เล่นคอมเมดี้มาหลายต่อหลายเรื่องทั้งละครและภาพยนตร์แถมยังเรตติ้งดี ทำเงินสูงมาตลอด รวมไปถึงล่าสุดในละคร ‘ทองเอก หมอยาท่าโฉลง’ กับบทบาท ‘ทองเอก’ ด้วยเหตุนี้ มาริโอ้ เมาเร่อ จึงได้ฉายาว่า ‘พระเอกตลกหน้าตาย’ ไปเรียบร้อย
กับเรื่องใหม่ที่กำลังฮอตฮิต ทางช่อง 3 ซึ่งออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี หลังข่าวภาคค่ำนั้น แม้ละครจะออกอากาศไปเพียงไม่กี่ตอน แต่มาริโอ้บอกตอนนี้ไปไหนก็มีแต่คนเรียกเขาว่า ‘ทองเอก’ แทนชื่อจริง และก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะยังมีคนเชื่อในฝีมือถึงขั้นขอให้เขารักษา
“มีคนเข้ามาบอกว่าป่วยนู่นนี่ เราก็แกล้งทำเป็นจับชีพจรให้” เขาเล่า
ก่อนขยายความเมื่อเห็นเราทำหน้าสงสัย ว่าที่เป็นอย่างนั้น เพราะเขาเองได้เรียนมาบ้าง
“แต่รักษาไม่ได้” บอกพลางหัวเราะลั่น
ในส่วนผลตอบรับของละคร มาริโอ้บอกว่า ดี น่าพอใจ
“คนดูกันเยอะบอกว่าดูแล้วคลายเครียด สนุกสนาน ได้ความรู้ด้วย” บอกเหตุผลที่เขาได้ยินมาเป็นชุด
ดังนั้นคนเล่นที่ไม่ได้คาดหวังใดๆ ก่อนละครออกอากาศ โดยที่คิดไว้มีเพียงการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดจึงปลาบปลื้ม
ในการเล่นแนวคอมเมดี้นั้น มาริโอ้บอกว่าสำหรับเขา นี่เป็นงานที่ “เหนื่อยหน่อย แต่ว่าสนุกครับ”
แต่หากใครจะมองว่าคอมเมดี้เป็นทางของโอ้ เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า “ไม่นะ”
“แค่ว่าโอ้มีชื่อเสียงจากเรื่องที่มันเป็นคอมเมดี้เยอะ คนเลยมองอย่างนั้น แต่ผมเล่นได้หมด จะดราม่าหรืออะไรก็โอเค”
ส่วนเบื้องหลังความฮากระจายในเรื่องที่คนดูชื่นชอบกันนั้น มาริโอ้เล่ายิ้มๆ ว่า มีทั้งที่ “อยู่ในบท” และที่อยู่ๆ ก็มา แบบนอกบทซะงั้น โดยเรื่องนอกบทที่ว่าโอ้บอกเขาเองมีอยู่บ้าง แต่จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม กับ ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ นี่หนัก ถึงขึ้นเล่นเองก็หลุดขำกันเองตลอด
“พี่จุ๊บจิ๊บกับพี่ฟรอยด์นั่นไม่มีอะไรที่อยู่ในบทเลย ก็อย่างที่เห็นครับ นอกบทล้วนๆ” เล่าแล้วมาริโอ้ก็ยิ้ม
“แต่นั่นคือหน้าที่เขาเลยในการเอ็นเตอร์เทนต่างๆ ซึ่งทำได้ดีมาก แล้วผมจะรู้สึกทุกครั้งที่พวกเขาไม่อยู่ จะเหงา เวลาถ่ายละคร”
นอกจากเรื่องสนุกเฮฮาที่คนพูดถึงกันเยอะ ฉากหนึ่งที่คนพูดถึงไม่น้อยคือฉากที่ทองเอกต้องถอดกางเกง จนเป็นที่มาของคำแซวที่ว่านอกจากจะเป็นพระเอกนมชมพู ที่ได้เห็นเมื่อครั้งเจ้าตัวถอดเสื้อเกณฑ์ทหารแล้ว พอถอดกางเกงก็ยังได้เห็นความขาวนวลเนียนใต้ร่มผ้า ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่านั่นน่ะของจริงแท้ 100%
ส่วนที่กล้าเล่นจริง ถอดจริง โชว์จริงขนาดนั้นก็เพราะ กับเดอะแก๊ง คืออีก 2 หนุ่มที่ร่วมเล่นด้วย “เราไม่มีอะไรต้องเขินกันแล้วครับ”
“ขยี้บี้กันสนุกสนาน สมจริงตามเรื่องเลย” เล่าแล้วก็หัวเราะลั่น
อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ ‘แม่ชบา’ ที่รับบทโดย คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ นางเอกของเรื่อง ที่ต้องฟาดฟันฝีปากกันมาตั้งแต่ต้น ซึ่งโอ้บอกเลยว่าตัวจริงนั้นเธอเป็นคนน่ารัก มีพลังงานเยอะ และจะมีเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างตลอด
“น้องคิมทำให้คนในกองหัวเราะ แล้วก็เป็นคนสนุกสนาน อยู่ด้วยแล้วเฮฮา แล้วก็รู้สึกว่าน้องมีเสน่ห์มากๆ”
อีกทั้งแม้ตอนเล่นจะรู้ว่าเคมีเข้ากันดี และต่างคนก็เต็มที่กับการสวมบทบาทมากๆ หากกระนั้นก็ไม่ได้คิดว่าแฟนจะจิ้นขนาดนี้ จิ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีฉากหวานๆ ด้วยกันอีกต่างหาก
แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าซีนจิกหมอนของทองเอกกับชบาจะไม่มี อย่างไรก็ดีของอย่างนี้ มาริโอ้บอกให้ใจเย็นๆ แล้วรอต่อไป
“มีแน่นอนครับ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ละครจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ จะเข้มข้นขึ้น มีเรื่องราวที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้น” มาริโอ้ซึ่้งรู้สึกสนุกตั้งแต่อ่านบทยืนยัน
แล้วว่า “มันจะทำให้คนดูอึ้งไปอีกเรื่อยๆ”
มาริโอ้ที่ถึงตอนนี้ทำงานในวงการมาได้ 14 ปีแล้ว บอกว่าตอนเข้ามาแรกๆ เขาไม่คาดคิดว่าจะยืนระยะในเส้นทางสายนี้ได้ยาวนาน
“แต่รู้สึกว่าต้องอยู่ เพราะเดี๋ยวไม่มีอะไรกิน” เล่นมุขแล้วเจ้าตัวก็ยิ้มเบาๆ
ก่อนจะเข้าสู่โหมดจริงจัง โดยว่าสิ่งเดียวที่เขาทำได้ และทำมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นคือ ตั้งใจทำในทุกโอกาสที่ได้รับอย่างเต็มที่
“และก็จะทำในสิ่งที่เราเชื่อแบบนี้ต่อไป เพราะรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพที่ดี”
“มันไม่เหมือนอย่างอื่นซึ่งต้องมีกิจกรรมที่เราต้องทำซ้ำ แต่นี่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลยในแต่ละวัน ได้ทำอะไรใหม่ๆ ทุกวัน สมองได้ทำอะไรใหม่ๆ ตลอด”
ดังนั้นหากอยู่ได้ยาวจริงๆ ยาวไปถึงขั้นวันหนึ่งต้องเปลี่ยนตัวเองมารับบทพ่อ ก็ไม่มีปัญหา
“ก็โอเค ก็อยากจะอยู่ไปนานๆ ครับ”
สำหรับตอนนี้ หากถามว่าเขาพอใจกับชื่อเสียงหรือจุดที่ยืนอยู่หรือยัง?
คำตอบจากมาริโอ้คือ ที่เขาคิดก็มีแต่เรื่องยังสนุกที่จะทำ ไม่ได้คิดเลยจริงๆ ในเรื่องสถานะหรือชื่อเสียงใดๆ แค่ “ภูมิใจที่เราทำงานเหนื่อยมา แล้วคนดูชอบ เป็นกำลังใจให้เรามากกว่า”
ถามมาริโอ้อีกว่า นอกเหนือจากสิ่งที่ต่างๆ ที่มีและทำในวันนี้ เขายังมีความฝันอะไรอีกไหม
ฟังแล้วเขาก็ตอบทันทีด้วยความมุ่งมั่นว่า อยากจะเป็นนักธุรกิจ
อยากทำงานค้าขายที่ไม่ถนัด แต่ก็สนใจ
และ “อนาคตก็คงทำแน่นอนครับ”
