เปิดใจเจ้าแห่งซีรี่ย์วัยรุ่น กลเม็ดคู่จิ้น-ยาขมเคลือบน้ำตาล

สร้างกระแสความนิยมมาตั้งแต่ ‘รักนะเป็ดโง่’ แล้วหลังจากนั้นจีเอ็มเอ็มทีวี ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่ถนัดงานสื่อสารกับวัยรุ่นก็มีงานมาให้ชมอย่างต่อเนื่อง แถมแต่ละเรื่องนั้นก็มีจำนวนผู้ชมมากมาย หากกระนั้นสถาพร พานิชรักษาพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ก็บอกตามตรงว่าเขาเองไม่คิดเหมือนกันว่าพอให้ทำสถิติของจำนวนผู้ชมแล้ว จะพบว่าในปีที่ผ่านมาซีรี่ย์ทั้ง 5 เรื่องที่เขาทำจะรั้งตำแหน่งท็อปไฟว์ ได้ใจผู้ชมไปเต็มๆ

“ตอนแรกที่ให้น้องๆทำ ก็เฮ้ย ลองดู เพราะมีคนพูดกันว่ายูปริ๊นซ์มันไม่แรง เหมือนตอนเปิดตัวแรงมาก แต่พอออกอากาศแล้วเบาๆ เลยให้ไปทำเรทติ้ง บอกเขาว่าเอาที่เป็นซีรี่ย์วัยรุ่นจริงๆทั้งหมดที่เริ่มออกอากาศในปี 59 จะจบปี 59 หรือไม่ ไม่เป็นไร”

แล้วผลที่ได้ก็คือ จาก 20 กว่าเรื่องของทุกเจ้าที่ออกอากาศ อันดับ 1. ได้แก่ Sotus the Series : พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง , 2. U-Prince Series , 3. Kiss the Series , 4. Lovey Dovey :แผนร้ายนายเจ้าเล่ห์ และ 5. รุ่นพี่ Secret Love

เหตุผลที่ครองใจได้นั้น คนทำบอกว่า จากมุมมองเขา “เราอาจจะมีประสบการณ์มาในระดับหนึ่ง”

Advertisement

“ในช่วงปีแรกๆที่เราทำ เรามองว่าเป็นบลูโอเชี่ยน เป็นตลาดที่ยังไม่มีใครเข้ามาแข่งขันกันมากมาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ปีที่ผ่านมานี่เยอะเลย แต่เราอาจจะวางแผนมาในระดับหนึ่ง มีประสบการณ์มาในระดับหนึ่ง เลยทำให้มองอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น พอมองออกว่าทำแบบไหนวัยรุ่นจะชอบ ประกอบกับตัวออนไลน์เราก็วางพื้นฐานไว้ค่อนข้างแข็งแรง”

ทั้งนี้แม้จะ ‘พอมองออก’ “แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เราเชื่อ จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป ปีนี้เราจึงเปลี่ยนอีก ปีนี้โครงสร้างละครไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเลยนะ เพราะแต่ละปีเราก็มีประสบการณ์ว่าอันไหนใช่ อันไหนไม่ใช่อีก”

สถาพร

Advertisement

“ปี 2558 ละครที่เราประสบความสำเร็จทำมาจากนิยายของสนพ.แจ่มใส ปี 59 ก็จะเห็นยูปรินซ์ , คิส แล้วก็เลิฟวี่โดวี่ที่มาจากนิยายสนพ.แจ่มใส แต่อีก 2 เรื่องไม่ใช่”

อย่างไรก็ตามถ้าจะมองหาจุดร่วมของความสำเร็จ “ผมว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของการตอบโจทย์ในเรื่องจินตนาการเด็ก ก็คือเรื่องจิ้น แล้วก็ในเรื่องของความฟิน”

“อย่างต้นปี 2559 ที่ฮือฮาคือรุ่นพี่ซีเคร็ทเลิฟ ซึ่งคู่ของนนน (นะ-นน กรภัทร์ เกิดพันธุ์) กับต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง ค่อนข้างแรง พอมาคิส ซีรี่ย์ เราก็มี 2 คู่ มีคู่ที่เป็นคู่จิ้นวาย ชาย-ชายก็สำเร็จอีก พอมาช่วงปลายปีโซตัสก็แรงมาก”

ดังนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่ซีรี่ย์สร้างคู่จิ้นได้ ผลที่ตามมาก็มักจะดี

“ผมว่ามันมีส่วนมาก ไม่งั้นก็จะไม่มีอะไรที่เป็นตัวยึดให้เขาดูซีรี่ย์นี้ต่อไปจนจบ คือเขาจะติด เชียร์ แล้วก็จิ้นกับคู่ที่เขาคิดว่าเหมาะสมกัน ดีไม่ดี พอดูจบแล้วก็จะเรียกร้องต่อ”

เหมือนอย่างที่รุ่นพี่ซีเคร็ทเลิฟ ต้องทำตอน ‘ My Lil Boy 2’ มาเพิ่ม

แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าตัวแสดงจะสำคัญกว่าเนื้อหา เพราะความที่หลายครั้งเขานำนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งยังไม่มีฐานแฟนคลับใดๆมาเล่น ดังนั้นอย่างไรเสียเนื้อหาก็ต้องมาเป็นหลักก่อน

สำหรับซีรี่ย์ที่จะได้เห็นจากจีเอ็มเอ็มทีวี ต่อจากนี้ สถาพรบอกเลยว่าเนื้อหาจะเข้มขึ้น แล้วก็โตขึ้น

“จริงๆจะว่าไปแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นจุดอ่อนหรือจุดแข็งนะครับ แต่ซีรี่ย์ของเราหลายๆเรื่องในปีที่ผ่านมาดูเด็กไปหน่อย ก็จะปรับ”

หากก็คงไม่ไปถึงขึ้นเข้มและข้นจนซีเรียส

“เพราะผมก็ยังเชื่อว่าวัยรุ่นทั่วๆไป จุดประสงค์แรกก็คือดูซีรี่ย์เพื่อความบันเทิงก่อน เข้ามาดูแล้วเรื่องนี้สนุกไหม ดูแล้วจิ้นไหม ฟินไหม แต่แน่นอนอันถัดไปเราก็หวังว่าอย่างน้อยที่สุด ดูจบไปก็ได้อะไรติดกลับไปบ้างในเรื่องของแง่คิด ซึ่งเราจะดีใจที่เป็นอย่างนั้น แต่แน่นอนการจะใส่อะไรให้เห็นชัดๆเขาก็จะปฏิเสธ เราก็ต้องเคลือบๆไป บางครั้งอาจจะมองไม่เห็น แต่มันจะรู้สึก”

“อย่างโซตัสนี่ชัดเจนมาก ด้วยความที่เอาระบบโซตัสมาทำเป็นเรื่อง ไม่ใช่ว่าสนับสนุนระบบโซตัสนะครับ แต่จะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมที่เราต้องเจอ ตั้งแต่เรียนมา มันมีทั้งข้อดี ข้อเสีย”

ส่วนคิส ซีรี่ย์ ที่ฟังจากชื่อแล้ว “มันจะประโลมโลกมาก” เขายอมรับด้วยรอยยิ้ม

“แต่ในที่สุดมันก็จะมีเรื่องธรรมะชนะอธรรมอยู่เช่นกัน”

“เป็นสาระที่เราเคลือบน้ำตาลให้ เพราะถ้าให้โต้งๆบางทีเขาอาจจะปฏิเสธ เหมือนยาขมน่ะ เขาก็ไม่กิน”

“แต่เท่าที่เห็นบางทีในทวิตเตอร์ก็มีนะ เขาสะท้อนสิ่งที่เขารู้สึก ซึ่งคิดไปไกลกว่าเราอีก”

“ซึ่งเห็นแล้วก็ดีใจ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image