติดตามซัพพอร์ตแล้ว เราก็อยากให้สิ่งที่เราทำแล้วสามารถจุนเจือครอบครัวได้”
เพราะเธอไม่ต่างจากเพื่อนหลายคน ที่พอได้ลองทำงานร้องเพลงแล้วจะให้ไปทำงานอื่นๆ ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่
ถึงอย่างนั้นก็จำขึ้นใจว่า งานบันเทิงไม่ใช่เรื่องง่ายไปซะทีเดียว
“การประสบความสำเร็จจริงเป็นเรื่องที่ยาก คนที่เคยผ่านมาอย่างเราจะรู้ว่าเป็นทั้งแรงกดดันและแรงผลักดันในเวลาเดียวกัน เรารู้ว่าถ้าเราเลือกจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราต้องไปเจอเรื่องยากลำบากอีกมากมายที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้”
ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คาดหวังถึงชัยชนะ เพราะสิ่งสำคัญกว่าคืออยากให้คนประทับใจในเวทีนี้
“พอถึงตรงนี้มันไม่ใช่การแข่งขัน เดอะสตาร์ 12 เป็นความพิเศษสำหรับเรา วันนี้ยังนั่งคุยกันอยู่เลยว่าเราไม่อยากจะเชื่อว่าเป็น 1 ใน 8 คนสุดท้าย เลยรู้สึกว่าอยากทำโชว์ของเราให้เป็นโชว์ที่ดีที่สุดในทุกโชว์ อยากให้เขาจำภาพเดอะสตาร์ 12 เป็นปีที่เจ๋ง”
ปิดท้ายด้วย บิ๊ก – กฤษฎา จันทร์ดี หนุ่มเบญจเพส หมายเลข 8 ซึ่งสารภาพตามตรง “มาประกวดเพราะอยากเปลี่ยนชีวิตที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น โดยเราสามารถทำงานในสิ่งที่เรารักแล้วก็ต่อยอดให้มันส่งผลถึงครอบครัวครับ”
กระนั้นคนพูดรีบออกตัว “บอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้มาสายหน้าตาดี แล้วก็เสียงที่ดีมาก แต่ผมมีความตั้งใจและความมุ่งมั่น รับคำสอนของครูที่เขาสอนให้เต็มที่”
ดังนั้น การมาประกวดครั้งนี้เลยไม่กดดัน ยิ่งพอเข้ารอบ 8 คนที่ทุกคนเป็นเพื่อน เป็นคนที่มีความฝันเดียวกัน ทุกอย่างยิ่งผ่อนคลาย
โดยเขาย้ำ “สิ่งที่นอกจากรางวัล คือ การเอาชนะใจตนเอง”
“เรามีความสามารถ เรามีฝัน แต่ถ้าเราไม่กล้าที่จะทำอะไรสักอย่าง มันก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที การที่เรามาถึงจุดนี้ได้ คือเราชนะใจตนเองละ”
“แล้วเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง”
“มีผู้ใหญ่คนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า คนเรามีอยู่ 3 อย่าง ที่จะประสบความสำเร็จ 1.พรสวรรค์ ติดตัวมา 2.พรแสวง คือสิ่งที่เราต้องไขว่คว้า 3.โอกาส ซึ่งบางทีมันไม่ได้เดินมาหาเรา” บิ๊กว่า
ก่อนจะย้ำ “เราต้องเดินไปหามัน ถึงจะประสบความสำเร็จได้”
อย่างที่พวกเขาทุกคนกำลังทำอยู่