ตกเป็นข่าวมาหลายวัน และล่าสุดเช้าวันนี้ (11 มิถุนายน) มิ้ง อดีตแฟนสาวของ กัปตัน ชลธร คงยิ่งยง ก็ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ว่า เธอตัดสินใจจะไปร่วมงานแถลงข่าว ที่กัปตันพร้อมด้วยคุณแม่ของเขาและบริษัท นาดาว บางกอก จำกัด จัดขึ้นในเวลา 15.00 น. ที่บริษัท นาดาว สุขุมวิท 31 โดยมิ้งเปิดใจว่า รู้สึกเครียดมากกับข่าวที่เกิดขึ้น
“ยังไม่ได้นอนเลยค่ะ ก็เครียด”
บอกอีก เพิ่งตัดสินใจจะไปร่วมงานตอนห้าทุ่มของเมื่อคืนนี้หลังคุยกับ บอม จงจิตต์ อินทุ่ง รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารศิลปิน บริษัท นาดาว บางกอก โดยเธอจะไปพร้อมกับคุณแม่
เมื่อถามว่าได้เตรียมหลักฐานอะไรไปในงานแถลงข่าวหรือไม่ มิ้งก็ว่า ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งสิ้น
“แค่พูดความจริง”
“แต่ตกลงกันกับทางนาดาวว่า จะพูดกันดีๆ จะไม่มีใครโจมตีกัน เพราะมันคือเรื่องจริง หนูตอบได้เลย โดยไม่ต้องคิดอะไร ไม่อึกอัก คนที่อึกอัก ก็คือคนพูดไม่จริงค่ะ”
สำหรับเรื่องที่มีข่าวว่าโดนกีดกันไม่ให้คุยกับกัปตันนั้น มิ้งบอกว่าเป็นเรื่องจริง แต่น่าจะมาจากทางบ้านของฝ่ายชายมากกว่า
ส่วนเรื่องการไม่ยอมไปตรวจครรภ์ตามที่บริษัทนาดาวร้องขอนั้น มิ้งยอมรับว่าเธอไม่ยอมไปจริงๆ แต่ก็มีเหตุผล
“บอกก่อนค่ะ ว่าไม่ไปจริง แต่มีเหตุผลว่าเขาติดต่อผ่านคุณแม่ ซึ่งคุณแม่หนูอยู่เชียงใหม่ ถ้าจะให้มิ้งไปกับเขาก็แปลก ซึ่งตอนแรก เขาก็ให้เราไปเอง อยากให้ไปตรวจที่สมิติเวช แต่บ้านเราอยู่พุทธมณฑลสาย 1 มิ้งรู้สึกว่ามิ้งก็ยินดีมากนะคะ แต่ไม่อยากไปคนเดียว ก็รอคุณแม่กลับมาก่อน มิ้งทำให้เขาเยอะมาก จนพ่อมิ้งบอกว่า เวลาฝ่ายเราขอบ้าง ไม่เคยได้ เราเลยรู้สึกว่า บังคับอะไรเราไม่ได้แล้วตอนนี้ค่ะ”
ส่วนที่ในโลกโซเชียลมีการออกมาโต้อ้างว่าเธอเคยอ้างว่าตั้งครรภ์กับแฟนเก่า ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์จริงนั้น มิ้งก็ว่า
“บอกก่อนค่ะ ว่าหนูไม่รู้จักคนที่ออกมาอ้างกัน แต่เรื่องหนูเป็นเรื่องที่หลายคนเมาธ์กันในคณะ ระหว่างที่เรียนอยู่ แต่หนูเลิกกับแฟนเก่าไม่ดี จะแกล้งท้องเพื่อจับเขาทำไม”
มิ้งยังบอกด้วยว่า ตอนแรกเธอกับกัปตันเลิกคบกันในวันที่ 27 ธันวาคม 2560 แต่พอวันที่ 1 มกราคม 2561 ก็กลับมาคุยกันต่อ
“ก็ยังเจอกันอยู่ ไปกินข้าว ช้อปปิ้ง ดูหนัง ทำเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแค่ลดสถานะจากแฟนมาเป็นคนคุย”
เหตุผลที่เลิกกันในคราวนั้นมิ้งบอกว่าเป็นเพราะกัปตันไม่อยากโกหกนักข่าวเวลาให้สัมภาษณ์ เรื่องที่ว่ามีแฟนหรือไม่
“เขาแคร์แฟนคลับเขาด้วย เวลาตอบเลยไม่อยากโกหก ในส่วนนี้เราก็เข้าใจค่ะ เพราะเขาก็ดูแลเราดีมาตลอด เราก็ยอม”
สำหรับการตั้งครรภ์ในครั้งนี้นั้น มิ้งบอกว่าถ้านับตามประจำเดือนไม่มาก็เดือนครึ่งแล้ว
“หนูก็เครียด เป็นห่วงลูกด้วย ไม่ได้นอนเลย”
ขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกไม่ดีกับบทสัมภาษณ์ของฝ่ายชาย รวมถึงสิ่งที่แม่เขาเคยพูด
“แม่ของกัปตันเขาพูดแรงมากเลยนะ เขาเคยบอกกับหนูว่า ให้ระวังหน่อยแล้วกัน ถ้าจะเก็บลูกไว้ เพราะบ้านเขาก็มีโรคทางพันธุกรรม ซึ่งมิ้งก็พยายามจะคิดในแง่ดีแล้ว ว่าเขาอาจจะห่วง แต่จริงๆ ไม่น่าจะใช่”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าหากการแถลงข่าววันนี้ กัปตันยืนยันว่าจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น มิ้งจะว่าอย่างไร
คำตอบที่มิ้งให้ก็คือ “จริงๆ หนูเลี้ยงลูกเองได้ แต่เด็กก็ต้องมีชื่อพ่อ แต่แม่เขาเคยพูดกับหนูว่า ถ้าอยู่ด้วยกันได้ก็ไม่ให้อยู่ แล้วบอกด้วยว่า หนูควรพบจิตแพทย์ เรื่องการระงับอารมณ์”
“หนูเป็นคนสีหน้าออกค่ะ ตั้งแต่วันที่ทราบว่าตัวเองท้อง ก็ไปบอกกับฝ่ายชายที่บ้าน เขาก็พูดจาดูถูก ซึ่งเขาก็มีลูกสาว น่าจะเข้าใจหนูบ้าง”
ในส่วนของกัปตันนั้นเธอก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะคิดอย่างไร เพราะแม้กัปตันจะเคยพูดต่อหน้าบอมบ์ แม่ของตน และแม่ของเขา ว่าเขาเชื่อว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขา แต่อีกข่าวที่ได้ยินมาคือเพื่อนเขาบอกว่ากัปตันไม่เชื่อ
“แต่ถ้าไปตรวจ แล้วมีใบออกมา จะไม่เชื่อก็ตามใจ ให้ไปถามโรงพยาบาลเอา”
มิ้งบอกด้วยว่า ตลอดเวลาหลายวันที่มีข่าวออกมา เธอรู้สึกสับสนมาก
“รู้มาว่า ที่บอกว่ากัปตันโดนยึดโทรศัพท์คือไม่จริง และถ้าเขาพร้อมรับผิดชอบจริง หรือเป็นห่วงเราจริงๆ ก็คงหาทาง หาวิธีติดต่อมาหาเราบ้าง”
วันนี้ที่จะได้กันพร้อมหน้าในงานแถลงข่าวนั้น มิ้งบอกว่าเธอมีเรื่องอยากถามเยอะมาก
“เรื่องหนึ่งที่อยากถามคือข่าวที่บอกว่ากัปตันไปกินข้าวกับแฟนใหม่ที่คิงเพาเวอร์มันจริงไหม เพราะถ้าจริง เราเป็นแบบนี้อยู่ ทำไมเขาชิลล์จัง”
มิ้งยังบอกด้วยว่าทุกสิ่งที่ให้สัมภาษณ์นั้นเป็นความจริง อีกทั้งยังเชื่อด้วยว่า ถ้าสองครอบครัวมาคุยกันดีๆ ทุกอย่างก็คงจะจบลงด้วยดี
รอฟังความจากกัปตันและมิ้งอีกครั้งในงานแถลงข่าวช่วงบ่ายวันนี้
