‘สภาทอล์ค’ มาแล้ว! ขอหยิกแกมหยอกล้อสภาจริง ตั้ง ‘พิษณุ สกุลโรมวิลาส’ ประธานสภา

‘สภาทอล์ค’ มาแล้ว ขอหยิกแกมหยอกล้อสภาจริง ตั้ง ‘พิษณุ สกุลโรมวิลาส’ เป็นประธานสภาของรัฐแบน

มากันพร้อมหน้าในงานแถลงข่าว “สภาทอล์ค” ที่นักพูดมืออาชีพนำทีมโดย พิษณุ สกุลโรมวิลาส ในฐานะประธานสภา ขณะที่สมาชิกสภาประกอบด้วย พนม ปีย์เจริญ, เสน่ห์ ศรีสุวรรณ, วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์, สมภาคย์ ชูโชติ, สมชาย หนองฮี ฯลฯ

จุดเริ่มต้นที่คิดทำรายการนี้ สมาชิกสภาอย่างพนมบอกว่า เกิดจากการพูดคุยแล้วมองเห็นถึงสภาพบ้านเมืองที่อยากให้ประชาชนได้รับรู้ว่าวิธีการทำงานของรัฐสภาทำกันยังไง

“แต่ถ้าจะใช้ในเชิงวิชาการเกรงว่าจะเข้าใจยากเกินไปเลยประยุกต์ให้เป็นสภาทอล์ค ทำให้ชาวบ้านเห็นว่าตัวแทนที่เขาเลือกมา ทำหน้าที่อะไร บริหารอะไร ฝ่ายค้าน ฝ่ายตรวจสอบทำกันยังไง”

Advertisement

“ทำเป็นวิชาการแล้วพอมันไม่สนุก ไม่ตลก ชาวบ้านก็จะรับรู้ได้ไม่นาน เราเลยจัดให้แบบน่าสนใจและสนุก ในรูปแบบดิจิทัลครับ”

ครั้งนี้ “พนม” บอกว่า พวกเขาจะนำเสนอแบบให้เข้ากับยุคสมัย

Advertisement

“ที่เห็นชัดๆ เลยคือพวกเราใช้คำพูดที่ทันสมัยขึ้น ให้สอดคล้องกับเด็กยุคใหม่ที่เขาใช้คำพูดสั้น กระชับ แล้วก็โดนในภาษาวัยรุ่น และถึงแม้ว่าเราจะอายุมาก เราเชื่อว่าเราปรับตัวได้ ซึ่งในสภาจริงก็ควรจะทำแบบนั้น”

ด้าน “เสน่ห์” บอกว่า การกลับมาครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มีความกังวลใดๆ

“ความกังวลเราไม่มีครับ ถ้ามีเราก็ไม่กลับมา เราได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้ แล้วก็ทนายไม่น่าช่วยอะไรได้ (หัวเราะ) ความหมายคือเรามีเกราะป้องกันตัวเราเอง คือสภาทอล์คจะหยิกแกมหยอกสภาจริง สาระหาได้อยู่ในนี้ แล้วมีความสนุกสนาน คนอยู่ในสภาทอล์คไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง ก็จะมีคนดังๆ อยู่ในแวดวงทั้งหลาย อาจจะเป็นคนที่เราไม่ได้เห็นในสภาจริง หรือว่าจะอยู่ในสภาจริงแล้วก็ออกไปจากสภาจริงก็มี ก็อาจจะมาอยู่ในสภาทอล์คของเราได้

“เพราะฉะนั้นก็จะเป็นการพูดสะท้อนภาพในมุมมองของคนที่เป็นนักพูด นักแสดง แล้วที่สำคัญที่สุดคือมันจะทันยุค ทันเหตุการณ์ ทันกระแส อาจจะมีมุมมองบางมุมที่ใครไม่ได้พูดถึง แต่เราในฐานะที่เป็นนักพูดก็จะมีการพูดแกมหยอก เอามาสะเทือน เอามาสะท้อนให้ได้เห็น ก็เป็นอีกแง่มุมนึง เพราะทุกวันนี้คนไทยเราก็ติดตามความเคลื่อนไหว อย่างที่อาจารย์พนมบอกเราไปตามมากๆ มันเครียด แต่เรามั่นใจว่าคนที่ดูสภาทอล์คของเราจะไม่เครียด เพราะคนทำรายการนี้เครียดก่อนแล้ว (หัวเราะ)”

“เราเตรียมกันอย่างดีแล้ว จนกระทั่งมั่นใจแล้วว่าเราจะออกมาสะท้อนความสนุกสนาน ที่สำคัญไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร นี่คือจุดมุ่งหมายของเรา เราจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับใคร แต่อย่างน้อยที่สุดมันกระตุกความรู้สึก หรือกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึก หรือให้เห็นแง่มุมอะไรต่างๆ ที่น่าสนใจ”

ยืนยันด้วยว่า การทำรายการไม่ได้จะไปจิกกัดรัฐบาล

“ไม่ใช่ครับ” เขาบอก

“เราไม่ได้ทำให้ไปจิก ไปจี้ มุมที่เขาดีเราก็อาจจะเอามาเพิ่มเติม แต่มุมไหนที่เรามองว่ามันเป็นแบบนี้ได้ไหม หรือบางครั้งบางเรื่องที่คนอาจจะไม่เข้าใจ แต่เรามาพูด คนอาจจะเข้าใจมากขึ้นก็ได้ แน่นอนทุกเรื่องที่อยู่ในกระแสเราต้องเอามาพูด จะมีอีกหลายมุมที่เราเอาพูดแล้วเชื่อว่าคนฟังจะเกิดความสนใจขึ้นมา ต้องบอกว่ามันประเทืองปัญญาไปในตัวนะ เพราะบางทีเราไปเจอบางสื่อ เขาถูกจำกัดไว้ในมุมของเขาพูดออกไปแนวนี้ แต่เราจะพูดอีกแนวนึง แต่เรามั่นใจว่าเป็นการสะท้อนแง่มุมที่ดี”

สำหรับ “วสันต์” บอกว่า “ในแง่ประชาชนที่จะได้แน่ๆ ผมว่าคนไทยเราอึดอัดคับข้องใจมา 9 ปีแล้ว ดูทรงจากพฤษภาคมมาก็น่าจะคับข้องใจไปอีกหลายปี เพราะฉะนั้นการมาของสภาทอล์ค มาถูกที่ ถูกเวลา มันเป็นเวทีที่ทำให้เรามีที่จะได้พูด ได้แสดงออก ซึ่งก็เป็นทีเล่นทีจริงที่สามารถสะท้อน เพราะบางทีคนอาจจะไม่ได้พูดเอง แต่มาพูดแทนให้มันคลายความอึดอัดคับข้องใจนะ แล้วเราก็แน่ใจว่าพวกเราทั้งหมดสามารถที่จะใช้วาทะศิลป์ ใช้ระบบวิธีคิด พูดแทนประชาชนได้ในรูปแบบทีเล่นทีจริง ก็จะเห็นว่าเราเลี่ยงไป

“รัฐบาลเราก็เป็น ‘รัฐแบน’ ฝ่ายค้านก็เป็น ‘ฝ่ายค้อน’ รัฐมนตรีเราก็เป็น ‘รัฐมนตรีเทียม’ เปลี่ยนแปลงหมด หวังว่าเวลาขังคุกก็เอาไปขังคุกเทียมให้เราด้วย (ยิ้ม) เราไม่ได้อยากจะอยู่คุกจริง อันนี้ก็ต้องขอกัน เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่ารายการนี้น่าจะเป็นแสดงออกสมกับสโลแกนของรายการ สภาทอล์คคือที่สำหรับคนนอกสภา อันนี้ถือว่าเป็นเครื่องผ่อนคลายอย่างหนึ่ง น่าจะทำให้คนไทยมีที่มีทางผ่อนคลายมากขึ้นครับ”

สำหรับรายการจะออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.30-19.30 น. เริ่ม 1 ตุลาคม ทางช่องไทยไทแชนแนล และทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ สภาทอล์ค และติ๊กต็อก sapatalk นั้น นอกจากบรรดานักพูดที่มีชื่อข้างต้นแล้ว ยังจะมีบรรดา “คนหน้าเหมือน” มาร่วมรายการ ไม่ว่าจะเป็น จิรายุส ยวดยิ่ง ที่สวมบท ธนาเทียม, จักรพันธ์ ผิวงาม คือ พิเทียม, โปรดปราณ จันทารักษ์ คือ คุณช่อเทียม, ธงชัยชนะ กันธิรา คือ รังสิมันต์เทียม, นที แก้วไทรดวง คือ อนุเทียม, พะเยาว์ นิ่มมา คือ ลุงตู่, ไชยณรงค์ ล้อทนงศักดิ์ รับบท ลุงป้อม, อนุชิต สินสมุทร รับบท ชูวับ, โชคประจักษ์ บุญทาบทอง ในบทบาท ชาดา, ธนากร สีใส คือ กำนันนก, ธเนศ โสมดำ มาในบทบาท เนวิน, ปกรณ์ รื่นรมย์ คือ วิโรจน์

สำหรับ “อนุชิต” บอกว่า ก่อนจะเป็น “ชูวับ” เขาโดนทักเพราะคิดว่าเป็นชูวิทย์บ่อยมาก

“เพราะความเหมือนของผมน่าจะขึ้นในลักษณะ 96-97%”

ส่วน “ธงชัยชนะ” นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เป็น “รังสิมันต์เทียม” บอกว่า เขาเริ่มต้นจาการถ่าย TikTok เล่นในช่วงการหาเสียง

“สุดท้ายกลายเป็นไวรัล มีคนตั้งชื่อว่ารังสิมันต์เทียมครับ”

“ตัวผมมีความชื่นชอบพี่รังสิมันต์โรมอยู่แล้ว เป็น ส.ส.หนึ่งท่านที่กล้าชนกับอำนาจมืด เวลาผมจะเล่นเป็นท่าน เรื่องหน้าก็คงคิดว่าผมเหมือนจริง (หัวเราะ) การเล่นก็พยายามจะคีพลุค ดุดันไม่เกรงใจใคร อย่างพี่โรมครับ”

เขาบอกด้วยว่า ตอนเล่นบทบาทนี้ก็มีความกลัวๆ อยู่บ้างว่าจะเผลอหลุดที่ทำให้มีปัญหาทางกฎหมายภายหลัง

“แต่ผมก็รู้สึกว่าผมเป็นหนึ่งคนที่เขาเรียกว่าหัวคะแนนธรรมชาติ ที่ทำให้คนรู้จักพรรคก้าวไกลมากยิ่งขึ้น ผ่านพรรคก้าวสั้น (ยิ้ม) เพิ่งเจอพี่โรมไปหมาดๆ เลยครับ เขาก็บอกว่าถ้าจะคัพเวอร์เป็นพี่ พี่ดุดันนะน้อง เหนื่อยหน่อยนะ (หัวเราะ) เขาไม่ได้ว่าอะไร เพราะผมก็ไม่ได้ทำให้พี่โรมเสื่อมเสีย”

ส่วนถ้าหากมีคนที่แยกไม่ออก เพราะความเหมือนชนิดบางคนใช้คำว่า “เป็นฝาแฝดที่พลัดพรากกัน” ธงชัยชนะบอกว่า เขาก็ตระหนักในเรื่องนี้ ดังนั้น จึงจะระมัดระวังเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายใดๆ

“อันนี้เป็นเรื่องสำคัญเลย ผมก็จะบอกเลยว่าผมไม่ใช่รังสิมันต์โรมนะ ผมเป็นรังสีมันต์เทียมครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image