‘ตงตง’ ตอบเอง ปมถูกขุดภาพกินข้าวกับสาวอื่น หลังเปิดตัวคบ ‘สาลี่ เดอะสตาร์’

‘ตงตง’ ตอบปมถูกขุดภาพกินข้าวกับสาว หลังเปิดตัวคบ ‘สาลี่ เดอะสตาร์’

กลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาทันที สำหรับ พระเอกหนุ่ม ตงตง กฤษกร ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจยอมรับว่ากำลังศึกษาพูดคุยกับ นักร้องสาว สาลี่ เดอะสตาร์ หลังมีภาพควงคู่กันไปไหว้พระที่ฮ่องกง แต่กระนั้นก็ถูกขุดภาพควงสาวไปกินข้าวออกมา โดยล่าสุดเจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า

หลังเปิดตัว ‘สาลี่’ แต่ก็มีรูปนั่งข้าง ‘เบล บุษยา’ ออกมา?

“ก็มีคนส่งมาให้ผมดูบ้าง ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร จริงๆ แล้วผมกับพี่เมเปิ้ลรู้จักกันอยู่แล้ว แล้ววันนั้นเป็นวันที่ผมไปทานข้าวของเชฟถนอม จริงๆ พี่เขากำลังจะกลับแล้วแต่ว่าผมเดินไปข้างหน้าพอดี ผมบอกพี่เมเปิ้ลอย่าเพิ่งกลับ เข้าไปด้วยกันใหม่ก่อน เราก็เลยได้เข้าไปอีกรอบนึง ไปทานข้าว ได้ไปรู้จักคนนั้นคนนี้ แล้วก็เป็นพี่เบลถ่าย วันนั้นผมก็เพิ่งรู้จักพี่เบลครั้งแรกเหมือนกัน ตอนที่ภาพออกมาผมก็ไม่ได้ตกใจเลยครับ ผมกับพี่เมเปิ้ลสนิทกันมากๆ เป็นพี่สาวที่ผมสามารถคุยได้ทุกเรื่อง มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นแก๊ง ก็ไปเที่ยวเกาหลีแล้วก็รู้จักกันหมด ผมก็เลยไม่ได้ซีเรียสอะไร”

Advertisement

แต่ข่าวออกมาอีกมุมนึง?

“บางครั้งเราก็ไม่สามารถที่จะมาชี้แจงอะไรต่างๆ ได้ อะไรที่มันจริง ไม่จริง สำหรับผมทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายคนที่จะคอมเมนต์ก็จะมีทั้งคนชอบ คนเกลียด คนรัก คนไม่รัก เราไม่สามารถไปห้ามเขาได้ เพราะฉะนั้นผมทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยไป อย่างน้อยเรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง พี่เมเปิ้ลยังทักผมมาเลยว่า ดูสิ ผมก็ทำได้แค่บอกว่าตามนั้นครับ (ยิ้ม) ภาพนั้นมันก็นานมากแล้วนะ ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เบลถ่าย มาเห็นวันนั้น รู้วันที่มีคนส่งมาให้ผมนี่แหละ”

Advertisement

ต้องเคลียร์กับ “น้องสาลี่” ไหม?

“ไม่ครับ น้องรับทราบอยู่แล้ว วันนั้นผมบอกน้องอยู่แล้วว่าเจอใครบ้าง อยู่กับใคร”

ล่าสุดน้องก็ออกมาปกป้องเรา ว่าน้องเองก็รู้จักคนในภาพ?

“ผมเห็นแล้วครับ ผมคุยกับน้องตลอด ผมเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แค่อย่างน้อยเรารู้อยู่แล้วว่าน้องรู้อยู่แล้วว่าผมไป ผมอยู่กับใคร ผมแค่บอกน้องไว้ประมาณนึงว่าผมไม่อยากให้ออกมาต่อสู้อะไรแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้นบางเรื่องมันก็ไม่จบ อย่างน้อยผมโดนเดี๋ยวแป๊บนึงก็คงหายไป ถ้าน้องออกไปผมก็กลัวว่าเดี๋ยวจะมีอะไรมากระทบน้องอีกหรือเปล่า ทั้งที่ตัวน้องไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”

เราเป็นห่วงความรู้สึกน้อง?

“ใช่ครับ (น้องได้รับผลกระทบเยอะไหม?) จริงๆ ก็ไม่เยอะอะไรขนาดนั้น แต่หลักๆ ผมเป็นห่วงความรู้สึกของน้อง เพราะน้องก็ยังไม่ได้มีประสบการณ์ตรงนี้เยอะมากอะไร พอเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาเจอมันแค่นี้ หรือมากน้อยแค่ไหน เขาอาจจะไม่ได้เล่าให้ผมฟังอีกหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ เลยรู้สึกว่าไม่อยากให้ไปต่อสู้อะไรมาก”

เชื่อไหมว่าน้องจะรับมือกับโซเชียลได้?

“ผมก็มีความเชื่อนะว่าน้องจะเก่งและไหวกับเรื่องตรงนี้ เพราะน้องก็บอกผมเสมอว่าน้องไม่สน อย่างน้อยเราฟังกันและกัน แล้วน้องก็คอยพูดอยู่บ่อยๆ ว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ มันก็ทำให้เราโล่งใจไปประมาณนึง แต่สุดท้ายยังไงผมก็เป็นห่วงความรู้สึกของเขาอยู่ดี”

เราคุยกันในระดับนึงแล้ว ถ้าจะศึกษาดูใจกันจะต้องเจอแบบนี้?

“ใช่ครับ ผมบอกเอาไว้แต่ต้นแล้วว่ามันจะมีเรื่องอะไรแบบนี้ อนาคตก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเป็นยังไง แต่อย่างน้อยเราคุยกันทุกเรื่อง เราเล่าให้ฟังทุกเรื่องในทุกๆ วัน อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ดี”

เราคิดไว้อยู่แล้วว่าใครสักคนที่มาคบกับเรา อาจจะเจอเรื่องนี้?

“จริงๆ ก็คิดเอาไว้อยู่แล้ว ก็อยากที่จะพยายามพาเขาไปให้ถึงปลายทางให้ได้ ถามว่าผมมีน้อยใจไหมเหรอ อาจจะเป็นช่วงแรกๆ ที่ผมเคยผ่านมาแล้ว แต่ตอนนี้คำว่าน้อยใจมันไม่ได้อยู่กับผมแล้ว มันมีแต่คำว่าเป็นห่วงมากกว่า กับคนที่จะต้องเดินทางไปกับเราและกับสิ่งที่จะต้องเจอ เขาอาจจะไปเจอสิ่งที่ดีกว่านี้ก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้ ผมก็เลยค่อนข้างเป็นห่วงความรู้สึกของเขา ในระหว่างที่ต้องเดินไปกับผมแล้วเขาต้องเจออะไรแบบนี้ ก็จะเป็นห่วงตรงนี้ จริงๆ ล่าสุดน้องก็มาเล่าให้ฟังว่ามีโหรหรือหมอดูอะไรไม่รู้ครับ เขาทำช่องแล้วเอาดวงผมกับน้องไปดู แล้วเอาไปลงในโซเชียล มันก็ทำให้ตัวน้องรู้สึกไม่ดีอีก คือเอาไปดูได้แต่ไม่ใช่เอามาลงอะไรแบบนี้ ก็มีคอมเมนต์เข้าไปอีกทั้งดีและไม่ดี อันนี้มันเป็นดวงของเรา เขาก็คงไม่มีสิทธิเอาไปลงแบบนั้นหรือเปล่า คือผมก็ไม่ได้เข้าไปฟัง แต่น้องมาเล่าให้ฟัง แต่จริงๆ ผมว่าเขาก็ดูได้ไม่ชัดเจนหรอก ตราบใดที่ไม่รู้เวลาเกิดเราอย่างแน่นอน อย่างน้อยเขามีชื่อ วัน เดือน ปีเกิด ที่เสิร์ชตามกูเกิลแล้วดู สำหรับผมคิดว่าการที่เอาไปลงแบบนี้มันก็อาจจะไม่เหมาะหรือเปล่า มันเป็นดวงของเรา และเราก็ยังไม่ได้อนุญาตดู”

ฝากบอกเลยว่าไม่อนุญาตให้เอาไปลง?

“ใช่ครับ”

หลังจากที่เราออกมาให้สัมภาษณ์เปิดตัวน้อง ก็มีทั้งคอมเมนต์ที่ดีและไม่ดี ได้เห็นไหม?

“ผมดูบ้าง แต่ดูผ่านๆ ไม่ได้ดูทุกคอนเมนต์ จริงๆ เรารู้อยู่แล้วแหละว่าผลมันจะเป็นประมาณไหน ผมไม่อยากที่จะคาดหวังอะไรเลย เพราะว่าผมไม่อยากให้ใครก็ตามรู้สึกไม่ดี ณ วันนั้นที่ผมต้องพูดคือยังไงผมก็ต้องพูดให้ทุกคนได้รับรู้ แต่ผมไม่ได้อยากเปิดให้เป็นกระแส ผมแค่รู้สึกว่าคนคบกันหรือศึกษาดูใจกัน มันก็เป็นเรื่องของคนสองคน แต่เราทำอาชีพ ณ ตรงนี้อยู่ ผมก็ไม่อยากที่จะปกปิดอะไร เพราะวันนึงใครก็ไปถ่ายรูปหรืออะไรอีก ผมก็ตัดสินใจมาเล่าให้ฟัง แล้วก็พยายามมาอัพเดตให้พี่ๆ สื่อฯฟัง แต่ต่อไปในอนาคตจะเป็นยังไงผมก็คงจะอัพเดตกับพี่ๆ นี่แหละเป็นที่แรก”

อยากบอกอะไรถึงคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ หรือครหาในความรักของเรา?

“คนที่เข้าใจผมก็อยากขอบคุณครับ (ไหว้) ขอบคุณมากๆ อย่างน้อยก็เป็นแรงกำลังใจเหมือนเพื่อนร่วมเดินทางของผมด้วย ผมเชื่อว่าอาชีพนี้ถ้าไม่มีกำลังใจตรงนี้ก็ไปไม่ได้เต็มที่ อย่างน้อยเรามีกำลังใจเป็นแรง เป็นแฟนคลับ หรือเป็นคนที่เข้าใจเรา คอยร่วมทางเดินไปด้วยกันให้ถึงปลายทาง ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แล้วก็เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับผมด้วย ส่วนคนที่ไม่เข้าใจ ผมก็ไม่สามารถที่จะบอกอะไรเขาได้ เพราะสิ่งที่ผมทำได้ ทำได้เพียงแค่ ณ ปัจจุบันก็ต้องทำให้ดีที่สุด ผมคงไม่เล่าให้คนที่ไม่เข้าใจฟังแต่ละคนว่าผมเป็นแบบนั้น ผมเป็นอย่างนี้ครับ ผมก็คงไม่ทำแบบนั้น”

กับทางน้องได้เคลียร์เข้าใจกัน แล้วกับทางครอบครัวน้องได้คุยไหม?

“ผมกับคุณแม่คุณพ่อของน้องก็คุยกันตลอด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมแฮปปี้มาก มีความสุขมาก เพราะว่าอย่างน้อยคนที่เข้าใจเราก็มีคุณพ่อคุณแม่ของเขาด้วย ท่านคอยรับฟัง ไม่ตัดสินใจผมจากคอมเมนต์ต่างๆ ทำให้เราเปิดใจกับทุกๆ อย่าง กล้าคุยทุกเรื่อง เล่าให้คุณพ่อคุณแม่น้องฟังว่าจะเป็นยังไง จะเดินทางไปแบบไหน จะใช้ชีวิตยังไงในทุกๆ วัน ทำให้ผมสบายใจ และเป็นครอบครัวนึงที่ทำให้ผมอยู่ด้วยแล้วไม่ต้องมีอะไรปิดกั้น ไม่ต้องมีกำแพง ผมอยู่ด้วยแล้วมีความสุข”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image