พิ้งกี้ สาวิกา น้อมรับ-เข้าใจทุกฝ่าย วอนมองหลายมิติ ปมดราม่าอัยการเดือด ‘ให้รักพิพากษา’
จากกรณี นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) และอดีตอัยการสูงสุด กล่าวถึงการนำเสนอละคร “ให้รักพิพากษา” ละครช่อง 3 มีเนื้อหาบิดเบือนการทำหน้าที่ของพนักงานอัยการ ทำให้สังคมเข้าใจบทบาทอัยการที่ไม่ถูกต้องอย่างรุนแรง กระทบต่อความรู้สึกของอัยการทั่วประเทศ
ด้าน พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช รับบท ทนายคามีเลีย ในละครรักพิพากษา เผยถึงประเด็นดราม่าดังกล่าวว่า “กี้มองว่ามันเป็นละคร ละครก็มีชีวิตมนุษย์ ประเด็นนี้มันต้องแยก 3 มิติ คือ อาชีพ ทัศนคติตัวตน และการแสดง จริงๆ เขาก็มีสิทธิที่จะออกมาร้องเรียน”
“ทั้งนี้ทั้งนั้น ละครเรื่องนี้มันก็เป็นแนวคอมเมดี้ แต่ว่าสอดแทรกอาชีพของการเป็นทนายความ อัยการ นักกฎหมายต่างๆ น้อมรับและเข้าใจหมดทุกฝ่าย บางทีแง่มุมในการนำเสนออาจจะเป็นเรื่องที่ไปกระทบเขา แต่ในส่วนของการเป็นนักแสดงก็อย่างที่บอกว่า มันมี 3 มิติให้มอง แล้วแต่ว่าใครจะมองแบบไหน”
ถามต่อถึงเนื้อหาในละครมีการเสนอบทให้พนักงานอัยการไปไล่จีบผู้หญิง พร้อมเสนอให้มาเป็นพนักงานอัยการได้ ซึ่งข้อเท็จจริงทำไม่ได้ตามระเบียบกฎหมาย รวมถึงตอนออกศาลขึ้นบัลลังก์ก็มีผู้พิพากษาขึ้นนั่งบนบัลลังก์ 4 คน ทั้งที่จริงเวลาศาลขึ้นบัลลังก์ขึ้น 3 คน?
“จริงๆ ในเรื่องนี้กี้ไม่ได้มีส่วนในบทของการไปว่าความเลย เพราะกี้เล่นเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายในบริษัท หลายคนก็ถามว่าทำไมกี้ไม่มีว่าความหรือขึ้นศาลเลยในละครเพราะว่าทนายคามีเลียเป็นที่ปรึกษาในองค์กร ไม่ได้เป็นคนว่าความ ดังนั้นกี้ไม่ได้เข้าไปเห็นในฉากนั้นว่าเป็นอย่างไร เขานั่งกันยังไง อันนี้จึงไม่รู้เรื่องเลย”
ต่อข้อถามที่ว่าตอนที่รับเล่นละครซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพนักกฎหมาย คิดไหมว่ามันจะมีดราม่าตามมาหรือเปล่า? “กี้คิดว่าละครไทยมีเรื่องแบบนี้มาตลอด แทบทุกอาชีพเจอมาแล้วทั้งนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งจะมีองค์กรต่างๆ ที่เขาเข้ามา กี้คิดว่าทางผู้จัดฯ อาจจะทำใจไว้อยู่แล้ว”
“ถ้าจะให้ทำละครอะไรที่ไม่ต้องเป็นเรื่องเซ็นซิทีฟเลย ทำเป็นคนดีไปหมดเลยทุกอย่าง โลกของคนดี ซึ่งมันก็คงไม่ใช่ ฉะนั้นมันก็เป็นแง่มุมว่าเราจะมองในมุมไหนมากกว่า ในส่วนของเราเป็นนักแสดงก็ทำหน้าที่ของนักแสดงอย่างเต็มที่ที่สุด หากใครติติงทักท้วงอะไรมาก็รับฟังและน้อมรับค่ะ”
