‘ทราย เจริญปุระ’ แชร์ประสบการณ์ป่วยซึมเศร้า ต่อยอดประเด็น ‘พระมหาไพรวัลย์’ ชี้ ธรรมะรักษาไม่ได้

‘ทราย เจริญปุระ’ แชร์ประสบการณ์ป่วยซึมเศร้า ต่อยอดประเด็น ‘พระมหาไพรวัลย์’ ชี้ ธรรมะรักษาไม่ได้

จากกรณีมีแฟนเพจปรึกษากับพระมหาไพรวัลย์ว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้า โดยพระมหาไพรวัลย์ แนะนำว่า เป็นโรคซึมเศร้า ต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ ธรรมะไม่สามารถช่วยได้ ทั้งนี้ มีพระ และแม่ชี ตัดสินใจจบชีวิตเพราะโรคซึมเศร้านี้หลายรายแล้ว นั้น

นักแสดงสาว ทราย อินทิรา เจริญปุระ ได้แชร์เนื้อหา และระบุว่า ดีใจที่พระมหาไพรวัลย์หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา อีกทั้ง ได้แชร์ประสบการณ์ส่วนตัว ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

ตอนหาหมอ กินยา มันคือปรับเคมี (เรียกแบบนี้ละกันเนอะ ง่ายๆ)ให้ขึ้นมาก่อน ไอ้ความหมดเรี่ยมหมดแรง จมเตียง ไม่มีสมาธิ ร้องไห้กับเรื่องที่เคยทำได้ พอเริ่มง่วงสมองก็ถมความเครียดความนอยมา หรือแปรงฟันทีละครึ่งชั่วโมงอะไรแบบนี้ให้ดีขึ้นก่อน ดึงมาให้รู้ก่อนว่านี่ป่วยนะ ต้องกินยาช่วย

Advertisement

พอไปถึงจุดนึงอะ เลาะ คุย เพิ่มแนวทางบำบัดที่เหมาะคู่กับการกินยา จะศิลปะ การเคลื่อนไหว ออกกำลัง พูดคุยต่างๆอันนี้แล้วแต่จริต

จากนั้นมันจะมีวันที่ดีและไม่ดี จากด่อนกินยาที่แม่งไม่ดีซักวัน ก็สังเกตไว้ จดไว้ ทำตารางอะไรใดๆตามถนัด ว่าตัวกระตุ้นคือดาวน์จากอะไร และอะไรช่วยให้ดีขึ้น รักษาความเสถียรนี้ไว้ สังเกตไว้ ปรึกษาหมอเรื่องแผนการลดยาไปจนออฟยา ทำบำบัดไปตามกระบวนการ

ตอนลดยาหมอจะไม่กระชากพรวดออกทุกตัว จะมีทั้งลดโดส จัดชุดยาใหม่อะไรใดๆว่าไป ก็สังเกตตัวเองสม่ำเสมอ ว่าไหวไม่ไหว ตัวไหนมีผลมากมีผลน้อยว่าไป ผ่านการบำบัดและหมอมาถึงจุดที่เริ่มทันตัวเองละ ว่าเฮ้ย อันนี้โรคละ ไม่ใช่เราละ หรือกูดาวน์ผิดค่าเฉลี่ยละ ไม่ได้ละ หรือถ้าเจออะไรทริกเกอร์แน่ๆคือไม่ชน ถอย ไม่คุ้มแลก

Advertisement

ออฟยาแบบหมดทุกตัว ก็จะสังเกตอาการต่อล่ะ มันชินไปแล้วกับการพยายามทันตัวเองกับสิ่งรอบตัว หาทางจัดการรับมือกับตัวเองในแต่ละวัน ซึ่งถ้าถึงที่สุดมันไม่ไหว ก็กลับไปหาหมอ ดึงกันใหม่ เราไม่ได้แย่ เราไม่ได้ล้มเหลวในความเป็นมนุษย์ เราแค่ป่วยและต้องการความช่วยเหลือ

ดีใจที่พส.พูดถึงประเด็นนี้ เพราะมีทั้งพระทั้งชีเยอะมากๆที่ไปหาหมอ บ้างก็ป่วยคั้งแต่เป็นฆราวาส แล้วมีคนแนะนำให้ไปทางธรรม (ซึ่งคนชอบแนะนำแบบนี้กันเยอะด้วย-*-) ก็พรวดไปสุดตัวเลย กลายเป็นอยู่เดี่ยวๆยิ่งมีเวลาจมกับตัวเองลงไปเรื่อยๆ หนักกว่าเดิม ไม่ปรึกษาใครด้วยเพราะทั้งความป่วยทั้งสถานะใหม่ที่คุยยากขึ้น หรือไม่ก็บวชแล้วป่วย (อย่าลืมว่าอยู่ในสถานะไหน นุ่งห่มอะไรเราก็เป็นคน บางส่วนบางเสี้ยวในร่างกายมันรวนนี่เราควบคุมไม่ได้)

ใครไปศรีธัญญาเหมือนเราก็คงเคยเห็น ว่าแยกแถวเก้าอี้รอเพื่อพระ/แม่ชีกันเลย ธรรมะนั้นดีในแง่ธรรมชาติและการรู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน แต่มันไม่ใช่ยาครอบจักรวาลที่จะพาคนหายป่วยได้โดยไม่ร่วมมือกับศาสตร์อื่นๆในแง่ของความป่วยไข้ทางใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image