ว่าน ธนกฤต เปิดใจครั้งแรก หลังมีข่าวลือเลิก ฟาง และวันที่เข้าใจเรื่องรัก 7 ปี
สำหรับคู่รักนักร้องอย่าง ว่าน ธนฤกต และ ฟาง ธนันต์ธรญ์ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือและมีคนเดากันไปต่างๆ นานา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ว่าทั้งสองยังไงรักกันดีไหมหรือเลิกรากันแล้ว
ล่าสุด ว่านได้ไปเปิดใจในรายการ หลังไมค์ UNCENSORED ใน Ep.3 โดยได้พูดถึงความรักให้ฟังแบบเคลียร์คัทว่า
ความรัก (แฟน)?
“มีประโยคหนึ่งที่ฟางพูดกับผมเมื่อ 3 ปีก่อน พี่ว่านเหมือนจะไม่คล้ายว่าเป็นแฟนกัน เหมือนเป็นพี่ที่สนิทมากๆ คนหนึ่ง ที่คุยทุกเรื่อง ที่คุยเรื่องงานที่เก่งกว่าเรา ก็ดีแล้ว ไม่ใช่หรอ ผู้หญิงตามหาความเหมือนเดิมไม่ใช่หรอ ตามหาความมั่นคง ความมั่นคงและความเหมือนเดิมต้องน่าเบื่อ
ดูพ่อกับแม่ก็ได้ หันกลับไปดูตัวเองเลยที่บ้าน พ่อกับแม่เป็นไง น่าเบื่อ ต้องน่าเบื่อ ไม่มีเลยที่จะแบบโรแมนติก เซอร์ไพรส์ ไม่มีทาง ต้องน่าเบื่อ แต่ว่าจะเป็นความน่าเบื่อที่งดงามมาก เพราะว่า คนสองคนนี่จะอยู่ด้วยกันสม่ำเสมอ บางวันไม่อยากคุยกันด้วยซ้ำ เหม็นขี้หน้า แต่ยังต้องต้มแกงจืดทิ้งไว้ให้ ไม่อยากให้เขาตายด้วยการอดอาหาร จะเป็นแบบนี้ หรือผมก็บอกว่า พ่อแม่เรา พ่อแม่ฟางเอง เราก็เห็นประเด็นนะ เขาไม่อยากคุยกันทุกวันอ่ะ แต่เขาก็ไม่อยากให้คุณภาพชีวิตเขาแย่ เขาอาจจะซื้อลูกชิ้นหมูมาทิ้งไว้ให้ 5 ไม้ กินไม่กินก็แช่ไว้
ผมว่าฟางเป็นเรื่องที่แปลกมาก ผมเองก็ไม่เคยคบกับใครมาเป็นระยะเวลา 8 ปี อาจจะดูเบสิคสำหรับผู้ใหญ่ ด้วยความที่ผมไม่รู้ว่าวัฒนธรรมในชีวิต ฟางกับผมมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน สิ่งที่ต่างมีแน่ๆ แต่สิ่งที่คล้ายก็มีแน่ๆ คือเราล้วนแต่จะต้องมีเวลาของตนเอง เราจะมีห้องส่วนตัวของเรา แล้วก็เราจะไม่ยุ่มย่ามกัน หรือว่าแฟมิลี่เดย์ของเขา ของเรา เราจะไม่ยุ่มย่ามกัน เราจะมีพื้นที่สวนหน้าบ้านที่ตรงนี้แชร์ได้ มาเดินเล่นด้วยกันวันว่าง ใช้เวลาด้วยกันได้ แต่จะไม่มีใครถามอะไรให้ลำบากใจ ก็เลยเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ฟางถามวันนั้น ผมก็เออมันก็น่าเบื่อดีเนาะ นี่แหละคือแก่นของการคบกัน
ผมเริ่มเข้าใจที่บอก 7 ปี รัก 7 ปี อาถรรพ์เลข 7 เพราะว่าเลข 7 จะเริ่มแบบ เหมือนเดิมอีกแล้ว ผมศรัทธาในตัวฟางนะ
ผมขอบคุณเขาทุกวัน เขาเองก็ปรับตัว เปลี่ยนแปลงบางอย่าง ที่จะอยู่กับคนน่าเบื่อ งี่เง่า แบบผมได้ ผมเองก็ปรับตัวบางอย่าง เพื่อที่จะอยู่กับคนน่ารักและเย็นชาแบบฟางได้ คือไม่มีใครดี 100% อยู่แล้วแน่ๆ จนผมรู้สึกว่า ถึงจะเป็นแบบนี้ไปอีก หรือจะออกเรือนไปอยู่ด้วยกันเลย ผมมั่นใจว่า ผมดูแลเขาได้ เพราะว่าผมเริ่มเห็นแล้วว่า สิ่งที่ผมทำให้เขาคืออะไรบ้าง สิ่งที่ต้องรักษาสเปซตัวเองไว้ เพื่อให้ยังเป็นผมอยู่คืออะไรบ้าง”
ยังไงก็ยังมีฟางใช่ไหมสำหรับว่าน?
“ใช่ๆ มีข่าวเยอะ จนคนที่เขียนข่าวไม่เคยถามผมด้วยซ้ำ อันนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่พูดเรื่องนี้ ด้วยความเจ๋งคือ ฟางเขาเป็นคนไม่พูด ผมก็เป็นคนไม่พูด เราไปกินข้าวด้วยกันอยู่ประมาณ 4-5 ครั้ง
ก่อนผมไปบวช ผมก็บอกว่าปล่อยไว้อย่างนั้น ให้เขาพูดกันไป แล้วเราก็กินชาบูกันอร่อยๆ ดูซิว่าเรื่องจะไปถึงไหน (ไม่มีใครกล้าถาม?) ใช่ คือผมจะพูดเรื่องจริงอยู่แล้วถ้าเกิดเจ๊ง ก็จะบอกพี่แนนว่า ผมไม่สามารถพาความสัมพันธ์นี้ไปต่อได้แล้ว ในเวลา 8 ปี ผมแบบไปไม่ได้แล้ว แต่อันนี้ก็ยังไม่ได้เห็นว่าจะแย่อะไร สมมุติถ้าต้องไม่มีฟางจริงๆ ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะมีใครที่ทำให้หัวใจสั่นไหวแบบเมื่อครั้งนั้นหรือเปล่า”
เรื่องที่ทำให้ทะเลาะกับฟางบ่อยที่สุด?
“ไม่มี (8 ปีไม่ทะเลาะกันเลย?) ทะเลาะ แต่ไม่ใช่เรื่องหลัก (ไม่เป็นไรเรื่องไรก็ได้?) ถ้ามีนะ เขาบ่นก่อนละกัน ผมกลับช้าในบางวัน ผมอาจจะติดเฮฮาปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนในบางครั้ง กลับดึก ส่วนผมก็จะเริ่มบ่นฟางบางประเด็น เช่น ช้า ช้าที่ว่าคือ ไม่ใช่เข้าห้องน้ำนาน ผมรู้อยู่แล้วผู้หญิงเข้าห้องน้ำนาน แต่ตรงกระจกเนี่ย ซึ่งอันนี้ผมไม่ว่าละ โอเค อยู่ไปเลยในห้องน้ำ
แต่สิ่งที่ผมจะหงุดหงิดและบ่นฟางบ่อยครั้งคือ การเผื่อเวลา อาจจะเพราะผมแก่ขึ้นมั้ง โตขึ้น (ไลฟ์สไตล์เข้ากันหมดทุกอย่าง?) ถ้าฟางไม่ชอบฟางก็จะไม่ไป ถ้าผมไม่ชอบผมก็จะไม่ไป เพราะว่าอันนี้เป็นเรื่องที่ดี คืองานนี้ไม่เหมาะ นั่งกินข้าวกับถ่ายรูปเฉยๆ เราไม่ถนัด แต่ถ้างานนี้ไปร้องเพลงด้วยเราจะไป แต่ถ้าจำเป็น มีวาระ ผู้ใหญ่ชวน คุณน้าจัด ไปได้”
แพลนแต่งงานมีไหม?
“เป็นคำตอบที่เคยตอบหลายรายการมาก ผมพร้อมตลอดเวลา ผมอยากให้ฟางเขารู้สึกว่าเขาพร้อมก่อนดีกว่า ไม่ใช่ว่าผมอายุ 39 ต้องเอาเรามาเป็นตัวตั้งว่า เดี๋ยวจะมีบุตรยาก ผมว่าไม่แฟร์ ถ้าเรารักกันจริงๆ เมื่อไหร่ก็ต้องได้ หรืออาจจะไม่มีบุตร เมื่อเราไม่ไหว ก็ต้องไม่เป็นไร แต่เอาให้เป็นว่า เห้ยอยากแต่งงาน เออเราก็อยาก แบบนี้อาจจะดีกว่า”
ยังรักกันดี?
“ใช่”
